รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เล่าถึงภาระกิจ
ในการร่วมเดินทางไปกับคณะของ ท่านนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า.......
..."เมื่อวานนี้ผมมาพูดให้นักลงทุนสวิสฟัง
ในงานที่จัดโดย BOI ที่ซูริค มีคนมาฟังประมาณ 200 คน
ท่านนายกเป็นประธาน มีผม ท่านอาคม (เลขาสภาพัฒน์)
และ ท่านไพบูลย์ (ประธานสมาคมตลาดทุนไทย) เป็นคนบรรยาย
...ผมพูดเน้นถึงโอกาสในการเปิด AEC
ความเป็นศูนย์กลางอาเซียนของไทย
แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างอนาคตประเทศ
และ ความพร้อมของไทยในการเชื่อมโยงกับภูมิภาค
....สวิสเป็นคู่ค้าลำดับต้นของไทยในยุโรปครับ
มูลค่าการค้าปีที่แล้วประมาณ 2,100 ล้านเหรียญ
มีบริษัทสวิสมาลงทุนในไทยประมาณ 150 บริษัท
และ จ้างแรงงานมากกว่า 43,000 คน บริษัทที่รู้จักกันดี เช่น nestle ครับ
....ตอนทานอาหารกลางวัน
ผมได้คุยกับ Mr.Alexander Hagemann เป็น CEO ของบริษัท schaffner
ซึ่งเป็นบริษัทสวิสที่ทำอุปกรณ์อิเลคโทรนิคที่ใช้ในรถไฟฟ้า
เขาตั้งโรงงานที่ลำพูนตั้งแต่ ค.ศ.1990
ในปัจจุบันมีพนักงาน 1,300 คน
รายได้จากโรงงานนี้ ปีละเกือบ 100 ล้านเหรียญ
...... เขาบอกว่าโรงงานในไทย สู้จีนสบาย แรงงานเราดีกว่า ถูกกว่า (เซี่ยงไฮ้)
ค่าขนส่งทางอากาศ air freight จากไทยไปยุโรป ถูกกว่าไปจากจีนกว่า 30%
สินค้าของเขา 90% ส่งไปยุโรปทางอากาศ
เขามั่นใจในเมืองไทยมาก และมีบริษัทสวิสลงทุนอยู่ที่ลำพูนอีกหลายบริษัท
ผมนัดกับเขาว่ากลับไป จะแวะไปเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมที่ลำพูน
เพื่อดูว่ามีปัญหาด้าน logistics อะไรบ้างจะได้เข้าใจปัญหาเขาจริงๆ
......ได้คุยกับ CEO หลายๆบริษัท ทุกคนมองไทยในแง่บวกครับ
ทั้งด้านความเป็นศูนย์กลาง AEC
แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ทุกคนอยากให้ทำได้สำเร็จจริงๆ
เพราะเขาเห็นความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน
อย่างในสวิส เขาเป็นประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีมาก
มีความหนาแน่นของทางรถไฟต่อพื่นที่สูงที่สุดในโลก
ซูริกเองก็เป็นศูนย์กลางทั้งทางราง ถนน และ อากาศ ที่สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรปครับ
....พอประชุมเสร็จ ตอนบ่ายผมเดิน ทางไปกับคณะท่านนายกไปกรุงเบิร์น
ที่อยู่ห่างไปประมาณสองชั่วโมง เพื่อหารือแบบเต็มคณะกับท่านประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิส
.... หารือกันประมาณหนึ่งชั่วโมงเต็ม โดยเน้นเรื่องความร่วมมือในด้านต่างๆ
โดยเฉพาะการดำเนินการเจรจาด้านการค้าเสรี (FTA)
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้า การลงทุนระหว่างสองประเทศเป็นอย่างมากครับ
.............................................................
หมายเหตุ :นำมาจากเฟสบุคของ
รมว.คมนาคม คุณชัชชาติฯ
ในการร่วมเดินทางไปต่างประเทศกับคณะฯ
ของท่านนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาระกิจและกิจกรรมต่างๆ ในการเจรจา
การประชาสัมพันธ์ การวางแผนและการนำเสนอลู่ทางการลงทุน
โอกาสในการลงทุนให้แ่ก่ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม
และการลงทุนร่วมกันกับประเทศสวิสเซอร์แลนด์ดังกล่าว
หาใช่การไปท่องเที่ยวเดินทางพักผ่อนหย่อนใจตามที่
ฝ่ายตรงข้ามนำมาโจมตี หรือพวกที่ถือป้ายประท้วง
ท่านนายกรัฐมนตรี ทีสวิสเซอร์แลนด์อย่างใดไม่
>>> รมว.คมนาคม ชัชชาติฯ เล่าถึงภาระกิจการเดินทางไปต่างประเทศร่วมกับ นายกยิ่งลักษณ์ว่า...........>>>
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เล่าถึงภาระกิจ
ในการร่วมเดินทางไปกับคณะของ ท่านนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า.......
