... 1 ในพระราชดำรัสของในหลวง ...

กระทู้สนทนา


คัดใจความมาตอนหนึ่งว่า

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัส เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2548
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ทรงมีพระราชดำรัสว่า "ขอขอบใจนายกฯ ที่ได้กล่าวอวยพรในโอกาสที่จะถึงวันเกิดในพรุ่งนี้ เข้าใจว่าจะทำให้ทุกคนทั้งในที่นี้และนอกที่นี้มีกำลังใจว่า นายกฯ พูดดี ก็ไม่ทราบว่าที่ชมนายกฯ ว่าพูดดีอาจจะมีคนไม่เห็นด้วย ที่มาพูดนี่เป็นความเดือดร้อนกับตัวเอง ถ้าชมนายกฯ คนอื่นอาจจะไม่ชมคือ ไม่ชมข้าพเจ้าว่าชมนายกฯ ทำไม แต่นายกฯ มีอยู่ไหมสำหรับให้ชม คือ ถ้ามีนายกฯ แล้วไม่ชมนายกฯ ก็ไม่ค่อยพอใจ แล้วถ้านายกฯ ไม่พอใจงานการจะไปได้อย่างไร ถึงต้องชมนายกฯ ว่า พูดดี เพราะเราถือว่านายกฯ พูดดีเพราะมาชมเรา เป็นของธรรมดาที่ทุกคนชอบให้เขาชม ไม่ชอบให้ติ

    "ข้าพเจ้าเองก็ได้ติคนอยู่เรื่อยๆ เขาก็ไม่พอใจกัน แม้ว่าจะไม่ติคน บางทีเขาไปประกาศในหนังสือพิมพ์ว่า พระเจ้าอยู่หัวติคนโน้นคนนี้ แท้จริงไม่เคยติใครเท่าไหร่ บอกว่าเท่าไหร่เพราะว่าอาจจะติ แต่ไม่ได้พูดออกมาโจ่งแจ้งว่าติ คนเราถ้าอยู่ในที่แจ้ง ในที่ที่คนเห็นมากๆ ย่อมถูกติได้ง่ายๆ เพราะว่าคนเห็นมาก ถ้าเห็นมากแล้วเราทำอะไรไม่มีดี หรือมีดีก็มีที่ไม่ดีมาก แต่ถ้าสมมติว่ามีดีมากก็ไม่เป็นไร ถ้ามีไม่ดีบ้างแล้วคนเขาติ ถ้าเรารู้สึกว่าไม่ดีมีการแสดงตนว่า รู้ว่าไม่ดีมันก็ทำให้เกิดความรู้สึก ถ้าเกิดความรู้สึกบางทีก็รู้สึกชื่นชม บางทีก็รู้สึกเคือง ถ้าผู้ที่ถูกเล็งรู้สึกว่าถูกติเตียนแล้วแสดงตัวว่าเข้าใจว่าถูกแล้วเขาติเตียนเรา แล้วเราไม่พอใจก็เสียหาย ทำให้ส่วนรวมทั้งหมดเกิดปั่นป่วน พูดแค่นี้ก็พอแล้วถ้าพูดมากกว่านี้ทำให้เกิดเรื่องยุ่ง

    "วันนี้ตั้งใจจะพูดอะไรที่ไม่พาดพิงใคร ไม่ติเตียนใคร เพราะว่าการติเตียนพาดพิงใครก็เกิดเคือง ไม่สบายใจ แต่ที่เห็นอยู่ข้างหน้านี่ มีคนที่พูดก็คงรู้ว่าใครพูด ที่พูดว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ดี ทำอะไรผิดแต่ก็ต้องแสดงออกมาว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ผิด ผิดไม่ได้ ซึ่งเป็นตามความจริงในระบอบประชาธิปไตย ในระบอบรัฐธรรมนูญที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พระเจ้าอยู่หัวผิดไม่ได้ เขาพูดอย่างนั้น "The King can do no wrong" ท่านองคมนตรีชอบพูดว่าต้องอ่านภาษาอังกฤษ แต่ว่าเวลาที่พระมหากษัตริย์บอกว่า "The King can do no wrong" ก็เป็นสิ่งที่ผิดแล้ว ไม่ควรจะพูดอย่างนั้น

