เรื่องของผมอาจจะน่าเบื่อนิดนึงนะครับ
ผมคือผู้ชายคนหนึ่ง ที่รักผู้ชายด้วยกันเอง เพียงแต่ ลุคของผมจริงๆนั้น คือ ผู้ชายแท้ๆคนนึง ในสังคมมหาวิทยาลัย ไม่มีใครรับรู้ในสิ่งที่ผมเป็น และผมก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย มีเพียงทางเดียวที่ผมใช้เป็นช่องทางในการหาเพื่อนๆ หรือหาความรักในแบบของผม ทางนั้นก็คือ พันทิพ
ผมเริ่มจากการเข้ามาอ่านห้องสยามทุกวัน เพื่อหากระทู้ที่มีตัว Y และทำความรู้จักกับใครหลายๆคนในนี้ ก็ได้เพื่อนหลายคนหลายประเภท หลังไมค์คุยกันบ้าง ขอไลน์ไว้แชทกันบ้าง จนกระทั่งผมได้มาเจอกับกระทู้หนึ่ง
ผมก็ทำทุกอย่างปกติตามสิ่งที่เคยทำคือ หลังไมค์ไปทำความรู้จัก และเพียงไม่กี่วันต่อมา เราก็ได้แลกไลน์ซึ่งกันและกัน
การสนทนาผ่านไลน์ของหนุ่มต่างจังหวัดทั้งสองคนก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทั้งคู่ก็ได้รู้จักกันผ่านทางเฟสบุค ได้เห็นหน้าตาของกันและกัน และเราก็เปลี่ยนการสนทนาจากไลน์มาเป็นเฟสบุคแทน
การสนทนาของเรายิ่งถี่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะเปลี่ยนจากแชทไลน์ที่ต้องทนก้มหน้าคลำหาตัวอักษรจนเมื่อยคอ มาเป็นแชทผ่านเฟสบุค เพราะผมติดเกมส์ แทบจะมีโน๊ตบุคติดตัวอยู่ตลอดเวลา จึงได้คุยกันเรื่อยๆ จนกระทั่ง ...
ในวันๆหนึ่ง เราก็ได้คุยสนทนาในเรื่องทั่วไปตามปกติ เค้าได้บอกผมว่า คืนนี้รีบนอนไหม อยากคุยกันแบบเปิดใจอะไรหลายๆอย่างหน่อย ไอ้เราก็ไม่ติดขัด ก็รับปาก เค้าบอกว่าเค้าจะออกไปธุระข้างนอก กลับมาสองทุ่มจะทักมา ไอ้เราก็ด้วยความที่เล่นเกมส์อดหลับอดนอนมาก็ของีบสักแปป โดยตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 20.00
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอัติโนมัติด้วยความตื่นเต้นก่อนถึงเวลาปลุกของนาฬิกา และก็พบว่าเขาได้ทักมาในเฟสบุคแล้ว
ผมรีบตอบกลับไปในทันทีทันใด และเราก็เริ่มการสนทนาอย่างเปิดใจ
ในการสนทนานี้ก็ไม่ต่างอะไรมาก เพียงแต่ อยากรู้อะไร อีกฝ่ายต้องตอบมาตามความจริง เราถามเรื่องส่วนตัวกันเยอะมาก ทำให้เรารู้จักกันมากขึ้นและพบว่า เราสองคนเหมือนกันมากจริงๆ
จากความรู้สึกเฉยๆไม่คิดอะไร ก็ไม่รู้เพราะเหตุผลไหนที่ทำให้ผมรู้สึกหลงไหลเค้าเข้าโดยไม่รู้ตัว เริ่มมีการคิดถึงและหึงหวงขึ้นมา
เราคุยกันมากขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และยิ่งทำให้ผมรู้สึกหลงเค้ามากขึ้นไปทุกที เรามีการหยอกล้อเรื่องเป็นแฟนกันบ่อยมาก เราเคยคุยเรื่องเป็นแฟนกัน เค้าก็บอกว่ารออีก 2 ปีก่อนได้ไหม ให้อายุครบ 20 ปีก่อน แล้วเราค่อยมาคบกัน และผมก็สัญญาว่าจะรอ
