อดีตชาติบางทีมันก็น่าค้นหานะ

กระทู้คำถาม
คือเราอะนะ::::ฝันถึงที่โบราณบ่อยๆแล้วก็จะมีโอกาสได้ไปที่นั่นที่ๆเคยฝันตลอดมันจะรู้สึกคุ้นๆแปลกๆทั้งๆที่เราก็ไม่เคยไปมีหนักกว่านี้นะ ไปถึงแล้วพอเห็นปุบน้ำตาไหลพอกลับถึงบ้านเป็นไข้อีกเรามีหลายเรื่องมากๆที่มันเป็นเหตุการณืที่สอดคล้องกันต่อเนื่องกันแล้วแต่ละเรื่องมันเอาปะติดปะต่อกันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียวแต่มันก็ยังทิ้งปริศนาให้เราค้นหาต่อไปอีกเรื่อยๆ
              เมื่อตอนที่เราอายุ 5 ขวบพอจำความได้แม่เราพาไปเก็บเห็ดบนเขาพอถึงตีนเขาปัจจุบันเป็นป่าช้านะเรายังเด็กมากไม่ประสีประสาเรากล้าพูดเลยว่าเราเห็นท่านปู่ฤษีนั่งอยู่ระหว่าต้นไม้สองต้นแต่เราก็ไม่เอะใจนะท่านยิ้มให้ซักพักท่านก็ไม่อยู่แล้วเราเด็กเกินไปอ่ะจนต่อมาอีกปีหนึ่งเราอายุได้ 6 ขวบน้องเราคลอดได้1 เดือนเศษพ่อกับแม่ก็พาเราย้ายมาทำงานที่สวนพอย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานเราก็ระลึกและรู้ประวัติที่นี่ได้หมดเลย เรายังแปลกใจอยู่เลยนะทั้งที่เราก็ไม่เคยมาแล้วเรื่องราวต่างๆก็ไม่มีใครรู้แล้วเราก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง เพราะถึงพูดไปใครเขาจะเชื่อหลักฐานยืนยันก็ไม่มีอีกอย่างมันเป็นเรื่องของอดีตใครหล่ะจะมาสนใจ แต่เราผู้ซึ้งไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยกลับต้องมารับรู้เรื่องราวเหล่านี้มันแตกต่างกันนะ จริงๆแล้วเรื่องราวเหล่านี้เป็นประวัติเล็กๆน้อยๆเหมือนกันนะเพราะไม่โด่งดังจึงไม่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์และอีกอย่างมันสาปสูนไปกับคนรุ่นนั้นแล้วแหระอย่างคนที่ชอบเรื่องราวของประวัติศาสตร์หรือตำนานต่างๆอ่ะนะเราว่าเรื่องราวของเราก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะที่มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่เมื่อเราอายุได้ 12 ขวบเราสำผัสได้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างพลังงานและไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนที่ที่เราไปอยู่เกือบทุกที่คือที่ที่เราอาจเคยอยู่(ถาวรนะ)ไม่ใช่ที่พักชั่วคราวและเราจะสำผัสได้เลยว่าประวัติของที่นั่นเราเคยอยู่อย่างไรและเคยเป็นอะไรที่นั่นมีประวัติอะไรมาก่อนต้องให้เราได้อยู่ไปซักพักเราจะรู้เองหมดเลย แล้วตั้งแต่เราอายุ 12 ขวบเราก็ได้รู้ว่าที่ๆเราเคยอยู่ในปัจจุบันคือพิ้นที่ที่เราเคยอยู่ในอดีตเดินออกจากบ้านมาไม่เกิน100เมตรเป็นเรือนแก้วที่ในอดีตเป็นที่ที่เราเคยอยู่และเป็นที่แห่งความหลับความเจ็บปวดอันนี้เราสำผัสได้ว่ามันเป็นอดีตที่ไม่ค่อยดีนักแต่ไม่สามารถอธิบายถึงความรู้สึกนั้นได้เพราะเราก้ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเจ็บปวดยังไง ถัดไปข้างบนเป็นพระราชวังรู้สึกได้ว่าเราไม่ชอบอยู่บนนั้นแต่จะชอบอยู่เรือนแก้วมากกว่าถ้าเวลาไม่สบายใจ แต่ไม่นานเรือนแก้วก็ต้องล้มสลายไปกับสงคราม (เอ่อคือเมื่อก่อนมันจะเป็นเมืองเล็กๆแล้วแต่ละเมืองต้องโจมตีเพื่อครองพื้นที่และยึดอำนาจ) ส่วนเราช่วงที่หนีสงครามเราก็ถูกเขมรจับตัวไปขังไว้ในเรือนแก้วแต่เราก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าต่อจากนั้นเราจะเป็ยังไง จนมาปะติดอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นที่เดิมบ้านเกิดที่เราเคยอยู่ก่อนที่จะย้ายมาเป็นเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งมีเจ้าเมืองปกครองอยู่ท่านมีธิดา 3 พระองค์ถ้าดูจากความรู้สึกเราเป็นองค์สุดท้องเมื่อสมัยก่อนเรื่องชนชั้นเป็นเรื่องใหญ่มากนะ วันหนึ่งก็ไปรักกับทหารองค์ลักษณ์เข้าทั้งที่รู้ว่าเป็นเรื่องต้องห้ามไม่นานก็มีข้าทาสเข้ามาเห็นเข้าก็ได้ตักเตือนให้หักห้ามใจ แต่มีข้าทาสอีกนางหนึ่งที่ที่เห็นแล้วไปกราบทูนให้เจ้าเมืองทราบ นางข้าทาสคนแรกจึงออกมารับแทนว่านางรักกับทหารคนนั้นจึงให้พระธิดาช่วยพูดให้ ทั้งนี้เมื่อสิ่งที่นางพูดคือความเท็จพระธิดาจึงออกรับไปว่าที่จริงแล้วนางคือคนที่รักเจ้าเมืองกริ้วมากจึงสั่งตัดหัวนางข้าทาสคนนี้กับนายทะหารทั้งที่นางพูดความจริงแต่กลับถูกตัดสินว่านางให้ร้ายพระธิดา เรื่องนี้พระธิดาก็ไม่ยอมเช่นเดียวกันถึงนางจะเป็นข้าทาสแต่เรื่องชีวิตเรื่องจะจบเช่นนี้ไม่ได้บนลานประหารพระธิดาได้เข้าไปขวางและได้สั่งให้ทั้งสองคนหนีไปแต่ไม่รอดทั้งสองถูกธนูยิงพระธิดาได้วิ่งเข้าไปรับธนูอีกอันศรได้ปักตรงกลางอกก่อนที่ทั้งสามจะสิ้นใจต่อหนะพระพักตร นางข้าทาสได้กล่าวไว้ว่านางซึ้งในพระทัยของพระธิดาที่มีต่อชีวิตของนางจนต้องมาตายด้วยนางได้กล่าวไว้ว่านางจะขอติดตามรับใช้พระธิดาไปทุกชาติภพและขอสาปให้เมืองนี้จมไปกับภัยพิบัติและหายนะทั้งสามก็สิ้นจมอยู่บนกองเลือดตัวเอง ไม่นานนักน้ำก็ท่วมเมืองๆนี้เมืองนี้ได้จมไปกับเรื่องราวอันแสนปวดร้าวในอดีต ในปัจจุบันนี้ที่แห้งนี้เกิดเนินเขาและมีบางส่วนที่เห็นได้ชัดว่าเป็นซากก่อสร้างของเมืองในอดีตแต่ก็ไม่ชัดนักแต่พอจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างว่าเป็นลักษณะของเมืองเก่าจริงๆ แล้วที่บอกปัจจุบันนี้คือนางยังตามอยู่เมื่อเรียกใช้นางจะมาทันทีแต่เมื่อรู้เรื่องราวเช่นนี้แล้วเราจึงปล่อยนางไปเราได้บอกกับนางให้ไปไม่ต้องห่วงและถอนคำสาปให้นางเพราะถ้าเราอยู่กับสิ่งเหล่านี้ไปนานๆก็จะมีผลเสียต่อเราเองถึงแม้จะเป็นความหวังดี คนกับผีอยู่ด้วยกันไม่ได้นางก็พลอยจะทำให้เราเสียพลังชีวิตไปด้วยเราจึงปล่อยนางไป จนมาได้ยินตำนานของชาวลำปางพระแก้วดอนเต้า อันนี้เราบอกไม่ถูกเหมือนกันนะไม่รู้ว่าเพราะอะไรเราขอโทษด้วยนะเราไม่ชอบคนลำปางอย่างไม่มีเหตุผลเอาซ๊ะเลยไม่รู้เหมือนกันทั้งที่เราก็ไม่เคยได้ไปลำปางแม้แต่ครั้งเดียวว่าจะลองไปดูเผื่อจะรู้สึกอะไรซักอย่างหรือป่าวไม่รู้นะถ้าเกิดว่าเรารู้สึกจริงๆและเป็นไปอย่างที่คิดเราจะไปถอนทุกอย่างและจะให้อภัยทุกอย่างจริงๆนะแต่ตอนนี้ถ้าคนลำปางมาอ่านก็อย่าเพิ่งโกรธเรานะ ขอให้เราใช้เวลาในการพิสูจน์ก่อน จริงๆแล้วเรามีหลายเรื่องมากๆที่มันคาอยู่ในหัวซึ่งยังแะติดปะต่อไม่ได้และ ยังไม่มั่นใจไม่เแน่ใจอยู่หลายเรื่อง ถ้าเป็นความคิดของเราคือบางทีอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เขาอยากสื่อให้เรารู้และนำมาเผยแพร่ก็เป็นได้นะเพราะบางที่เมื่อเราได้เผยแพร่ออกไปแล้วคนที่มาอ่านเจอบางคนท่านอาจจะพัวพันกับเรื่องพวกนี้ก็ได้เราก็ไม่รู้นะ.... อันที่จริงมีเยอะกว่านี้นะเรายังเล่าไม่หมดรีเควชเข้ามาได้นะถ้าอยากให้เล่าต่อหรือถ้าอยากถามอะไรลองถามเข้ามากันดูนะ...
      ::::::เรื่องราวในอดีตชาติเป็นเรื่องที่เรามิอาจรู้ได้อย่างแน่นอนเลยทีเดียวว่าทุกอย่างมันจะเป็นเรื่องจริง
      """"""แต่คิดว่าก็ไม่ควรหลบหลู่เหมือนกันนะขนาเรามาเล่าให้ฟังนิเรายังไม่เชื่อ 100% เลยขอเจอหลักฐานและมีข้อพิสูจน์ก่อน
::อันนี้สำหรับคนที่อยากจะรู้อดีตของตัวเองนะเราคอนเฟริมเลยนะว่าได้ผลเห็นและรู้จริงๆ
       1. นะทุกคืนต้องสวดมนต์ไหว้พระสวดยาว หรือมีอะไรให้สวดสวดให้หมด และแผ่เมตาขั้นตอนนี้สำคัญมากนะอย่าลืมแผ่เมตาไปให้กับบิดามารดาพ่อเกิดแม่เกิดเทวบุตรเทวดารักษาเทวดาที่เรานับถือองค์สัมมาสัมพุธเจ้าพระแม่ธรณีนอกนั้นก็แล้วแต่ #ของจริงจะได้ผลทุกการกระทำต้องออกมาจากใจและจิตของเราจริงๆนะพลาดไม่ได้เลยอันนี้ต้องนิ่งมาก
       2. ขั้นตอนการภาวนาและอธิฐานจิตนั่งสมาธิกรรมฐานอันนี้บอกเลยว่าต้องนิ่งจริงๆถ้าอยากรู้อดีตของตัวเองจริงๆให้เอามือแตะพื้นดินก่อนแล้วอธิฐานกับพระแม่ธรณีว่า "หากเกิดในชาตินี้ฉันใดแล้วพระแม่จำลูกได้ในชาติที่แล้วฉันนั้นหากลูกเคยยืนบนผืนแผ่นดินของแม่ร่างกายลูกที่สลายไปไม่รู้กี่ชั่วโคตรขอแม่ช่วยบอกให้กระจ่างว่าในอดีตชาติลูกคือใครหากบอกมิได้ให้แม่ช่วยใบ้เป็นกรรยานิมิตรด้วยเถิด" #อธิฐานด้วยความอยากรู้และตั้งมั่นจิงๆนะจิตต้องมั่นคงอย่าวอกแวกต้องนิ่งมากๆจริงๆ
       3. คือถ้าอยากรู้จริงๆรอบสองรอบมันไม่เห็นผลหรอกนะทำไปเรื่อยๆเมื่อถึงเวลาที่ควรรู้แม่จะบอกกับเราเองคือเราต้องสร้างบารมีในส่วนนี้ก่อนที่จะรับรู้ในเรื่องแบบนี้นะ คือเพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เทพต้องเก็บไว้เป็นความลับของสวรรค์ห้ามแพร่งพรายการที่เราจะรับรู้และหยั่งรู้ในส่วนนี้นั่นไม่ใช่เราต้องไปแข่งกับเทพนะแต่ให้เราสร้างบารมีให้กับเทพที่จะช่วยเราได้ให้ท่านมีพลังมากพอที่จะบอกเราก่อน เมื่อเราสร้างมากพอและถึงเวลาท่านจะบอกเราเองอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านบำเพ็ญภาวนามามากน้อยเพียงใด ทางที่จะทำให้เทพที่เรานับถือและเทพที่จะช่วยเรานั้นคือการอธิฐานจิตของเราเองนะ จะแกร่งขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองแล้วแหระนะ
      