..."เมื่อวานนี้ผมมาพูดให้นักลงทุนสวิสฟัง
ในงานที่จัดโดย BOI ที่ซูริค มีคนมาฟังประมาณ 200 คน
ท่านนายกเป็นประธาน มีผม ท่านอาคม (เลขาสภาพัฒน์)
และ ท่านไพบูลย์ (ประธานสมาคมตลาดทุนไทย) เป็นคนบรรยาย
...ผมพูดเน้นถึงโอกาสในการเปิด AEC
ความเป็นศูนย์กลางอาเซียนของไทย
แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างอนาคตประเทศ
และ ความพร้อมของไทยในการเชื่อมโยงกับภูมิภาค
....สวิสเป็นคู่ค้าลำดับต้นของไทยในยุโรปครับ
มูลค่าการค้าปีที่แล้วประมาณ 2,100 ล้านเหรียญ
มีบริษัทสวิสมาลงทุนในไทยประมาณ 150 บริษัท
และ จ้างแรงงานมากกว่า 43,000 คน บริษัทที่รู้จักกันดี เช่น nestle ครับ
....ตอนทานอาหารกลางวัน
ผมได้คุยกับ Mr.Alexander Hagemann เป็น CEO ของบริษัท schaffner
ซึ่งเป็นบริษัทสวิสที่ทำอุปกรณ์อิเลคโทรนิคที่ใช้ในรถไฟฟ้า
เขาตั้งโรงงานที่ลำพูนตั้งแต่ ค.ศ.1990
ในปัจจุบันมีพนักงาน 1,300 คน
รายได้จากโรงงานนี้ ปีละเกือบ 100 ล้านเหรียญ
...... เขาบอกว่าโรงงานในไทย สู้จีนสบาย แรงงานเราดีกว่า ถูกกว่า (เซี่ยงไฮ้)
ค่าขนส่งทางอากาศ air freight จากไทยไปยุโรป ถูกกว่าไปจากจีนกว่า 30%
สินค้าของเขา 90% ส่งไปยุโรปทางอากาศ
เขามั่นใจในเมืองไทยมาก และมีบริษัทสวิสลงทุนอยู่ที่ลำพูนอีกหลายบริษัท
ผมนัดกับเขาว่ากลับไป จะแวะไปเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมที่ลำพูน
เพื่อดูว่ามีปัญหาด้าน logistics อะไรบ้างจะได้เข้าใจปัญหาเขาจริงๆ
......ได้คุยกับ CEO หลายๆบริษัท ทุกคนมองไทยในแง่บวกครับ
ทั้งด้านความเป็นศูนย์กลาง AEC
แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ทุกคนอยากให้ทำได้สำเร็จจริงๆ
เพราะเขาเห็นความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน
อย่างในสวิส เขาเป็นประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีมาก
มีความหนาแน่นของทางรถไฟต่อพื่นที่สูงที่สุดในโลก
ซูริกเองก็เป็นศูนย์กลางทั้งทางราง ถนน และ อากาศ ที่สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรปครับ
....พอประชุมเสร็จ ตอนบ่ายผมเดิน ทางไปกับคณะท่านนายกไปกรุงเบิร์น
ที่อยู่ห่างไปประมาณสองชั่วโมง เพื่อหารือแบบเต็มคณะกับท่านประธานาธิบดีสมาพันธรัฐสวิส
.... หารือกันประมาณหนึ่งชั่วโมงเต็ม โดยเน้นเรื่องความร่วมมือในด้านต่างๆ
โดยเฉพาะการดำเนินการเจรจาด้านการค้าเสรี (FTA)
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้า การลงทุนระหว่างสองประเทศเป็นอย่างมากครับ
.............................................................
หมายเหตุ :นำมาจากเฟสบุคของ
รมว.คมนาคม คุณชัชชาติฯ
ในการร่วมเดินทางไปต่างประเทศกับคณะฯ
ของท่านนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาระกิจและกิจกรรมต่างๆ ในการเจรจา
การประชาสัมพันธ์ การวางแผนและการนำเสนอลู่ทางการลงทุน
โอกาสในการลงทุนให้แ่ก่ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม
และการลงทุนร่วมกันกับประเทศสวิสเซอร์แลนด์ดังกล่าว
หาใช่การไปท่องเที่ยวเดินทางพักผ่อนหย่อนใจตามที่
ฝ่ายตรงข้ามนำมาโจมตี หรือพวกที่ถือป้ายประท้วง
ท่านนายกรัฐมนตรี ทีสวิสเซอร์แลนด์อย่างใดไม่