เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อประมานปี 50-51 ขนะนั้นเพื่อนของดิฉัน สมมุติชื่อนายเอ(ขณะนั้นอายุ20 ปี ) นายเอมีเพื่อนชื่อบี อายุ 16 ปี นายบีอยากได้มอไซ
จึงขอยืมชื่อนายเอ ไปซื้อมอเตอร์ไซด์ แล้วบอกว่าเดี๋ยวจะให้นางซี ซึ่งเป็นน้าของ บี เป็นคนค้ำประกัน ซื้อมอไซ มูลค่าประมาน 40000 บาท
เป็นมอไซยามาฮ่ามีโอ ผ่อนไปๆมาๆเบ็ดเส็ดรวมดอกเบี้ยน่าจะราวๆ70000 บาท ที่นี้เอ กับบี เปลี่ยนที่ทำงานกันก็ไม่ค่อยได้ พบเจอกันต่างแยกย้ายไปทำงาน
พอนานๆวันเข้า ก็พบว่า นายบี ไม่ได้ไปจ่ายค่าผ่อนมอไซ ทำให้มีหนังสือเร่งรัดหนี้ส่งมาที่นายเอ
นายเอจึงไปตามหานายบีและนางซีซึ่งเป็นคนค้ำปรากดว่านางซีเนี่ยเจตนารวมหัวกะบี มาโกงโดยนางซีใช้เอกสารบัตรประชาชนปลอมในการเช่าซื้อรถมอไซ
แต่สุดท้ายแล้วตามอยู่ หลายเดือนหาจนเจอแล้วก็ได้ไปยึดเอามอไซคืนมาได้ แล้วก็ส่งคืนไฟแนนท์ไป
ระหว่างที่ไปตามหานายบี บริษัทมอไซด์ก็มีมาเก็บค่าเร่งรัดสารพัดสารเพทีละ 3000-4000 บาท ก็ต้องควักเนื้อจ่ายเป็นค่าโง่ไป
แล้วเอก็ได้ถามว่า แบบนี้จบแล้วใช่ไหม (ถามกับพนักงานที่มายึดมอไซ) เค้าตอบว่าเรียบร้อยแล้วครับพร้อมกับให้เอกสาร ที่เค้ารับรถกลับไปให้เรามา
หลังจากนั้น5ปีมีจดหมายมาทวงค่าส่วนต่างของมอไช อีก 69570 บาท ซึ่งเพื่อนเราก็เข้าใจว่าติดหนี้ต้องใช้ แต่รู้สึกว่ามันเกินจะรับผิดชอบ เพราะว่า นายบีก็ผ่อนค่างวดรถไป
บ้าง เอก็มีจ่ายค่าติดตามไปบ้าง แต่มาเก็บกันขนาดนี้รู้สึกไม่ยุติธรรมเราควรทำไงดี รบกวนผู้รู้มาช่วยตอบด้วยค่ะ ตอนนี้หาไม่เจอทั้ง บี ทั้งซีแล้ว ค่ะ
สัญญาเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์
จึงขอยืมชื่อนายเอ ไปซื้อมอเตอร์ไซด์ แล้วบอกว่าเดี๋ยวจะให้นางซี ซึ่งเป็นน้าของ บี เป็นคนค้ำประกัน ซื้อมอไซ มูลค่าประมาน 40000 บาท
เป็นมอไซยามาฮ่ามีโอ ผ่อนไปๆมาๆเบ็ดเส็ดรวมดอกเบี้ยน่าจะราวๆ70000 บาท ที่นี้เอ กับบี เปลี่ยนที่ทำงานกันก็ไม่ค่อยได้ พบเจอกันต่างแยกย้ายไปทำงาน
พอนานๆวันเข้า ก็พบว่า นายบี ไม่ได้ไปจ่ายค่าผ่อนมอไซ ทำให้มีหนังสือเร่งรัดหนี้ส่งมาที่นายเอ
นายเอจึงไปตามหานายบีและนางซีซึ่งเป็นคนค้ำปรากดว่านางซีเนี่ยเจตนารวมหัวกะบี มาโกงโดยนางซีใช้เอกสารบัตรประชาชนปลอมในการเช่าซื้อรถมอไซ
แต่สุดท้ายแล้วตามอยู่ หลายเดือนหาจนเจอแล้วก็ได้ไปยึดเอามอไซคืนมาได้ แล้วก็ส่งคืนไฟแนนท์ไป
ระหว่างที่ไปตามหานายบี บริษัทมอไซด์ก็มีมาเก็บค่าเร่งรัดสารพัดสารเพทีละ 3000-4000 บาท ก็ต้องควักเนื้อจ่ายเป็นค่าโง่ไป
แล้วเอก็ได้ถามว่า แบบนี้จบแล้วใช่ไหม (ถามกับพนักงานที่มายึดมอไซ) เค้าตอบว่าเรียบร้อยแล้วครับพร้อมกับให้เอกสาร ที่เค้ารับรถกลับไปให้เรามา
หลังจากนั้น5ปีมีจดหมายมาทวงค่าส่วนต่างของมอไช อีก 69570 บาท ซึ่งเพื่อนเราก็เข้าใจว่าติดหนี้ต้องใช้ แต่รู้สึกว่ามันเกินจะรับผิดชอบ เพราะว่า นายบีก็ผ่อนค่างวดรถไป
บ้าง เอก็มีจ่ายค่าติดตามไปบ้าง แต่มาเก็บกันขนาดนี้รู้สึกไม่ยุติธรรมเราควรทำไงดี รบกวนผู้รู้มาช่วยตอบด้วยค่ะ ตอนนี้หาไม่เจอทั้ง บี ทั้งซีแล้ว ค่ะ