คนไทยอ่วมรายวัน ร้านจานด่วนแห่ปรับราคาเพิ่มเมนูละ 5-10 บาท สะอึกไข่ดาวฟองละ 10-15 บาท อ้างเหตุก๊าซ ไฟฟ้า หมู เนื้อ ไก่ น้ำมันพืช ขึ้นราคาแบกต้นทุนไม่ไหว
จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำภายในประเทศ ประกอบกับรัฐบาลประกาศขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้า ทำให้สถานการณ์ปากท้องของคนไทยกำลังอยู่ในภาวะน่าห่วง เนื่องจากสินค้าต่างๆ จ่อทยอยขึ้นราคากันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 กันยายน เแหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า จากการสำรวจร้านอาหารปรุงสำเร็จ หรืออาหารจานด่วนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่ามีร้านค้าจำนวนมากแจ้งลูกค้าเพื่อขอปรับขึ้นราคาโดยเฉลี่ยเมนูละ 5 บาท ขณะที่บางร้านปรับขึ้นเมนูละ 10 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ได้ปรับขึ้นราคามาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา แต่ยังมีบางร้านแจ้งว่าจะปรับขึ้นราคาตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนนี้
"เมนูอาหารที่ขอปรับขึ้นราคา เช่น ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหน้าเป็ด ผัดไทย เกาเหลาเลือดหมู ข้าวผัดปู ซาลาเปา และอาหารตามสั่งต่างๆ ส่วนเมนูไข่แจ้งขอปรับราคาเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยไข่ดาวเพิ่มเป็นฟองละ 7-10 บาท จาก 5 บาท ส่วนไข่เจียวเพิ่มขึ้น 10-15 บาท ส่วนเหตุผลที่ร้านค้าส่วนใหญ่นำมาเป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคา คือ ราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้า น้ำมันพืช ข้าวสาร ไข่ไก่ หมู เนื้อ ไก่ รวมถึงเครื่องปรุงรสต่างๆ" แหล่งข่าวคนเดิม กล่าว
เกี่ยวกับการขึ้นราคาอาหารต่างๆ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ได้แจ้งต่อร้านค้าว่าขอปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นมขนาด 2,000 ซีซี และ 5,000 ซีซี ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า น้ำนมดิบซึ่งเป็นวัตถุดิบ ปรับราคาเพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้น จึงต้องปรับเพิ่มราคาจำหน่าย
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคาอาหารจานด่วนสูงขึ้นว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเพิ่มความเข้มแข็งให้ร้านอาหารในโครงการธงฟ้า เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้บริโภคอาหารจานด่วนในราคาที่เหมาะสม หากสามารถสร้างเครือข่ายร้านอาหารธงฟ้าให้มีความเข้มแข็ง จะช่วยให้ราคาอาหารจานด่วนในท้องตลาดลดลง ส่วนร้านอาหารในท้องตลาดที่ปรับขึ้นราคา จะต้องพิจารณาว่าราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นเหมาะสมหรือไม่
"ปัญหาของอาหารจานด่วนในขณะนี้เป็นการปรับราคาขึ้นตามกันมากกว่า แต่ข้อเท็จจริงคือ วัตถุดิบในการผลิตมีทั้งขึ้นและลง อาหารจานด่วนไม่สามารถใช้กฎหมายดูแลได้ แต่ต้องเพิ่มทางเลือกให้แก่ประชาชน" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลสินค้ารายการอื่นๆ นั้น ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไปถึงสิ้นปี ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสินค้ารายการใดยื่นขอปรับราคา จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องทบทวนรายการบัญชีสินค้าควบคุมที่อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) โดยพบว่าสินค้าหลายรายการปรับลดราคาลงแล้ว เช่น เนื้อหมู น้ำมันพืช มีเพียงไข่ไก่ที่ขึ้นราคา แต่เชื่อว่าราคาไข่ไก่จะเป็นปกติเร็วๆ นี้