    "ความจริงเวลาอ่านตำรากฎหมายรัฐธรรมนูญของอังกฤษ มีตำราที่คนเขาอ้างอยู่เสมอ แล้วคนที่เรียนภาษาอังกฤษเรียนกฎหมายอังกฤษต้องอ้างเรื่อง "The King can do no wrong" เสมอ นักกฎหมายแถวนี้ก็พยักหน้าว่าใช่ ความจริงคำว่า "The King can do no wrong" เป็นการดูถูกพระมหากษัตริย์อย่างมาก เพราะว่าพระมหากษัตริย์ทำไมจะไม่สามารถทำผิดได้ แสดงให้เห็นว่าเขาถือว่าพระมหากษัตริย์ไม่ใช่คน แต่ว่าพระมหากษัตริย์ทำความผิดได้ ข้อสำคัญที่สุดข้าพเจ้าเป็นพระมหากษัตริย์แล้วก็เขาบอกว่าไม่ทำผิดเราก็เห็นด้วยกับเขา การทำอะไรถ้าคนเรารู้ว่าต้องมีสติ หมายความว่ารู้ว่ากำลังทำอะไร คิดอะไร แล้วไม่ปล่อยให้มันผิดออกมาก็ไม่มีผิดได้ อันนี้ก็เป็นการพูดว่าข้าพเจ้าเองไม่ผิด ไม่มีวันผิด ถ้าสมมติว่าพูดผิดเพราะไม่รู้ก็ยัง แต่ว่าถ้าผิดโดยรู้ว่าผิด การทำผิดโดยรู้ๆ ไม่ดี แต่บางที่ไม่รู้เพราะว่าไม่มีสติ ขาดสติ คือไม่ระวังตัว ทีหลังก็เสียใจ

    "เมื่อก่อนนี้ก่อนที่จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินก็เสียใจหลายครั้ง แต่ตอนที่เป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้วผิดทีหนึ่ง แบบไทยๆ ซึ่งฝรั่งเขาบอกว่าเป็น "The King" เข้าใจว่าน้อยครั้งที่จะได้ทำผิด เพราะว่าระวัง ถ้าไม่ระวังป่านนี้ก็คงตายแล้ว มันลำบากต้องระวัง ถ้าไม่ระวังก็ตาย เป็นเรื่องของธรรมชาติที่เรียกว่าการเมือง หรือการที่อยู่ในสายตาของคนนี่มันฆ่าได้ ถ้าเราไม่ระวังเราตาย ถึงบอกได้ว่าทำไม "The King can do no wrong" เพราะถ้าทำผิดก็ตาย ทุกคนต้องมีสถานะอย่างนี้ ไม่ใช่ว่าพระมหากษัตริย์เก่ง แต่ทุกคนก็มีส่วนที่เก่งได้รับตำแหน่งที่สูง คนก็ชี้ว่าคนนี้สูงมากมียศศักดิ์ ซึ่งพระมหากษัตริย์เป็นยศศักดิ์สูง แต่คนที่อยู่ในที่นี้มียศศักดิ์สูง ไม่ระวังตัวก็ตายเหมือนกัน ทุกคนตั้งแต่แถวแรกจนถึงแถวสุดท้าย จนกระทั่งหลังแถวข้างนอก ทุกคนถ้าไม่ระวังก็ตาย ฉะนั้นที่พูดก็มีอะไรแปลกๆ หน่อย ไม่เคยหาว่าแช่ง แต่ที่จริงไม่แช่ง สงสาร ถ้าไม่ระวังเมืองไทยตาย ฉะนั้นก็ขอร้องอย่างเดียวว่า มาวันนี้ให้ระวังๆ ระมัดระวังที่คิด ที่พูด ที่ทำ ถ้านึกว่าทำถูกต้องก็ทำ

