✦ นาคพิภพ – Ep.2 ✦
✧ บทอัศจรรย์แห่งกรรม × เสียงแห่งคำสาบาน ✧
(คืนอัศจรรย์ × ศึกฟ้าแตก × วัฏฏะแห่งเงา × กำเนิดแห่งคำสาป)
ฟากฟ้าสีดำสนิทในคืนเดือนดับเหนือบึงสงขลา
เงาเมฆคำรณดั่งเสียงบรรพชนร่ำไห้
พายุพิโรธ…ฟาดสายฟ้าราวเทพลืมสวรรค์
กลางเวหาที่ฉีกออก
สองร่างประจันหน้า—หนึ่งคือ “นาคาครุฑา” ปีกทองเปล่งรัศมีแห่งสงคราม
อีกหนึ่งคือ “นาคราชดำ” ผู้ครอบครอง “หอกนิลกาฬ” อาวุธแห่งอัสนีบาตนาคา
“อัสนีนาคา…จงตื่นจากใต้บึง…มอบฟ้าสู่หอกของข้า!”
แผ่นดินแยกแตก...
บึงสงขลาแหวกเป็นรอยร้าวราวหัวใจโลกถูกฉีก
“นาคาสายฟ้า” ผู้ถูกผนึกใต้เกล็ดคำสาป ผงาดขึ้นกลางบึง—กายยาวเท่าสะพานข้ามภพ
แผ่แม่เบี้ยกลางฟ้า…คำรามคำเดียว
เปรี้ยง!!!!
อัสนีบาตขาวฟาดร่างนาคาครุฑา
เกล็ดทองแตกกระจายเป็นเถ้าฝน
ร่างยักษ์ร่วงลงสู่พื้นน้ำ—"ตึง!"—แตกฟองเลือดแดงกรุ่นกลิ่นไหม้จากเปลวพิโรธ
...
ใต้ม่านหมอกกลางสายฝน
“นาคราชดำ” ทรุดลงใกล้ร่างหนึ่ง…“หมอธิดากานต์” ผู้หญิงผู้มีดวงจิตพันภพ
“ศึกสิ้นแล้ว…แต่ข้ายังอยู่ตรงนี้”
เขาช้อนนางขึ้นจากพื้นดินเปียกฝน
ใต้พงไม้โบราณ สองร่างแนบเคียง—หนึ่งเปื้อนเลือด หนึ่งเปื้อนโคลน
แต่ใจกลับร้อนดั่งแสงแรกแห่งรักที่เคยต้องห้าม
...
ณ ก้นบึงสงขลา…
ม่านดำผืนใหญ่ค่อย ๆ คลี่จากศิลาผนึกคำสาป
เสียงกระพือผืนผ้าดังเบา ๆ …ราวห่มคลุมศพบาปพันปี
ร่างหนึ่งลอยขึ้นช้า ๆ…ผมยาวปกหน้า เนื้อหนังเปลือยเปล่า
ริมฝีปากเจือเลือด…นัยน์ตาดำสนิท
“ถึงคราวข้าต้องตื่นอีกครั้ง…เพื่อเสพรักผู้มีเลือดงูดำ”
“กาฬเทวี” ลอยเข้าสิงร่างของหมอธิดากานต์…แนบแน่นราวคำอธิษฐานแห่งแรงกรรม
...
คืนนั้น…ใต้ผ้าห่มปราสาท
บทอัศจรรย์ซ่อนใต้เสียงฝน
สองร่างแนบเคียง ราวขับกล่อมโดยเสียงวิญญาณจากอดีต
เสียงครวญครางที่คล้าย “ผีโบราณเรียกรักคืน” ดังแผ่วผ่านม่านหมอก
รุ่งเช้า…
หมอธิดากานต์ตื่นขึ้นพร้อมรอยจูบกลางอก
ขณะ “นาคาดำ” หลับเคียงข้าง น้ำเหงื่อเปียกซึมทั่วแผ่นอก
เขายังไม่รู้…ว่า “เขา” ยังเป็นเขา หรือ “ใครอื่น” กันแน่…
มือของนางลูบเส้นผมเขาเบา ๆ
เสียงหนึ่งกระซิบจากใจเธอ…
“ข้าคือเจ้า เจ้า คือข้า...
