โธ่...สหายเอ๋ย
ผู้ทุกข์ทนต่อชะตากรรมอันแสนบัดซบ
โดยที่มิได้มีข้อแม้เพียงสักประการ
เนินนานเพียงใดแล้ว..
ที่เจ้าได้แต่เจือกโลหะ
เข้าๆออกๆใส่เครื่องจักร
ตะกละมูมมามเฉกเช่นไอ้ตัวกินจุโสโครก
โดยไม่มีทีท่าว่าจะล้มเลิก
หน้าที่อันจำเจซ้ำซากของมันสักวันเดียว
เศษฝุ่นและคราบจารบีเพียงไรกัน
ที่เปรอะเปื้อนตามแขนขาและใบหน้าเจ้า
ทั้งยังประสมปนเปกับกลิ่นเหงื่อที่เจ้าได้มาเพราะความบากบั่น
จนแทบไม่ต้องบอกก็รู้
ว่าชายหนุ่มเช่นเจ้า
ประกอบสัมมาอาชีพที่ไร้เกียรติและโสมมเพียงใด
แต่กระนั้น
เจ้าก็ยังภาคภูมิใจที่ได้กำเงินเพียงไม่กี่ร้อยบาท
กลับบ้านไปหาบิดาผู้ชรา
เยี่ยงบุตรชายที่ไม่มีอะไรเลยเป็นชิ้นเป็นอัน
ก็เพื่อทำชีวิตอันต่ำต้อยของเจ้าให้สมกับเป็นลูกคนหนึ่งมิใช่หรือ??
ก็เพื่อต้องกินต้องอยู่บนโลกที่ไร้ความยุติธรรมใบนี้มิใช่หรือ??
ก็เพื่อนำมาซื้อข้าวของเครื่องใช้
เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ
ทั้งที่จำเป็น และก็ไม่จำเป็น
ตามรสนิยมชนชั้นกลางโสมม
เพื่อจะได้มีหน้ามีตาในสังคมอันปลิ้นปล้อนจอมปลอมนี้ มิใช่หรือ??
ถึงกระนั้น
หญิงสาวที่เจ้าแสนรักและเทิดทูน
ก็ยังปฏิเสธและเหยียดหยามเจ้าอย่างไร้ใยดี
ช่างหัวนางเถิด
ปล่อยนางไป
ให้หลงระเริงกับความคิดที่ว่า
สิปสติกสีแดงเฉิดฉัน
จะปกปิดรอยยิ้มเสแสร้งและเย้อหยิ่งของนางได้
ปล่อยให้สหายร่วมโลกของเราร้องแรกแหกกระเชอไปตามถนน
ทั้งๆที่บุตรชายและบุตรสาวของพวกเขาหิวโหยจนท้องกิ่ว
ปล่อยให้พวกเขาฝากความหวังลมๆแล้งๆ
ไว้กับรัฐบาลที่โปรดปรานและแสนรัก
ทั้งๆที่ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยก็ยังแหลกเหลวทั้งปีทั้งชาติ
มิได้มีอะไรดีขึ้นเลย
บรรดาหนุ่มสาวผู้มีอันจะกิน
ก็ยังดีดดิ้น ร่ำร้องหาระบำเปลื้องผ้าในผับบาร์อยู่
ชนชั้นนำก็กำลังฉลองความสำเร็จ
ที่ได้มาจากการฉ้อฉลด้วย ดอม เปริญองอยู่
ทหารที่ชายแดนก็ยังตายกันเหมือนผักปลา
โดยที่มิได้อะไรตอบแทน นอกจากธงชาติผืนเดียว
จากน้ำใจของผู้ที่ป่าวร้องว่ารักชาติอยู่เสมอ
มิได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิด
ความรู้ของนักวิชาการก็ยังเป็นแค่คำพูด
การศึกษาก็ยังเป็นเรื่องของชนชั้น
กวีผู้เฒ่าก็ยังยินดีกับโล่รางวัล
ที่ได้มาจากบทกวีที่เป็นเพียงนามธรรม
ช่างหัวพวกเขาเหล่านั้นเถิด
คงไม่มีสัจธรรมใดแล้วที่ดีไปกว่า
การยอมรับชะตากรรมอันบัดซบอย่างไร้คำถาม
และก็คงไม่มีสิ่งใดน่ารักใคร่ไหลหลงไปกว่า
เครื่องจักรเกรอะกรังที่เจ้าขับเคี่ยวอยู่ทุกวี่ทุกวันนั่นดอก
***ถึง...สหายผู้ทนทุกข์***
ผู้ทุกข์ทนต่อชะตากรรมอันแสนบัดซบ
โดยที่มิได้มีข้อแม้เพียงสักประการ
เนินนานเพียงใดแล้ว..