    "เรื่องที่มีบอกในหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ บอกว่าที่พระมหากษัตริย์ทำอะไรเขาไม่วิจารณ์ แล้วก็บอกว่าอย่าวิจารณ์ ที่จริงอยากให้วิจารณ์ เพราะว่าเราทำอะไรก็ต้องรู้ว่าเขาเห็นดีหรือไม่ดี ถ้าไม่พูดก็หาว่าทำดีแล้ว แต่แท้จริงที่พูด ที่ออกข่าวให้สัมภาษณ์ว่า อย่าไปวิจารณ์พระเจ้าอยู่ เพราะว่าไม่ควรในรัฐธรรมนูญก็มีอยู่ว่าละเมิดมิได้ นักกฎหมายก็พยักหน้าว่าถูกต้องไม่ควรจะวิจารณ์ วิจารณ์ไม่ได้ ละเมิดไม่ได้ แต่ว่าถ้าพูดว่าพระเจ้าอยู่หัวทำถูก พูดถูกไม่ใช่การละเมิด เป็นการเห็นชอบด้วยกับพระเจ้าอยู่หัว แต่ไม่เคยมีใครมาบอกเห็นชอบว่าพระเจ้าอยู่หัวพูดดีพูดถูก "แต่ว่าความจริงก็จะต้องวิจารณ์บ้างเหมือนกัน แล้วก็ไม่กลัว ถ้าใครจะมาวิจารณ์ว่าทำไม่ดีตรงนั้นๆ จะได้รู้เพราะว่า ถ้าบอกว่าพระเจ้าอยู่หัวไปวิจารณ์ท่านไม่ได้ ก็หมายความว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่เป็นคน ไม่วิจารณ์ เราก็กลัวถ้าบอกว่าไม่วิจารณ์แปลว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ดี รู้ได้อย่างไรที่เขาบอกว่าไม่วิจารณ์พระเจ้าอยู่หัว เพราะพระเจ้าอยู่หัวดีมาก ไม่ใช่อย่างนั้น บางคนอยู่ในสมองคิดว่าพระเจ้าอยู่หัวพูดชอบกล พูดประหลาดๆ ถ้าขอเปิดเผยว่าวิจารณ์ตัวเองได้ ว่าบางทีก็อาจจะผิดแต่ให้รู้ว่าผิด ถ้าเขาบอกว่าวิจารณ์พระเจ้าอยู่หัวว่าผิดแล้วขอทราบว่าผิดตรงไหน ถ้าไม่ทราบเดือดร้อน ฉะนั้นที่บอกว่าการวิจารณ์เรียกว่าละเมิดพระมหากษัตริย์ ให้ละเมิดได้ แต่ถ้าเขาละเมิดผิดเขาก็ถูกประชาชนบอมบ์ เป็นเรื่องของการขอให้รู้ว่าเขาวิจารณ์ยังไง ถ้าวิจารณ์ถูกแต่ถ้าวิจารณ์ผิดไม่ดี

    "เมื่อบอกว่าไม่ให้วิจารณ์ละเมิดไม่ได้เพราะรัฐธรรมนูญว่าอย่างนั้น ก็ลงท้ายด้วยการที่พระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะลำบาก เห็นว่าถ้าไม่ให้วิจารณ์ก็หมายความว่าไม่ให้ละเมิดพระเจ้าอยู่หัว พระเจ้าอยู่หัวเสียเป็นคนไม่ดี ซึ่งถ้าคนไทยด้วยกันจะไม่กล้า เอ็นดูพระเจ้าอยู่หัว ไม่อยากละเมิด แต่ฝ่ายชาวต่างประเทศ มีบ่อยๆ ละเมิดพระเจ้าอยู่หัว แล้วเขาก็หัวเราะเยาะว่า พระมหากษัตริย์ของไทยเป็นคนแย่ ละเมิดไม่ได้ ในที่สุดถ้าละเมิดไม่ได้ก็เป็นคนที่เสีย ฉะนั้นบางโอกาสก็ให้ละเมิดจะได้รู้กันว่า ใครดีใครไม่ดี นี่พูดเลยเถิดพูดมากไป แต่ว่าคนที่อยู่ข้างหน้านี่ไม่ต้องห่วง เพราะว่าไม่ได้มีความผิด คนที่นึกว่ามีความผิดพยักหน้าว่ามีความผิดจริงๆ แต่ความจริงเขาไม่มีความผิดคนที่มาก่อนมีความผิด แล้วคนที่พยักหน้าไม่ได้แก้ไข ผิดตรงที่ไม่ได้แก้ไข หลบความรับผิดชอบ เป็นเสียอย่างนั้น