       :::::::::ลงความคิดเห็นตามสะบายเลยจ่ะมีคำถามอะไรก็ถามเข้ามาได้เลยนะเราตอบทุกคำถามแต่ต้องตามกระทู้นะ::::::::::
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ผมเชื่ออดีตชาติเช่นกันครับ
เพราะมีงานวิจัยของ ศ.นพ.เอียน สตีเวนสัน (ปัจจุบันท่านเสียชีวิตไปแล้ว)
ที่ตีพิมพ์บทความวิชาการด้าน ระลึกชาติ เป็นจริงเป็นจัง
ท่านศึกษาเป็นเวลานานกว่า  47 ปี

ในปัจจุบันนี้ มีผู้ศึกษาการระลึกชาติกว่า 5,000 รายทั่วโลก
ตีพิมพ์เป็นบทความวิชการกว่า หลายร้อย บทความ
ศึกษาเป็นแนววิทยาศาสตร์
(ถ้าใครสนใจลองค้นหาในกูเกิลได้)

แต่เรื่องอดีตชาติสำหรับผม ไม่น่าค้นหาเท่าไร
เพราะมันผ่านมาแล้ว ยิ่งทราบอดีตตัวเองมากเท่าไร ก็จะยึดติดกับอดีตเท่านั้น ดีไม่ดี จะหดหู่เอาอีก
ทั้ง ๆ ที่เกิดมาแล้วแก้ไขไม่ได้ ทำได้แค่ยอมรับ

อย่าว่าแต่อดีตเลย อนาคตผมก็ไม่ค่อยอยากให้ใครทำนายเลย
ยิ่งทำนาย ก็จะทำให้เราหลงคำทำนาย
ทำให้เราต้องเดินตามอนาคตที่ลิขิตไว้
ทั้งที่อนาคตมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้

อดีต อนาคต สำหรับผมไม่ค่อยอยากรับรู้เท่าไร
ขอตอบเจ้าของกระทู้นะครับ สำหรับผมถ้าไม่รู้เลยจะดีกว่า
แต่บางทีไม่อยากรู้ ก็ดันรู้ซะงั้น หรือโดนทำนายอนาคตตลอด

ตามความเห็นผมล้วน ๆ
ดังนั้นถ้าใครไม่อยากรู้อดีต หรืออนาคต เวลาทำ สมาธิกรรมฐาน
ให้อธิษฐานจิตขอให้ปิดญาณ ไม่ให้รู้หรือไม่เห็นเรื่องพวกนี้เลยดีกว่า
เพราะยิ่งปฏิบัติธรรม เดี่ยวมันจะมาเองเรื่องพวกนี้
ถ้ายังสะสมบุญไม่มากพอ ไม่เข้าใจธรรมะอย่างลึกซึ้ง
อาจหลงทางกับเรื่องพวกนี้ ซึ่งนับว่าอันตรายมากๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่