เค้าแพลนอะไรหลายอย่างให้ผมฟังเยอะแยะ ทั้งเรื่องกฎหมายแต่งงาน เรื่องอนาคตต่างๆนาๆ จนผมวาดฝันเอาไว้มากมาย
ความสุข ความหลง ได้เข้าครอบงำเฟสบุคผม ที่เต็มไปด้วยเพลงหวานหรือเพลงรัก เพราะผมมีนิสัยชอบพร่ำเพ้อบนเฟสบุค ผมโพสต์เพลงรักๆบ่อยมาก ในทางกลับกัน เค้าเริ่มคุยกับผมน้อยลง จนกระทั่ง อยู่ๆก็หายไปโดยไม่บอกไม่กล่าว
ผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ ผมยังไม่ได้รับการตอบจากเค้า ผมทักเฟสเค้าไปบ่อยๆ ทุกวัน ทั้งทางไลน์ด้วย แต่มันน่าเจ็บใจที่ ... อ่านแล้วไม่ตอบ
หนึ่งสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ทรมานมาก เวลาเดินไปอย่างช้าๆ ผมอยู่กับตัวเองด้วยความมึนงงว่าผมทำอะไรผิดไป ทำไมอยู่ๆก็เงียบหายไปซะอย่างงั้น เหมือนกับดนตรีที่กำลังเล่นมาแล้วก็เงียบหายไปโดยไม่มีสัญญาณใดๆบอกก่อนล่วงหน้าทั้งสิ้น แล้วเค้าก็กลับมาด้วยประโยคอันยาวยืด
สิ่งที่เกิดขึ้น ที่เค้าหายไปเพราะ ... ผมพร่ำเพ้อมากเกินไปจนเค้ากลัวว่าใครจะรู้เข้า เพราะทั้งผมและเค้าเราต่างไม่เปิดเผยกับคนรอบข้าง และอีกหนึ่งเหตุผลคือ เค้าขอเวลาตั้งใจเรียนจนจบมหาวิทยาลัย ไม่อยากคิดเรื่องความรัก อยากจะตั้งใจเรียนอย่างเดียว และอยากให้เราเป็นเพื่อนกันก่อน เค้าไม่อยากให้ผมรอเค้า เพราะมันนาน
สิ่งที่ผมอ่านตอนนั้น ทำให้ผมโกรธไม่ลง และเข้าใจว่าอยากตั้งใจเรียนจริงๆ ผมเลยรับปากไปว่า ผมจะรอนะ จนกว่าจะเรียนจบปริญญาตรี ผมก็จะรอ และหลังจากนั้นมา เค้าก็เริ่มตอบเฟสผมบ้าง แต่เป็นแบบ ถามคำตอบคำ ซึ่งก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าเค้าคงไม่อยากคุยกับผมจริงๆ (ถ้าคนมันชอบกันจริงๆ ยังไงมันก็ต้องหาทางคุยกันให้ได้ ผมคิดอย่างนี้นะ)
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ ผมอยู่กับความทรมาน อยู่กับความคิดถึง จมอยู่กับความเศร้า อยู่กับความสับสน ว่าเราควรจะรอหรือควรจะพอดี ผมจมอยู่กับสิ่งเหล่านี้อยู่เกือบเดือน และถามตัวเองทุกวันว่า หยุดรอดีไหม และในที่สุด ผมก็ตัดสินใจแล้วว่า ผมจะหยุดรอเค้าแล้วล่ะ เพราะรอยังไงก็แห้วแน่ๆ
ผมเดินจากเค้าไปเงียบๆ ไม่ทักเฟส ไม่ทักไลน์ แล้วผมก็เปลี่ยนเฟส นั่งบอกกับตัวเองทุกวันว่า หยุดรอเค้าเถอะ
เวลาผ่านไปประมาณสองเดือนที่ผมออกมาจากชีวิตเค้า เค้าก็ได้ทักผมมาในเฟสเก่าผม (ผมเข้าไปเช็คข่าวคราวบ่อยๆน่ะครับ) และบอกว่าคิดถึงผม สิ่งนี้มันทำให้ผมเริ่มคิดถึงเรื่องเก่าๆที่เราเคยคุยกัน แต่ผมก็เลือกที่จะหยุดมันไว้แค่นั้น และผมเข้าใจมาตลอดว่า เค้าตั้งใจเรียนและไม่ยุ่งเรื่องความรัก ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผมโกรธแค้นอะไรเค้าเลย จากไปอย่างเข้าใจมากกว่า จนกระทั่ง ...
