สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
ความทรงจำแรกของเรากับโรงหนังลิโด สกาล่า สยาม
คือ การได้ดู Twister รอบของสื่อนิตยสารเอนเตอร์เทน ที่ สกาล่า
(ขำตัวเองมีบันทึกการดูหนัง ดาราที่เล่นไว้ด้วยสมัยนั้น55
เีสียดายหางตั๋วช่วงก่อนปี 2541 หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แต่น่าจะได้เก็บไว้ ไม่งั้นคงไม่มีข้อมูลมาจดบันทึก 55)
ในสมัยที่ยังมีกิจกรรมมากมายให้คนรักหนัง
จำได้ว่า โรงมัลติเพล็กซ์ ยังมีนับโรงได้
และแน่นอนมาตรฐานความปลอดภัยยังไม่เข้มงวดมากนัก
จึงอนุญาตให้คนเข้าไปได้ ที่นั่งไม่พอก็นั่งกันตรงขั้นบันไดนั่นแหละ
บรรยากาศสนุกสนานแบบนั้น เลยฝังใจเรามาตลอด
(แรกๆ ของโรงหนังมัลติเพล็กซ์ ก็มีการอนุญาตแบบนี้นะคะ
ในรอบหนังฟรี จำได้ครั้งดู Armageddon โรงอีจีวี ลาดพร้าว ก็นั่งกันตรงขั้นบันได อิอิ)
ผ่านไปไม่กี่ปี โรงหนังมัลติเพล็กซ์เริ่มเข้ามามีบทบาทมาก
ทำให้เรายิ่งรักความมีเสน่ห์ของโรงหนังลิโด เข้าไปใหญ่
ที่ชอบมากที่สุด คือ ช่วงนึงมันกลายเป็นที่ให้เราได้ดูหนังนอกกระแส ดีดี
ที่อาจไม่มีโอกาสเข้าฉายในโรงมัลติเพล็กซ์ทั่วไป
ทำให้เรามีโอกาสได้ดูหนังอันดับ 1 ในดวงใจฝั่งเอเซียเรื่องนี้ "Love Letter"
ในโรงภาพยนตร์ (หวงหางตั๋วเรื่องนี้ยังกับอะไรดี 55)
ว้า ว่าแล้วก็คิดถึงวันคืนที่ หนังเอเซีย ตบเท้าเข้าฉายลิโดทุกอาทิตย์จริงๆ
ทุกวันนี้มีโอกาสกลับขึ้นไปกทม. ทีไร เรื่องที่ต้องพยายามทำให้ได้ คือ
ไปตีตั๋ว ดูหนังสักเรื่องที่ ลิโด 55 ก็ได้แต่ "จดจำในสิ่งที่จากพราก"
** ขอบคุณที่ตั้งกระทู้ให้ได้รำลึกความทรงจำกับที่ที่เราเรียกว่า บ้านหลังที่ 2 "โรงภาพยนตร์" **
คือ การได้ดู Twister รอบของสื่อนิตยสารเอนเตอร์เทน ที่ สกาล่า
(ขำตัวเองมีบันทึกการดูหนัง ดาราที่เล่นไว้ด้วยสมัยนั้น55
เีสียดายหางตั๋วช่วงก่อนปี 2541 หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แต่น่าจะได้เก็บไว้ ไม่งั้นคงไม่มีข้อมูลมาจดบันทึก 55)
ในสมัยที่ยังมีกิจกรรมมากมายให้คนรักหนัง
จำได้ว่า โรงมัลติเพล็กซ์ ยังมีนับโรงได้
และแน่นอนมาตรฐานความปลอดภัยยังไม่เข้มงวดมากนัก
จึงอนุญาตให้คนเข้าไปได้ ที่นั่งไม่พอก็นั่งกันตรงขั้นบันไดนั่นแหละ
บรรยากาศสนุกสนานแบบนั้น เลยฝังใจเรามาตลอด
(แรกๆ ของโรงหนังมัลติเพล็กซ์ ก็มีการอนุญาตแบบนี้นะคะ