    "ในเมืองไทยนี่คนไหนที่ทำอะไรไม่ได้เข้าร่องเข้ารอยก็ลาออก แล้วไม่มีอะไรผิดเลย แม้จะทำอะไรผิดอย่างมากๆ ถ้าเป็นข้าราชการก็เรียกเข้ากระทรวง เข้ากรุงเทพฯ ก็หมดเรื่อง นานๆ ทีมีการเข้าคุก นี่พูดอย่างนี้ชักจะหนักใจที่เรียกเข้ากรุงเทพฯ เข้าคุก แต่มีเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไรก็ตามเข้าคุกแล้ว ถ้าเป็นการละเมิดพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์เองเดือดร้อนหลายทาง ทางหนึ่งต่างประเทศก็บอกว่าเมืองไทยนี่วิจารณ์พระมหากษัตริย์ไม่ได้ วิจารณ์ไม่ได้ก็เข้าคุก ต้องบอกว่าเข้าคุกแล้วต้องให้อภัย บางทีเขาด่าเราหนักๆ ฝรั่งเขาบอกว่าในเมืองไทยพระมหากษัตริย์ถูกด่าเข้าคุก

    "ที่จริงควรจะเข้าคุก แต่ว่าเพราะฝรั่งบอกอย่างนั้นก็ไม่ให้เข้า ไม่มีใครกล้าเอาคนที่ด่าพระมหากษัตริย์เข้าคุก เพราะพระมหากษัตริย์เดือดร้อน เขาหาว่าพระมหากษัตริย์เป็นคนที่ไม่ดี อย่างน้อยที่สุดเป็นคนที่จั๊กจี้ที่ใครมาว่าอะไรสักนิดก็บอกให้เข้าคุก ที่จริงพระมหากษัตริย์ไม่เคยบอกให้เข้าคุก ตั้งแต่สมัยรัชกาลก่อนๆ เป็นกบฏก็ยังไม่จับใส่คุก ไม่ลงโทษ รัชกาลที่6 ท่านไม่ลงโทษคนที่เป็นกบฏ มาจนกระทั่งถึงรัชกาลที่9 ใครเป็นกบฏซึ่งไม่เคยมีแท้ๆ ที่จริงก็ทำแบบเดียวกันก็ไม่ให้เข้าคุก ปล่อย หรือถ้าเข้าคุกก็ให้ปล่อย หรือถ้าไม่เข้าคุกก็ไม่ฟ้องเพราะว่าเดือดร้อน


    "ผู้ที่ถูกด่าเป็นคนที่เดือดร้อนอย่างคนที่ละเมิดพระมหากษัตริย์แล้วถูกทำโทษไม่ใช่คนนั้นนี่เดือดร้อน พระมหากษัตริย์เดือดร้อน และนี่ก็แปลกคราวนี้นักกฎหมายก็ชอบก็ฟ้องให้จับเข้าคุก อันนี้นักกฎหมายก็สอนนายกฯ ว่าต้องฟ้องต้องลงโทษ นี่ขอสอนนายกฯ ว่า ใครสั่งบอกว่าให้ลงโทษ อย่าลงโทษเขา การลงโทษไม่ดี ลงท้ายไม่ใช่นายกฯ เดือดร้อน แต่พระมหากษัตริย์เดือดร้อน อาจจะอยากให้พระมหากษัตริย์เดือดร้อนหรือไม่ ไม่รู้นะ เขาทำผิดเข้าด่าพระมหากษัตริย์เพื่อที่จะให้พระมหากษัตริย์เดือดร้อน ก็เดือดร้อนจริงๆ ใครมาด่าเราชอบไหม ไม่ชอบ