ผมบังเอิญไปแอบเห็นล๊อคอินเค้าโพสต์กระทู้ในพันทิพ (เค้าไม่บอกชื่อเมมให้ผมรู้หรอก เพราะเค้าบอกว่าแม่เค้าใช้เมมร่วมกับเค้า แล้วะตอนที่เรารู้จักกัน เค้าใช้เมมปลอม แต่ผมก็สืบมาจนรู้น่ะครับ แถมรู้ด้วยว่าแม่เค้าไม่ได้ใช้เมมร่วมกับเค้า) ซึ่งสิ่งที่ผมอ่านมันทำให้ผมชาไปทั้งตัวทะลุเข้าถึงหัวใจในทันที
สิ่งที่เค้าโพสต์คือ เค้าบอกว่าเค้าอกหัก เพราะเค้าไปชอบคนที่ไม่ได้ชอบเค้า รายละเอียดต่างๆในกระทู้ผมขอไม่พูดถึงเพราะมันเป็นการพร่ำเพ้อถึงคนที่ไปหักอกเค้า ซึ่งบอกตรงๆ วินาทีแรกที่รับรู้คือ ผมโกรธและน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวเลยครับ
มันหมายความว่าตลอดระยะเวลาที่เราคุยกันตอนแรกไม่มีความหมายใดๆทั้งสิ้นเลยหรอ เข้ามาวาดฝันต่างๆนาๆให้ผม แล้วก็ทิ้งผมแบบไม่ใยดี มันเจ็บที่ผมเชื่อมาตลอดว่า เค้าตั้งใจเรียนและไม่อยากยุ่งกับความรัก มันอาจจะดูว่าผมโง่ที่เชื่อแบบนี้ แต่มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เดินจากไปแบบไม่เจ็บแค้น แต่กลายเป็นว่า สาเหตุที่เค้าไปจากผมคือ เค้าไปคุยกับคนอื่น
ถามว่าผมรู้ไหมคนนี้คือใคร ผมก็รู้ เพราะตอนที่เราคุยกันตอนแรก เค้าก็เคยพูดถึงคนนี้ให้ผมฟัง แต่เค้าบอกว่าแค่เพื่อนไม่ได้คิดอะไร ไม่ค่อยได้คุยเท่าไหร่
ความรู้สึกตอนนี้ แค่อยากกลับไปคุยยังไม่อยากเลยครับ เพราะก่อนหน้านี้ เค้าก็ยังมีทักมาบ้าง ผมก็ยังตอบกลับเค้าไปบ้าง คุยกันตามประสาคนรู้จักกัน
ถึงเวลาที่ผมต้องลืมคนๆนี้ไปจากความทรงจำเสียที แต่ก็อย่างว่า ยิ่งอยากลืม ก็ยิ่งจำ
เป็น Y มันก็ยากอยู่แล้วที่จะมีใคร ยิ่งมาโดนหลอกให้รัก แล้วก็ทิ้งกันไปแบบไม่เห็นใจแบบนี้ บอกตรงๆ "โคตรเจ็บเลยว่ะ"
และนี่ก็คือเรื่องความรักที่ทำให้ผมเจ็บที่สุดในชีวิตครับ (เพราะไม่ค่อยมีความรักเกิดขึ้นกับผมซักเท่าไหร่ อย่างมากก็แค่แอบชอบเพื่อนน่ะครับ)
อยากจะฝากเพื่อนๆว่า อย่าคาดหวังความรักผ่านตัวอักษรไว้สูง มันเป็นเพียงช่องทางที่ไว้ทำความรู้จัก ส่วนความรักให้มันไปก่อในชีวิตจริงดีกว่านะครับ
ฝากถึงคนๆนั้นที่อยู่ในพันทิพ เผื่อเข้ามาอ่านนะครับ ตอนนี้ผมไม่ได้โกรธแค้นอะไรคุณแล้วนะครับ ไม่ต้องกลัวว่าผมจะไปทำอะไรให้คุณ แต่ขออย่างนะครับ อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ไม่รักไม่ใช่ ยังไงก็ให้บอกไปตรงๆ อย่าเที่ยวไปให้ความหวังใคร แล้วเดินจากไปปล่อยให้เค้าหวังเก้อ ผมเคยคิดนะครับว่าจะรอคุณเรียนจบจริงๆ แต่ก็ดีนะครับที่ผมตัดใจไปก่อนหน้าแล้ว ไม่งั้น ถ้าผมมารับรู้ความจริงทั้งๆที่ผมยังรออยู่ ป่านนี้คงนอนช้ำอยู่ที่ห้องอยู่แน่ๆเลยครับ
หนึ่งประสบการณ์ Y ที่ทำให้ผมไม่คิดจะรักใครในพันทิพอีกต่อไป