นายนิวัฒน์ธำรง ยังกล่าวถึงการจัดทำข้าวถุงธงฟ้าเพื่อขายให้ประชาชน และผู้ประกอบการร้านอาหารในราคาพิเศษ คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายข้าวดังกล่าวได้ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ ในราคาไม่เกินถุงละ 85 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาข้าวถุงในท้องตลาดประมาณ 20% และในการดูแลค่าครองชีพเพื่อจัดทำโครงการธงฟ้า ไม่จำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มเติม แต่จะใช้งบปกติของกระทรวงเท่านั้น
ด้าน น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมมีแผนเพิ่มร้านอาหารมิตรธงฟ้าเดือนละ 50 แห่ง จากปัจจุบันที่มีร้านอาหารในเครือข่ายมิตรธงฟ้าประมาณ 6,000 แห่ง เพื่อเป็นช่องทางในการดูแลราคาอาหารจานด่วนในตลาด หากประชาชนเห็นว่าราคาอาหารจานด่วนในท้องตลาดปรับขึ้นราคาสูงเกินจริง สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 โดยกรมจะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบต่อไป
"กรมจะเชิญผู้ประกอบการตลาดสดมาหารือ เพื่อสร้างเครือข่ายให้ร้านอาหารมิตรธงฟ้าซื้อวัตถุดิบราคาพิเศษ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนให้ร้านอาหารที่ให้ความร่วมมือกับกรม และจะหารือกับสมาคมภัตตาคารไทยถึงสถานการณ์ราคาอาหารในปัจจุบันเพื่อจัดหามาตรการดูแลต่อไป" น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว
วันเดียวกัน นายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีสินค้าราคาแพงว่า รัฐบาลมีทัศนะที่ผิด เพราะไม่ยอมรับในข้อเท็จจริงว่าสินค้าราคาแพงจริง แต่กลับออกมายอมรับในสินค้าบางชนิดเท่านั้นว่าปรับตัวสูงขึ้นจริง เพราะหากยอมรับว่าสินค้าทั้งหมดมีราคาแพงเท่ากับยอมรับว่าบริหารงานผิดพลาด จากเดิมที่รัฐบาลอ้างว่าแพงเพราะคิดไปเอง แต่ตอนนี้ก็พยายามมาอ้างว่าเป็นเพราะสื่อลงข่าวเยอะ ซึ่งถือว่าเป็นทัศนะที่ผิด และจะส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาลตามมา ขณะที่โครงการธงฟ้าที่รัฐบาลจะออกมาช่วยเหลือประชาชนนั้นไม่ทั่วถึง ประชาชนที่อยู่ห่างไกลหมดสิทธิ์ และจะมีขายเฉพาะสินค้าที่รัฐบาลคิดว่าแพง เช่น ไข่ไก่ ขณะที่บางสิ่งสำคัญกลับไม่มี จึงส่งผลให้สินค้ายังแพงทั้งแผ่นดินทั่วราชอาณาจักรอยู่ต่อไป อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปลายปีนี้ราคาสินค้าจะขึ้นสูงมากกว่านี้ เพราะผู้ประกอบการอั้นราคาไว้ไม่อยู่แล้ว
นายสรรเสริญกล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศ ตนได้นำราคาสินค้าของ 2 ตลาดหลักมาแสดงให้ทราบว่ามีราคแพงจริงหรือไม่ คือ 1.ตลาดยิ่งเจริญ โดยราคาสินค้าในช่วงเดือนสิงหาคม 2554 คือ ตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาบริหารประเทศ จนขณะนี้วันที่ 11 กันยายน 2556 ราคขายปลีกอาหารสดสูงขึ้นถึง 27.5% 2.ตลาดไท จนถึงเดือนกรกฎาคม สินค้าแพงขึ้น 25.4% แบ่งเป็นผลไม้สูงขึ้น 20.5% พืชไร่ 76.4% จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลลงมาแก้ไข ไม่ใช่นั่งเทียนอยู่ในห้องแอร์
ที่มา:
http://www.komchadluek.net/detail/20130916/168315/%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1!%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81510%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97.html#.UjcOetK8BmU
อ่วม!ร้านจานด่วนแห่ขึ้นอีก5-10บาท