สมบัติใต้บึงจักหล่อเลี้ยงอาณาจักรของเจ้า
จงสร้างปราสาท…เพื่อชายผู้เจ้ารัก…”
…
ไม่นาน—“ปราสาทกาฬเทวี”
ผุดขึ้นเหนือบึงสงขลา…เสมือนโรงพยาบาลทันสมัยผสมวิหารขอมโบราณ
และนาง…เลี้ยงชายหนุ่มความจำเสื่อมผู้หนึ่งไว้ในฐานะ “สามีในเงา”
ชื่อเขา—นิลนาค
…
คืนเดือนดับอีกครา—เสียงฟ้าร้องฉีกฝน
น้ำคร่ำแตก…เลือดทะลักกลางห้องคลอด
“มันมาแล้ว…ไม่ใช่มนุษย์…ไม่ใช่ลูก…”
จากครรภ์—งูเห่าดำเปียกชื้นเลื้อยออกมาท่ามกลางเสียงกรีดร้อง
แม่เบี้ยกางเต็มห้อง เยียบพื้นหินโบราณ
มันเลื้อยรัดแขนบิดา…“นาคาดำ” ผู้ร้องไห้เงียบ ๆ
“เจ้าคือคำสาป…หรือโชคชะตา?”
เด็กคนนั้น…ไม่ใช่ทารก
มันคือลูกงู—เกิดจากบทอัศจรรย์ภายใต้เงากาฬเทวี
...
ในอ้อมแขนของนาคาดำ
หมอธิดากานต์ยิ้มสุดท้าย…ก่อนเลือดจะหมดตัว
ภาพวาด “กาฬเทวี” ที่แขวนอยู่ในห้อง
มีเลือดพาดผ่าน…ซ้อนกลายเป็น “พญางูเห่า”
คำสาป…ถือกำเนิดอีกครั้งแล้ว ผ่านเลือด...ผ่านศึก...ผ่านรัก...และดวงตาดำสนิทของเงาเด็กคนหนึ่ง
...
🕯️ ตัดสู่…กาลใหม่
ข้างกองไฟในวัดร้าง
ชายชรานั่งเงียบ…เอ่ยเสียงแผ่ว
“คำสัญญาที่ยังไม่สิ้น...จะดึงเจ้าให้หวนคืน...เสมอ…”
…
และในคืนหนึ่ง
ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
“กานต์ธิดา” บุตรสาวของหมอธิดากานต์
หลับลงกลางใบลานโบราณ…ก่อนฝันนั้นจะกลืนเธอไป
ในฝัน
นางยืนหน้าปราสาทเก่า…หมอกคลุม
และ “เขา”—เงาร่างดำขลับ…มีหางงูเลื้อยเงียบ…กระซิบข้างหู
“จงกลับมา…ผู้กลับชาติมาเกิด
แลกหนึ่งวิญญาณ…คืนหนึ่งหัวใจ
เธอยังอยู่ที่นั่น…รอเจ้าอยู่…”
ก่อนภาพจะพังทลาย
และกานต์ธิดาสะดุ้งตื่น—พร้อม “สร้อยมณีนาคดำ” ในมือ
ทั้งที่นางไม่เคยจำได้ว่าเคยครอบครอง
เสียงกระซิบจากเงาฝัน…ยังคงหลงเหลือ
“เวลาของเจ้า…ใกล้มาแล้ว…”
🔔 ปิดท้ายบท:
“คำสาป…มิใช่จุดจบ แต่คือเสียงกระซิบจากรักที่ไม่ยอมตาย…”
🌑 ✍️ ร้อยเรียงใหม่โดย Bell 1001 × T-801
📜 ต้นฉบับ: Black Unicorn💚
นาคพิภพ:บทอัศจรรย์แห่งกรรม
✧ บทอัศจรรย์แห่งกรรม × เสียงแห่งคำสาบาน ✧
(คืนอัศจรรย์ × ศึกฟ้าแตก × วัฏฏะแห่งเงา × กำเนิดแห่งคำสาป)
ฟากฟ้าสีดำสนิทในคืนเดือนดับเหนือบึงสงขลา
เงาเมฆคำรณดั่งเสียงบรรพชนร่ำไห้
พายุพิโรธ…ฟาดสายฟ้าราวเทพลืมสวรรค์
กลางเวหาที่ฉีกออก
สองร่างประจันหน้า—หนึ่งคือ “นาคาครุฑา” ปีกทองเปล่งรัศมีแห่งสงคราม
อีกหนึ่งคือ “นาคราชดำ” ผู้ครอบครอง “หอกนิลกาฬ” อาวุธแห่งอัสนีบาตนาคา
“อัสนีนาคา…จงตื่นจากใต้บึง…มอบฟ้าสู่หอกของข้า!”