ผมคือผู้ชายคนหนึ่ง ที่รักผู้ชายด้วยกันเอง เพียงแต่ ลุคของผมจริงๆนั้น คือ ผู้ชายแท้ๆคนนึง ในสังคมมหาวิทยาลัย ไม่มีใครรับรู้ในสิ่งที่ผมเป็น และผมก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย มีเพียงทางเดียวที่ผมใช้เป็นช่องทางในการหาเพื่อนๆ หรือหาความรักในแบบของผม ทางนั้นก็คือ พันทิพ
ผมเริ่มจากการเข้ามาอ่านห้องสยามทุกวัน เพื่อหากระทู้ที่มีตัว Y และทำความรู้จักกับใครหลายๆคนในนี้ ก็ได้เพื่อนหลายคนหลายประเภท หลังไมค์คุยกันบ้าง ขอไลน์ไว้แชทกันบ้าง จนกระทั่งผมได้มาเจอกับกระทู้หนึ่ง
ผมก็ทำทุกอย่างปกติตามสิ่งที่เคยทำคือ หลังไมค์ไปทำความรู้จัก และเพียงไม่กี่วันต่อมา เราก็ได้แลกไลน์ซึ่งกันและกัน
การสนทนาผ่านไลน์ของหนุ่มต่างจังหวัดทั้งสองคนก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทั้งคู่ก็ได้รู้จักกันผ่านทางเฟสบุค ได้เห็นหน้าตาของกันและกัน และเราก็เปลี่ยนการสนทนาจากไลน์มาเป็นเฟสบุคแทน
การสนทนาของเรายิ่งถี่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะเปลี่ยนจากแชทไลน์ที่ต้องทนก้มหน้าคลำหาตัวอักษรจนเมื่อยคอ มาเป็นแชทผ่านเฟสบุค เพราะผมติดเกมส์ แทบจะมีโน๊ตบุคติดตัวอยู่ตลอดเวลา จึงได้คุยกันเรื่อยๆ จนกระทั่ง ...
ในวันๆหนึ่ง เราก็ได้คุยสนทนาในเรื่องทั่วไปตามปกติ เค้าได้บอกผมว่า คืนนี้รีบนอนไหม อยากคุยกันแบบเปิดใจอะไรหลายๆอย่างหน่อย ไอ้เราก็ไม่ติดขัด ก็รับปาก เค้าบอกว่าเค้าจะออกไปธุระข้างนอก กลับมาสองทุ่มจะทักมา ไอ้เราก็ด้วยความที่เล่นเกมส์อดหลับอดนอนมาก็ของีบสักแปป โดยตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 20.00
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอัติโนมัติด้วยความตื่นเต้นก่อนถึงเวลาปลุกของนาฬิกา และก็พบว่าเขาได้ทักมาในเฟสบุคแล้ว
ผมรีบตอบกลับไปในทันทีทันใด และเราก็เริ่มการสนทนาอย่างเปิดใจ
ในการสนทนานี้ก็ไม่ต่างอะไรมาก เพียงแต่ อยากรู้อะไร อีกฝ่ายต้องตอบมาตามความจริง เราถามเรื่องส่วนตัวกันเยอะมาก ทำให้เรารู้จักกันมากขึ้นและพบว่า เราสองคนเหมือนกันมากจริงๆ
จากความรู้สึกเฉยๆไม่คิดอะไร ก็ไม่รู้เพราะเหตุผลไหนที่ทำให้ผมรู้สึกหลงไหลเค้าเข้าโดยไม่รู้ตัว เริ่มมีการคิดถึงและหึงหวงขึ้นมา
เราคุยกันมากขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และยิ่งทำให้ผมรู้สึกหลงเค้ามากขึ้นไปทุกที เรามีการหยอกล้อเรื่องเป็นแฟนกันบ่อยมาก เราเคยคุยเรื่องเป็นแฟนกัน เค้าก็บอกว่ารออีก 2 ปีก่อนได้ไหม ให้อายุครบ 20 ปีก่อน แล้วเราค่อยมาคบกัน และผมก็สัญญาว่าจะรอ