ที่เจ้าได้แต่เจือกโลหะ
เข้าๆออกๆใส่เครื่องจักร
ตะกละมูมมามเฉกเช่นไอ้ตัวกินจุโสโครก
โดยไม่มีทีท่าว่าจะล้มเลิก
หน้าที่อันจำเจซ้ำซากของมันสักวันเดียว
เศษฝุ่นและคราบจารบีเพียงไรกัน
ที่เปรอะเปื้อนตามแขนขาและใบหน้าเจ้า
ทั้งยังประสมปนเปกับกลิ่นเหงื่อที่เจ้าได้มาเพราะความบากบั่น
จนแทบไม่ต้องบอกก็รู้
ว่าชายหนุ่มเช่นเจ้า
ประกอบสัมมาอาชีพที่ไร้เกียรติและโสมมเพียงใด
แต่กระนั้น
เจ้าก็ยังภาคภูมิใจที่ได้กำเงินเพียงไม่กี่ร้อยบาท
กลับบ้านไปหาบิดาผู้ชรา
เยี่ยงบุตรชายที่ไม่มีอะไรเลยเป็นชิ้นเป็นอัน
ก็เพื่อทำชีวิตอันต่ำต้อยของเจ้าให้สมกับเป็นลูกคนหนึ่งมิใช่หรือ??
ก็เพื่อต้องกินต้องอยู่บนโลกที่ไร้ความยุติธรรมใบนี้มิใช่หรือ??
ก็เพื่อนำมาซื้อข้าวของเครื่องใช้
เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ
ทั้งที่จำเป็น และก็ไม่จำเป็น
ตามรสนิยมชนชั้นกลางโสมม
เพื่อจะได้มีหน้ามีตาในสังคมอันปลิ้นปล้อนจอมปลอมนี้ มิใช่หรือ??
ถึงกระนั้น
หญิงสาวที่เจ้าแสนรักและเทิดทูน
ก็ยังปฏิเสธและเหยียดหยามเจ้าอย่างไร้ใยดี
ช่างหัวนางเถิด
ปล่อยนางไป
ให้หลงระเริงกับความคิดที่ว่า
สิปสติกสีแดงเฉิดฉัน
จะปกปิดรอยยิ้มเสแสร้งและเย้อหยิ่งของนางได้
ปล่อยให้สหายร่วมโลกของเราร้องแรกแหกกระเชอไปตามถนน
ทั้งๆที่บุตรชายและบุตรสาวของพวกเขาหิวโหยจนท้องกิ่ว
ปล่อยให้พวกเขาฝากความหวังลมๆแล้งๆ
ไว้กับรัฐบาลที่โปรดปรานและแสนรัก
ทั้งๆที่ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยก็ยังแหลกเหลวทั้งปีทั้งชาติ
มิได้มีอะไรดีขึ้นเลย
บรรดาหนุ่มสาวผู้มีอันจะกิน
ก็ยังดีดดิ้น ร่ำร้องหาระบำเปลื้องผ้าในผับบาร์อยู่
ชนชั้นนำก็กำลังฉลองความสำเร็จ
ที่ได้มาจากการฉ้อฉลด้วย ดอม เปริญองอยู่
ทหารที่ชายแดนก็ยังตายกันเหมือนผักปลา
โดยที่มิได้อะไรตอบแทน นอกจากธงชาติผืนเดียว
จากน้ำใจของผู้ที่ป่าวร้องว่ารักชาติอยู่เสมอ
มิได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิด
ความรู้ของนักวิชาการก็ยังเป็นแค่คำพูด
การศึกษาก็ยังเป็นเรื่องของชนชั้น
กวีผู้เฒ่าก็ยังยินดีกับโล่รางวัล
ที่ได้มาจากบทกวีที่เป็นเพียงนามธรรม
ช่างหัวพวกเขาเหล่านั้นเถิด
คงไม่มีสัจธรรมใดแล้วที่ดีไปกว่า
การยอมรับชะตากรรมอันบัดซบอย่างไร้คำถาม
และก็คงไม่มีสิ่งใดน่ารักใคร่ไหลหลงไปกว่า
เครื่องจักรเกรอะกรังที่เจ้าขับเคี่ยวอยู่ทุกวี่ทุกวันนั่นดอก