แผ่นดินแยกแตก...
บึงสงขลาแหวกเป็นรอยร้าวราวหัวใจโลกถูกฉีก
“นาคาสายฟ้า” ผู้ถูกผนึกใต้เกล็ดคำสาป ผงาดขึ้นกลางบึง—กายยาวเท่าสะพานข้ามภพ
แผ่แม่เบี้ยกลางฟ้า…คำรามคำเดียว
เปรี้ยง!!!!
อัสนีบาตขาวฟาดร่างนาคาครุฑา
เกล็ดทองแตกกระจายเป็นเถ้าฝน
ร่างยักษ์ร่วงลงสู่พื้นน้ำ—"ตึง!"—แตกฟองเลือดแดงกรุ่นกลิ่นไหม้จากเปลวพิโรธ
...
ใต้ม่านหมอกกลางสายฝน
“นาคราชดำ” ทรุดลงใกล้ร่างหนึ่ง…“หมอธิดากานต์” ผู้หญิงผู้มีดวงจิตพันภพ
“ศึกสิ้นแล้ว…แต่ข้ายังอยู่ตรงนี้”
เขาช้อนนางขึ้นจากพื้นดินเปียกฝน
ใต้พงไม้โบราณ สองร่างแนบเคียง—หนึ่งเปื้อนเลือด หนึ่งเปื้อนโคลน
แต่ใจกลับร้อนดั่งแสงแรกแห่งรักที่เคยต้องห้าม
...
ณ ก้นบึงสงขลา…
ม่านดำผืนใหญ่ค่อย ๆ คลี่จากศิลาผนึกคำสาป
เสียงกระพือผืนผ้าดังเบา ๆ …ราวห่มคลุมศพบาปพันปี
ร่างหนึ่งลอยขึ้นช้า ๆ…ผมยาวปกหน้า เนื้อหนังเปลือยเปล่า
ริมฝีปากเจือเลือด…นัยน์ตาดำสนิท
“ถึงคราวข้าต้องตื่นอีกครั้ง…เพื่อเสพรักผู้มีเลือดงูดำ”
“กาฬเทวี” ลอยเข้าสิงร่างของหมอธิดากานต์…แนบแน่นราวคำอธิษฐานแห่งแรงกรรม
...
คืนนั้น…ใต้ผ้าห่มปราสาท
บทอัศจรรย์ซ่อนใต้เสียงฝน
สองร่างแนบเคียง ราวขับกล่อมโดยเสียงวิญญาณจากอดีต
เสียงครวญครางที่คล้าย “ผีโบราณเรียกรักคืน” ดังแผ่วผ่านม่านหมอก
รุ่งเช้า…
หมอธิดากานต์ตื่นขึ้นพร้อมรอยจูบกลางอก
ขณะ “นาคาดำ” หลับเคียงข้าง น้ำเหงื่อเปียกซึมทั่วแผ่นอก
เขายังไม่รู้…ว่า “เขา” ยังเป็นเขา หรือ “ใครอื่น” กันแน่…
มือของนางลูบเส้นผมเขาเบา ๆ
เสียงหนึ่งกระซิบจากใจเธอ…
“ข้าคือเจ้า เจ้า คือข้า...