คนไทยอ่วมรายวัน ร้านจานด่วนแห่ปรับราคาเพิ่มเมนูละ 5-10 บาท สะอึกไข่ดาวฟองละ 10-15 บาท อ้างเหตุก๊าซ ไฟฟ้า หมู เนื้อ ไก่ น้ำมันพืช ขึ้นราคาแบกต้นทุนไม่ไหว
จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำภายในประเทศ ประกอบกับรัฐบาลประกาศขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้า ทำให้สถานการณ์ปากท้องของคนไทยกำลังอยู่ในภาวะน่าห่วง เนื่องจากสินค้าต่างๆ จ่อทยอยขึ้นราคากันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 กันยายน เแหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า จากการสำรวจร้านอาหารปรุงสำเร็จ หรืออาหารจานด่วนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่ามีร้านค้าจำนวนมากแจ้งลูกค้าเพื่อขอปรับขึ้นราคาโดยเฉลี่ยเมนูละ 5 บาท ขณะที่บางร้านปรับขึ้นเมนูละ 10 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ได้ปรับขึ้นราคามาตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา แต่ยังมีบางร้านแจ้งว่าจะปรับขึ้นราคาตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนนี้
"เมนูอาหารที่ขอปรับขึ้นราคา เช่น ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหน้าเป็ด ผัดไทย เกาเหลาเลือดหมู ข้าวผัดปู ซาลาเปา และอาหารตามสั่งต่างๆ ส่วนเมนูไข่แจ้งขอปรับราคาเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยไข่ดาวเพิ่มเป็นฟองละ 7-10 บาท จาก 5 บาท ส่วนไข่เจียวเพิ่มขึ้น 10-15 บาท ส่วนเหตุผลที่ร้านค้าส่วนใหญ่นำมาเป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคา คือ ราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้า น้ำมันพืช ข้าวสาร ไข่ไก่ หมู เนื้อ ไก่ รวมถึงเครื่องปรุงรสต่างๆ" แหล่งข่าวคนเดิม กล่าว
เกี่ยวกับการขึ้นราคาอาหารต่างๆ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ได้แจ้งต่อร้านค้าว่าขอปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นมขนาด 2,000 ซีซี และ 5,000 ซีซี ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า น้ำนมดิบซึ่งเป็นวัตถุดิบ ปรับราคาเพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้น จึงต้องปรับเพิ่มราคาจำหน่าย
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคาอาหารจานด่วนสูงขึ้นว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเพิ่มความเข้มแข็งให้ร้านอาหารในโครงการธงฟ้า เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้บริโภคอาหารจานด่วนในราคาที่เหมาะสม หากสามารถสร้างเครือข่ายร้านอาหารธงฟ้าให้มีความเข้มแข็ง จะช่วยให้ราคาอาหารจานด่วนในท้องตลาดลดลง ส่วนร้านอาหารในท้องตลาดที่ปรับขึ้นราคา จะต้องพิจารณาว่าราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นเหมาะสมหรือไม่
"ปัญหาของอาหารจานด่วนในขณะนี้เป็นการปรับราคาขึ้นตามกันมากกว่า แต่ข้อเท็จจริงคือ วัตถุดิบในการผลิตมีทั้งขึ้นและลง อาหารจานด่วนไม่สามารถใช้กฎหมายดูแลได้ แต่ต้องเพิ่มทางเลือกให้แก่ประชาชน" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลสินค้ารายการอื่นๆ นั้น ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไปถึงสิ้นปี ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสินค้ารายการใดยื่นขอปรับราคา จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องทบทวนรายการบัญชีสินค้าควบคุมที่อยู่ในความดูแลของคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) โดยพบว่าสินค้าหลายรายการปรับลดราคาลงแล้ว เช่น เนื้อหมู น้ำมันพืช มีเพียงไข่ไก่ที่ขึ้นราคา แต่เชื่อว่าราคาไข่ไก่จะเป็นปกติเร็วๆ นี้
