ใหนๆคุณกล้าณรงค์ก็จะเกษียณแล้ว...

กระทู้สนทนา
และก็พอดีเห็นหน้าคนนี้แว็บๆที่ช่อง voice tv ตอนเย็นวันนี้เอง
ก็ถือโอกาสเอาข่าวเก่าซักข่าวมาเล่าสู่กันฟังอีกรอบ

ผมอ่านแล้วก็อึดอัด แค้นใจ
ว่าทำไมบ้านนี้เมืองนี้ คนที่เรียกตัวเองว่าคนดี ถึงทำได้ขนาดนี้
................
ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 28 สิงหาคม 2556 06:00:00 น.
ปปช.ฟันแพ่งตลก.
“บุญส่ง กุลบุปผา”
ส่งลูกชายเรียนนอก
แต่ยังรับเงินเดือนรัฐ
เมื่อวันที่ 27สิงหาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ปปช.พร้อมคณะกรรมการ ปปช.รวม 9คน ร่วมแถลงความคืบหน้าผลการดำเนินงานของ ปปช.ในรอบ 8เดือน

โดย นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการและโฆษก ปปช.แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปปช.มีมติชี้มูลกรณีกล่าวหา นายบุญส่ง กุลบุปผา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ปฎิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต กรณีอนุญาตให้บุตรชายตนเอง ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขานุการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ลาไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดยได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งระหว่างลา เดือนละ 47,100บาท เป็นระยะเวลา 1ปี 6เดือน ตามที่ นายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศ ไทยและเครือข่ายฯกล่าวหา ซึ่งเมื่อพิจารณาจากเอกสารหลักฐานและคำชี้แจงของ นายบุญส่ง แล้วเห็นว่า ตามระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการแต่งตั้งเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2551 ซึ่งเป็นระเบียบที่ นายบุญส่ง ใช้แต่งตั้งบุตรชายเป็นเลขานุการตุลากรศาลรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้มีบทบัญญัติไว้ว่า ให้อำนาจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่จะอนุญาตเลขานุการฯลาไปศึกษาต่อต่างประเทศ

นายกล้านรงค์ กล่าวอีกว่า นายบุญส่ง จึงอ้างว่า มีอำนาจตามระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยลูกจ้างสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2543 หมวด4 ข้อ16 อาศัยระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าจ้างลูกจ้างของส่วนราชการ พ.ศ.2526 ข้อ24 มาเทียบเคียง ปรากฎว่าอนุญาตให้ลูกจ้างประจำของส่วนราชการไปศึกษาต่อต่างประเทศ แต่ตำแหน่งเลขานุการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ลูกจ้างประจำของส่วนราชการ จึงไม่สามารถนำระเบียบนี้มาเทียบเคียงใช้บังคับได้ ดังนั้นคำชี้แจงข้อกล่าวหาของ นายบุญส่ง จึงฟังไม่ขึ้น การที่บุตรชายลาไปศึกษาต่อต่างประเทศไม่มีระเบียบให้อำนาจในการอนุญาตได้ จึงเป็นการกระทำโดยพลการปราศจากอำนาจและหน้าที่ การกระทำดังกล่าวมิใช่การกระทำในฐานะเจ้าพนักงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย จึงไม่เป็นความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้ าที่ราชการ

“พฤติการณ์ให้บุตรชายลาไปศึกษาต่อต่างประเทศโดยพลการ มิได้รายงานต่อประธานศาลรัฐธรรมนูญ หรือแจ้งสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญให้ทราบ เป็นเหตุให้ยังคงเบิกจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเงินประจำตำแหน่ง จึงเป็นความรับผิดชอบทางแพ่ง ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะเรียกให้ นายบุญ ส่งชดใช้เงินคืนต่อไป คณะกรรมการ ปปช.จึงมีมติกรณีกล่าวหา นายบุญส่ง ปฎิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157 ไม่มีมูล จึงให้ข้อกล่าวหาตกไปและให้แจ้งความเห็นของคณะกรรมการ ปปช.เรื่องความรับผิดทางแพ่งให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญทราบ เพื่อพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ต่อไป” นายกล้านรงค์ กล่าว

....,..................
ผมสรุปเอง

1. นายบุญส่งฯ ตลก สาน รธน ถูกยื่นฟ้องกรณีอนุญาตให้เลขาส่วนตัวซึ่งเป็นลูกชายตนเองไปเรียนต่อต่างประเทศโดยพลการ
2. ผู้ฟ้องกล่าวหาว่านายบุญส่งฯ ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบก่อให้เกิดความเสียหาย หรือเป็นการทุจริต
3. ลูกชายนายบุญส่ง รับเงินเดือนๆละ 47100 บาท ลาไปเรียนต่อระยะเวลา 1ปี6 เดือน
4. ปปช โดยนายกล้าฯชี้ว่า ระเบียบ ตลก ไม่ได้บอกว่าให้ ตลก คนใด มีอำนาจส่งเลขา(กรณีนี้เป็นลูกตัวเองด้วย)ไปเรียนต่อ
5. นายบุญส่งบอก ใช้ระเบียบของลูกจ้างประจำมาเทียบเคียง
6. ความเป็นจริงคือลูกชายตัวเองหรือเลขาส่วนตัวนั้น ไม่ได้เป็นลูกจ้างประจำ
7. ปปช บอกว่าข้ออ้างฟังไม่ขึ้น และเป็นการกระทำโดยพลการปราศจากอำนาจและหน้าที่ การกระทำดังกล่าวมิใช่การกระทำในฐานะเจ้าพนักงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย
8. แล้วก็ชี้ต่อไปว่า "จึงไม่เป็นความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้ าที่ราชการ" หึหึหึ
9. จึงตัดสินให้ข้อกล่าวหาตามข้อ2 ตกไป (หึหึหึ ขอแค่นหัวเราะอีกรอบ)
10. แถมให้ความเห็นอีกว่า น่าจะเป็นคดีทางแพ่ง ไปเรียกร้องเงินคืนกันเอาเอง!!!

บอกได้แค่ว่า สุดยอดครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่