ในรอบหนังฟรี จำได้ครั้งดู Armageddon โรงอีจีวี ลาดพร้าว ก็นั่งกันตรงขั้นบันได อิอิ)
ผ่านไปไม่กี่ปี โรงหนังมัลติเพล็กซ์เริ่มเข้ามามีบทบาทมาก
ทำให้เรายิ่งรักความมีเสน่ห์ของโรงหนังลิโด เข้าไปใหญ่
ที่ชอบมากที่สุด คือ ช่วงนึงมันกลายเป็นที่ให้เราได้ดูหนังนอกกระแส ดีดี
ที่อาจไม่มีโอกาสเข้าฉายในโรงมัลติเพล็กซ์ทั่วไป
ทำให้เรามีโอกาสได้ดูหนังอันดับ 1 ในดวงใจฝั่งเอเซียเรื่องนี้ "Love Letter"
ในโรงภาพยนตร์ (หวงหางตั๋วเรื่องนี้ยังกับอะไรดี 55)
ว้า ว่าแล้วก็คิดถึงวันคืนที่ หนังเอเซีย ตบเท้าเข้าฉายลิโดทุกอาทิตย์จริงๆ
ทุกวันนี้มีโอกาสกลับขึ้นไปกทม. ทีไร เรื่องที่ต้องพยายามทำให้ได้ คือ
ไปตีตั๋ว ดูหนังสักเรื่องที่ ลิโด 55 ก็ได้แต่ "จดจำในสิ่งที่จากพราก"
** ขอบคุณที่ตั้งกระทู้ให้ได้รำลึกความทรงจำกับที่ที่เราเรียกว่า บ้านหลังที่ 2 "โรงภาพยนตร์" **

แสดงความคิดเห็น
8 ข้อที่คุณจะหลงรัก โรงภาพยนตร์ลิโด้..
1. บริเวณ Box Office ถึงแม้จะไม่มีแอร์แต่เขาก็ทำให้สะอาดได้ ผิดกับโรงภาพยนตร์บางโรงที่มีแอร์มีอะไรทุกอย่างแต่พื้นไม่สะอาดนะ
2. รอบของวันเสาร์-อาทิตย์ ถ้าตื่นเช้าหน่อยก็จะได้ดูหนังรอบเช้าๆ เอาใจคนดูหนังรอบเช้าจริงๆ ^^
3.พนักงานที่นี่มารยาทดีมากครับ ผิดกับ หลายๆโรงที่พนักงานมารยาทแย่ ยืนต้อนรับน่าโรงสวมสูทสีเหลืองๆ ทุกคนดูมีมารยาทมากครับ
4.เป็นการย้อนยุคไปในความคลาสสิคเลย หลายคนอาจจะดูหนังสมัยนี้ที่โรงหรูๆๆๆมาก โอเคครับถ้ากรณีไปดูกับ คนสำคัญ คนรู้ใจ บลาๆๆ แต่ถ้าดูคนเดียว หรือดูกับเพื่อนแนะนำเลยครับ ไม่ต้องเอาอะไรมาก บรรยากาศนี้ใครไม่เคยมาคุณต้องชอบครับ
5. ราคาตั๋วถูกกว่าโรงอื่นๆครับ แน่นอนภายนอกอาจจะต่างกับโรงอื่นๆ แต่ภายใน เหมือนกันเลยครับ นั่งสบายเหมือนกัน Digital เหมือนกัน
6. ที่นี่เขาให้เอาอาหารจากข้างนอกไปทานได้ครับ ข้างๆโรงเนี้ยยยย มี 7-11 ด้วยยย สบายเลย ป๊อปคอร์นที่นี่ก็ไม่แพงด้วย
7. คนที่มาดูหนังที่นี่มีมารยาทครับ ไปดูมาหลายทีไม่เคยได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาขัดจังหวะเลย
8. เห็นอย่างนี้ ตอนบ่ายๆเนี่ย คนเพียบเลยน้าาา
ติดอย่างเดียวครับ ซับไทย ไม่ค่อยตรงกับเสียงครับ รอบที่นี่หนังฝรั่งเป็นซาวแทรกหมด แต่ผมไม่ค่อยมายตรงนี้เพราะว่าผมพอจะฟังออก แต่สงสารคนที่ฟังไม่ทันบางทีมันพูดรัวมาเลย ก็อยากให้แก้ๆตรงนี้นิดดดดนึง ^^