เค้าแพลนอะไรหลายอย่างให้ผมฟังเยอะแยะ ทั้งเรื่องกฎหมายแต่งงาน เรื่องอนาคตต่างๆนาๆ จนผมวาดฝันเอาไว้มากมาย
ความสุข ความหลง ได้เข้าครอบงำเฟสบุคผม ที่เต็มไปด้วยเพลงหวานหรือเพลงรัก เพราะผมมีนิสัยชอบพร่ำเพ้อบนเฟสบุค ผมโพสต์เพลงรักๆบ่อยมาก ในทางกลับกัน เค้าเริ่มคุยกับผมน้อยลง จนกระทั่ง อยู่ๆก็หายไปโดยไม่บอกไม่กล่าว
ผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ ผมยังไม่ได้รับการตอบจากเค้า ผมทักเฟสเค้าไปบ่อยๆ ทุกวัน ทั้งทางไลน์ด้วย แต่มันน่าเจ็บใจที่ ... อ่านแล้วไม่ตอบ
หนึ่งสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ทรมานมาก เวลาเดินไปอย่างช้าๆ ผมอยู่กับตัวเองด้วยความมึนงงว่าผมทำอะไรผิดไป ทำไมอยู่ๆก็เงียบหายไปซะอย่างงั้น เหมือนกับดนตรีที่กำลังเล่นมาแล้วก็เงียบหายไปโดยไม่มีสัญญาณใดๆบอกก่อนล่วงหน้าทั้งสิ้น แล้วเค้าก็กลับมาด้วยประโยคอันยาวยืด
สิ่งที่เกิดขึ้น ที่เค้าหายไปเพราะ ... ผมพร่ำเพ้อมากเกินไปจนเค้ากลัวว่าใครจะรู้เข้า เพราะทั้งผมและเค้าเราต่างไม่เปิดเผยกับคนรอบข้าง และอีกหนึ่งเหตุผลคือ เค้าขอเวลาตั้งใจเรียนจนจบมหาวิทยาลัย ไม่อยากคิดเรื่องความรัก อยากจะตั้งใจเรียนอย่างเดียว และอยากให้เราเป็นเพื่อนกันก่อน เค้าไม่อยากให้ผมรอเค้า เพราะมันนาน
สิ่งที่ผมอ่านตอนนั้น ทำให้ผมโกรธไม่ลง และเข้าใจว่าอยากตั้งใจเรียนจริงๆ ผมเลยรับปากไปว่า ผมจะรอนะ จนกว่าจะเรียนจบปริญญาตรี ผมก็จะรอ และหลังจากนั้นมา เค้าก็เริ่มตอบเฟสผมบ้าง แต่เป็นแบบ ถามคำตอบคำ ซึ่งก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าเค้าคงไม่อยากคุยกับผมจริงๆ (ถ้าคนมันชอบกันจริงๆ ยังไงมันก็ต้องหาทางคุยกันให้ได้ ผมคิดอย่างนี้นะ)
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ ผมอยู่กับความทรมาน อยู่กับความคิดถึง จมอยู่กับความเศร้า อยู่กับความสับสน ว่าเราควรจะรอหรือควรจะพอดี ผมจมอยู่กับสิ่งเหล่านี้อยู่เกือบเดือน และถามตัวเองทุกวันว่า หยุดรอดีไหม และในที่สุด ผมก็ตัดสินใจแล้วว่า ผมจะหยุดรอเค้าแล้วล่ะ เพราะรอยังไงก็แห้วแน่ๆ
ผมเดินจากเค้าไปเงียบๆ ไม่ทักเฟส ไม่ทักไลน์ แล้วผมก็เปลี่ยนเฟส นั่งบอกกับตัวเองทุกวันว่า หยุดรอเค้าเถอะ
เวลาผ่านไปประมาณสองเดือนที่ผมออกมาจากชีวิตเค้า เค้าก็ได้ทักผมมาในเฟสเก่าผม (ผมเข้าไปเช็คข่าวคราวบ่อยๆน่ะครับ) และบอกว่าคิดถึงผม สิ่งนี้มันทำให้ผมเริ่มคิดถึงเรื่องเก่าๆที่เราเคยคุยกัน แต่ผมก็เลือกที่จะหยุดมันไว้แค่นั้น และผมเข้าใจมาตลอดว่า เค้าตั้งใจเรียนและไม่ยุ่งเรื่องความรัก ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผมโกรธแค้นอะไรเค้าเลย จากไปอย่างเข้าใจมากกว่า จนกระทั่ง ...