นายนิวัฒน์ธำรง ยังกล่าวถึงการจัดทำข้าวถุงธงฟ้าเพื่อขายให้ประชาชน และผู้ประกอบการร้านอาหารในราคาพิเศษ คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายข้าวดังกล่าวได้ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ ในราคาไม่เกินถุงละ 85 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาข้าวถุงในท้องตลาดประมาณ 20% และในการดูแลค่าครองชีพเพื่อจัดทำโครงการธงฟ้า ไม่จำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มเติม แต่จะใช้งบปกติของกระทรวงเท่านั้น
ด้าน น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมมีแผนเพิ่มร้านอาหารมิตรธงฟ้าเดือนละ 50 แห่ง จากปัจจุบันที่มีร้านอาหารในเครือข่ายมิตรธงฟ้าประมาณ 6,000 แห่ง เพื่อเป็นช่องทางในการดูแลราคาอาหารจานด่วนในตลาด หากประชาชนเห็นว่าราคาอาหารจานด่วนในท้องตลาดปรับขึ้นราคาสูงเกินจริง สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 โดยกรมจะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบต่อไป
"กรมจะเชิญผู้ประกอบการตลาดสดมาหารือ เพื่อสร้างเครือข่ายให้ร้านอาหารมิตรธงฟ้าซื้อวัตถุดิบราคาพิเศษ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนให้ร้านอาหารที่ให้ความร่วมมือกับกรม และจะหารือกับสมาคมภัตตาคารไทยถึงสถานการณ์ราคาอาหารในปัจจุบันเพื่อจัดหามาตรการดูแลต่อไป" น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว
วันเดียวกัน นายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีสินค้าราคาแพงว่า รัฐบาลมีทัศนะที่ผิด เพราะไม่ยอมรับในข้อเท็จจริงว่าสินค้าราคาแพงจริง แต่กลับออกมายอมรับในสินค้าบางชนิดเท่านั้นว่าปรับตัวสูงขึ้นจริง เพราะหากยอมรับว่าสินค้าทั้งหมดมีราคาแพงเท่ากับยอมรับว่าบริหารงานผิดพลาด จากเดิมที่รัฐบาลอ้างว่าแพงเพราะคิดไปเอง แต่ตอนนี้ก็พยายามมาอ้างว่าเป็นเพราะสื่อลงข่าวเยอะ ซึ่งถือว่าเป็นทัศนะที่ผิด และจะส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาลตามมา ขณะที่โครงการธงฟ้าที่รัฐบาลจะออกมาช่วยเหลือประชาชนนั้นไม่ทั่วถึง ประชาชนที่อยู่ห่างไกลหมดสิทธิ์ และจะมีขายเฉพาะสินค้าที่รัฐบาลคิดว่าแพง เช่น ไข่ไก่ ขณะที่บางสิ่งสำคัญกลับไม่มี จึงส่งผลให้สินค้ายังแพงทั้งแผ่นดินทั่วราชอาณาจักรอยู่ต่อไป อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปลายปีนี้ราคาสินค้าจะขึ้นสูงมากกว่านี้ เพราะผู้ประกอบการอั้นราคาไว้ไม่อยู่แล้ว
นายสรรเสริญกล่าวว่า ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศ ตนได้นำราคาสินค้าของ 2 ตลาดหลักมาแสดงให้ทราบว่ามีราคแพงจริงหรือไม่ คือ 1.ตลาดยิ่งเจริญ โดยราคาสินค้าในช่วงเดือนสิงหาคม 2554 คือ ตั้งแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์มาบริหารประเทศ จนขณะนี้วันที่ 11 กันยายน 2556 ราคขายปลีกอาหารสดสูงขึ้นถึง 27.5% 2.ตลาดไท จนถึงเดือนกรกฎาคม สินค้าแพงขึ้น 25.4% แบ่งเป็นผลไม้สูงขึ้น 20.5% พืชไร่ 76.4% จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลลงมาแก้ไข ไม่ใช่นั่งเทียนอยู่ในห้องแอร์
ที่มา: http://www.komchadluek.net/detail/20130916/168315/%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1!%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81510%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97.html#.UjcOetK8BmU