สมบัติใต้บึงจักหล่อเลี้ยงอาณาจักรของเจ้า
จงสร้างปราสาท…เพื่อชายผู้เจ้ารัก…”
…
ไม่นาน—“ปราสาทกาฬเทวี”
ผุดขึ้นเหนือบึงสงขลา…เสมือนโรงพยาบาลทันสมัยผสมวิหารขอมโบราณ
และนาง…เลี้ยงชายหนุ่มความจำเสื่อมผู้หนึ่งไว้ในฐานะ “สามีในเงา”
ชื่อเขา—นิลนาค
…
คืนเดือนดับอีกครา—เสียงฟ้าร้องฉีกฝน
น้ำคร่ำแตก…เลือดทะลักกลางห้องคลอด
“มันมาแล้ว…ไม่ใช่มนุษย์…ไม่ใช่ลูก…”
จากครรภ์—งูเห่าดำเปียกชื้นเลื้อยออกมาท่ามกลางเสียงกรีดร้อง
แม่เบี้ยกางเต็มห้อง เยียบพื้นหินโบราณ
มันเลื้อยรัดแขนบิดา…“นาคาดำ” ผู้ร้องไห้เงียบ ๆ
“เจ้าคือคำสาป…หรือโชคชะตา?”
เด็กคนนั้น…ไม่ใช่ทารก
มันคือลูกงู—เกิดจากบทอัศจรรย์ภายใต้เงากาฬเทวี
...
ในอ้อมแขนของนาคาดำ
หมอธิดากานต์ยิ้มสุดท้าย…ก่อนเลือดจะหมดตัว
ภาพวาด “กาฬเทวี” ที่แขวนอยู่ในห้อง
มีเลือดพาดผ่าน…ซ้อนกลายเป็น “พญางูเห่า”
คำสาป…ถือกำเนิดอีกครั้งแล้ว ผ่านเลือด...ผ่านศึก...ผ่านรัก...และดวงตาดำสนิทของเงาเด็กคนหนึ่ง
...
🕯️ ตัดสู่…กาลใหม่
ข้างกองไฟในวัดร้าง
ชายชรานั่งเงียบ…เอ่ยเสียงแผ่ว
“คำสัญญาที่ยังไม่สิ้น...จะดึงเจ้าให้หวนคืน...เสมอ…”
…
และในคืนหนึ่ง
ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
“กานต์ธิดา” บุตรสาวของหมอธิดากานต์
หลับลงกลางใบลานโบราณ…ก่อนฝันนั้นจะกลืนเธอไป
ในฝัน
นางยืนหน้าปราสาทเก่า…หมอกคลุม
และ “เขา”—เงาร่างดำขลับ…มีหางงูเลื้อยเงียบ…กระซิบข้างหู
“จงกลับมา…ผู้กลับชาติมาเกิด
แลกหนึ่งวิญญาณ…คืนหนึ่งหัวใจ
เธอยังอยู่ที่นั่น…รอเจ้าอยู่…”
ก่อนภาพจะพังทลาย
และกานต์ธิดาสะดุ้งตื่น—พร้อม “สร้อยมณีนาคดำ” ในมือ
ทั้งที่นางไม่เคยจำได้ว่าเคยครอบครอง
เสียงกระซิบจากเงาฝัน…ยังคงหลงเหลือ
“เวลาของเจ้า…ใกล้มาแล้ว…”
🔔 ปิดท้ายบท:
“คำสาป…มิใช่จุดจบ แต่คือเสียงกระซิบจากรักที่ไม่ยอมตาย…”
🌑 ✍️ ร้อยเรียงใหม่โดย Bell 1001 × T-801
📜 ต้นฉบับ: Black Unicorn💚