ผมบังเอิญไปแอบเห็นล๊อคอินเค้าโพสต์กระทู้ในพันทิพ (เค้าไม่บอกชื่อเมมให้ผมรู้หรอก เพราะเค้าบอกว่าแม่เค้าใช้เมมร่วมกับเค้า แล้วะตอนที่เรารู้จักกัน เค้าใช้เมมปลอม แต่ผมก็สืบมาจนรู้น่ะครับ แถมรู้ด้วยว่าแม่เค้าไม่ได้ใช้เมมร่วมกับเค้า) ซึ่งสิ่งที่ผมอ่านมันทำให้ผมชาไปทั้งตัวทะลุเข้าถึงหัวใจในทันที
สิ่งที่เค้าโพสต์คือ เค้าบอกว่าเค้าอกหัก เพราะเค้าไปชอบคนที่ไม่ได้ชอบเค้า รายละเอียดต่างๆในกระทู้ผมขอไม่พูดถึงเพราะมันเป็นการพร่ำเพ้อถึงคนที่ไปหักอกเค้า ซึ่งบอกตรงๆ วินาทีแรกที่รับรู้คือ ผมโกรธและน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวเลยครับ
มันหมายความว่าตลอดระยะเวลาที่เราคุยกันตอนแรกไม่มีความหมายใดๆทั้งสิ้นเลยหรอ เข้ามาวาดฝันต่างๆนาๆให้ผม แล้วก็ทิ้งผมแบบไม่ใยดี มันเจ็บที่ผมเชื่อมาตลอดว่า เค้าตั้งใจเรียนและไม่อยากยุ่งกับความรัก มันอาจจะดูว่าผมโง่ที่เชื่อแบบนี้ แต่มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เดินจากไปแบบไม่เจ็บแค้น แต่กลายเป็นว่า สาเหตุที่เค้าไปจากผมคือ เค้าไปคุยกับคนอื่น
ถามว่าผมรู้ไหมคนนี้คือใคร ผมก็รู้ เพราะตอนที่เราคุยกันตอนแรก เค้าก็เคยพูดถึงคนนี้ให้ผมฟัง แต่เค้าบอกว่าแค่เพื่อนไม่ได้คิดอะไร ไม่ค่อยได้คุยเท่าไหร่
ความรู้สึกตอนนี้ แค่อยากกลับไปคุยยังไม่อยากเลยครับ เพราะก่อนหน้านี้ เค้าก็ยังมีทักมาบ้าง ผมก็ยังตอบกลับเค้าไปบ้าง คุยกันตามประสาคนรู้จักกัน
ถึงเวลาที่ผมต้องลืมคนๆนี้ไปจากความทรงจำเสียที แต่ก็อย่างว่า ยิ่งอยากลืม ก็ยิ่งจำ
เป็น Y มันก็ยากอยู่แล้วที่จะมีใคร ยิ่งมาโดนหลอกให้รัก แล้วก็ทิ้งกันไปแบบไม่เห็นใจแบบนี้ บอกตรงๆ "โคตรเจ็บเลยว่ะ"
และนี่ก็คือเรื่องความรักที่ทำให้ผมเจ็บที่สุดในชีวิตครับ (เพราะไม่ค่อยมีความรักเกิดขึ้นกับผมซักเท่าไหร่ อย่างมากก็แค่แอบชอบเพื่อนน่ะครับ)
อยากจะฝากเพื่อนๆว่า อย่าคาดหวังความรักผ่านตัวอักษรไว้สูง มันเป็นเพียงช่องทางที่ไว้ทำความรู้จัก ส่วนความรักให้มันไปก่อในชีวิตจริงดีกว่านะครับ
ฝากถึงคนๆนั้นที่อยู่ในพันทิพ เผื่อเข้ามาอ่านนะครับ ตอนนี้ผมไม่ได้โกรธแค้นอะไรคุณแล้วนะครับ ไม่ต้องกลัวว่าผมจะไปทำอะไรให้คุณ แต่ขออย่างนะครับ อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ไม่รักไม่ใช่ ยังไงก็ให้บอกไปตรงๆ อย่าเที่ยวไปให้ความหวังใคร แล้วเดินจากไปปล่อยให้เค้าหวังเก้อ ผมเคยคิดนะครับว่าจะรอคุณเรียนจบจริงๆ แต่ก็ดีนะครับที่ผมตัดใจไปก่อนหน้าแล้ว ไม่งั้น ถ้าผมมารับรู้ความจริงทั้งๆที่ผมยังรออยู่ ป่านนี้คงนอนช้ำอยู่ที่ห้องอยู่แน่ๆเลยครับ