    "แต่ว่าถ้านายกฯ เกิดให้ลงโทษแย่เลย แล้วนักกฎหมายต่างๆ จะให้ลงโทษคนที่ด่าพระมหากษัตริย์ ทำไปทำมาต้องเอาว่าเขาด่านายกฯ ถ้าด่านายกฯ นายกฯ เดือดร้อนไหม ไม่ควรจะเดือดร้อนไหม แต่ถ้าด่านายกฯ พระมหากษัตริย์ก็ไม่เดือดร้อน เป็นเรื่องของนายกฯ แต่ถ้าเขาด่าพระมหากษัตริย์ นายกฯ เดือดร้อน เพราะว่าต้องเป็นคนจัดการ มันยุ่งอย่างนี้กฎหมายก็สอนนายกฯ ว่าอย่างนั้น สอนนายกฯ ว่า ใครมาด่าเราเราต้องด่ากลับมันไม่ดี นี่พูดชักจะไม่ดี ชักจะเป็นส่วนตัว แต่ว่าเราเองก็ไม่ขอบอกว่าควรจะทำอะไร ควรจะรู้นักกฎหมายก็ต้องรู้ว่าทำอะไรถูกอะไรผิด ไม่ต้องพูดทุกวันๆ ที่จริงเขาไม่พูดทุกวัน แต่เขาทำเทปไว้เป็นดีวีดี แล้วก็แจกทั่วให้คน ลงท้ายคนก็ฟัง ก็ดู"

    "เขาเอือมกันนะที่ไปแก้ตัวแทนนายกฯ วันนี้เราขึ้นมานี่เราแทนนายกฯ บอกว่านายกฯ ไม่ผิด นายกฯ ทำได้ทุกอย่าง ก็เลยไม่ต้องไปออกทีวีแล้ว ออกทีวีทุกวันมีคนเขาบอกว่า เขาเอือมที่ออก แต่ว่ามีหน้าที่ที่ออกก็ออก มีคนที่เขาเดือดร้อนที่อยู่ในรายการ เพราะเขาต้องเป็นคนที่ต้องพูด แล้วก็คนที่พูดนั่นก็เลยถูกลูกหลงไปด้วย อย่างไรก็ตาม การแก้ตัวครั้งเดียวได้ แต่นี่แก้ตัวมาตั้งหลายสิบครั้งแล้วนะที่ออกทีวี เลยชักจะเอือมคนเขาอยากดูละครไม่อยากมาดูอย่างนี้ พอแล้วเสียไฟฟ้า ไม่ใช่เสียไฟฟ้าที่ดูแต่เสียไฟฟ้าคนที่ส่ง เพราะว่าทีวีออกทีก็เสียไฟฟ้าแรง เสียน้ำมันไอ้นี่ก็เลยนึกว่าควรจะพูดพอแล้ว ที่พูดนี่ก็เสียไฟฟ้ามาก เขาควรจะบอกว่าเลิกเสียทีไม่ต้องพูดมาก แต่เราก็พูดต่อเพราะว่าเป็นรายการที่อัดเสียงใส่เทปเอาไว้ ไม่ได้ออกโทรทัศน์ ไม่ต้องเสียไฟฟ้าสำหรับโทรทัศน์"

Credit : http://www.dmh.moph.go.th/news/view.asp?id=995
กระทู้นี้ถูกปิด ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้

เรียนเพื่อนสมาชิก
เนื่องจากบรรยากาศการสนทนาในกระทู้นี้อาจทำให้ผู้ไม่หวังดีสบช่องเบี่ยงเบนประเด็นสนทนา
โดยการแสดงความคิดเห็นพาดพิง หรือสร้างความเข้าใจที่ผิด ต่อสถาบันอันเป็นที่รักของเรา
ทีมงานจึงขอปิดการสนทนาในกระทู้นี้เพื่อรักษาบรรยากาศการสนทนาโดยรวมต่อไปค่ะ
หากมีข้อสงสัยประการใด โปรดติดต่อทีมงาน
ทีมงานเว็บไซต์พันทิป

www.pantip.com

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่