เอาหนังเรื่องเถียนมีมี่มาดูกี่รอบ ก็รู้สึกว่าเป็นหนังที่คลาสสิค ดีทุกฉาก เนื้อเรื่อง ประเด็น สัญญะ อะไรต่างๆสมบูรณ์มาก ถ้ามองในแง่ความบันเทิงทั้งที่ตัวละครหนังก็ไม่ได้สุขสมหวังไปเสียหมด แต่ดูแล้วกลับรู้สึกอิ่มเอมมากๆ บทดี กำกับดี นักแสดงเล่นดี ถ่ายภาพก็สวย ดีไปหมด
แต่พอหลังจากนั้นดูหนังของปีเตอร์ชาน ไม่มีเรื่องไหนจะดีเทียบเท่าเถียนมีมี่ได้เลย บางเรื่องดูแล้วก็เฉยๆ อย่าง wu xia มีหนังที่ดีหน่อยก็คือ Going home
เวลาดูหนังที่ดีมากๆ แล้วก็เกิดสงสัยว่า แล้วการทำหนังสักเรื่อง ที่ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีของคนทำหนัง คนนั้นคงเก่งและละเอียดอ่อนแค่ไหนถึงทำหนังออกมาได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ฝีมือการกำกับ การเล่าเรื่องจะต้องสุดยอดมากแน่ๆ
แต่พอได้ไปดูหนังเรื่องอื่น กลับกลายเป็นว่า ไม่สมราคาผู้กำกับเลย พอมองย้อนกลับไปก็มีหนังคลาสสิคเรื่องเดียวที่เคยทำ ทั้งที่เทคโนโลยี งานสร้าง กล้อง สิ่งต่างๆถูกพัฒนาขึ้นให้ทำหนังได้สะดวกกว่าสมัยก่อนเยอะมาก แต่ผลงานกลับสู้ไม่ได้กับสมัยที่ความก้าวหน้าความสะดวกยังมาไม่ถึง
สมมติคิดในหลักการที่ว่า คนๆหนึ่งโตขึ้น มีมุมมองที่เฉียบคม ลึกซึ้งขึ้น น่าจะทำหนังได้ดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ แต่ความจริงก็มีผู้กำกับหนังมากมายที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น หรือกับหนัง ธรรมชาติของมันเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้อยู่แล้ว
ผมเคยคุยกับอาจารย์สอนหนังท่านหนึ่ง เขาบอกว่า การที่คนๆหนึ่งจะสามารถทำหนังมาสเตอร์พีซออกมาสักเรื่องได้ ในชีวิตการทำหนังทั้งหมดเป็นเรื้องยากมาก บางคนอาจทำไม่ได้เลย บางคนอาจทำได้เรื่องเดียว หรืออย่างดีก็สองสามเรื่องก็สุดยอดมากๆแล้ว
แต่กับปีเตอร์ชาน อาจจะมีเหตุผลส่วนหนึ่งที่หนังฮ่องกงกำลังอยู่ในช่วงขาลง ไม่เหมือนสมัยก่อนที่มีหนังดีๆเยอะ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ไม่ค่อยมีหนังฮ่องกงดีๆออกมาซักเ่ท่าไหร่
การทำหนังซักเรื่องให้ดี และดีตลอดทุกเรื่องๆ มันเป็นไปไม่ได้ในโลกความจริงหรือเปล่า ยกตัวอย่างหนังเรื่องเถียนมีมี่
เอาหนังเรื่องเถียนมีมี่มาดูกี่รอบ ก็รู้สึกว่าเป็นหนังที่คลาสสิค ดีทุกฉาก เนื้อเรื่อง ประเด็น สัญญะ อะไรต่างๆสมบูรณ์มาก ถ้ามองในแง่ความบันเทิงทั้งที่ตัวละครหนังก็ไม่ได้สุขสมหวังไปเสียหมด แต่ดูแล้วกลับรู้สึกอิ่มเอมมากๆ บทดี กำกับดี นักแสดงเล่นดี ถ่ายภาพก็สวย ดีไปหมด
แต่พอหลังจากนั้นดูหนังของปีเตอร์ชาน ไม่มีเรื่องไหนจะดีเทียบเท่าเถียนมีมี่ได้เลย บางเรื่องดูแล้วก็เฉยๆ อย่าง wu xia มีหนังที่ดีหน่อยก็คือ Going home
เวลาดูหนังที่ดีมากๆ แล้วก็เกิดสงสัยว่า แล้วการทำหนังสักเรื่อง ที่ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีของคนทำหนัง คนนั้นคงเก่งและละเอียดอ่อนแค่ไหนถึงทำหนังออกมาได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ฝีมือการกำกับ การเล่าเรื่องจะต้องสุดยอดมากแน่ๆ
แต่พอได้ไปดูหนังเรื่องอื่น กลับกลายเป็นว่า ไม่สมราคาผู้กำกับเลย พอมองย้อนกลับไปก็มีหนังคลาสสิคเรื่องเดียวที่เคยทำ ทั้งที่เทคโนโลยี งานสร้าง กล้อง สิ่งต่างๆถูกพัฒนาขึ้นให้ทำหนังได้สะดวกกว่าสมัยก่อนเยอะมาก แต่ผลงานกลับสู้ไม่ได้กับสมัยที่ความก้าวหน้าความสะดวกยังมาไม่ถึง
สมมติคิดในหลักการที่ว่า คนๆหนึ่งโตขึ้น มีมุมมองที่เฉียบคม ลึกซึ้งขึ้น น่าจะทำหนังได้ดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ แต่ความจริงก็มีผู้กำกับหนังมากมายที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น หรือกับหนัง ธรรมชาติของมันเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้อยู่แล้ว
ผมเคยคุยกับอาจารย์สอนหนังท่านหนึ่ง เขาบอกว่า การที่คนๆหนึ่งจะสามารถทำหนังมาสเตอร์พีซออกมาสักเรื่องได้ ในชีวิตการทำหนังทั้งหมดเป็นเรื้องยากมาก บางคนอาจทำไม่ได้เลย บางคนอาจทำได้เรื่องเดียว หรืออย่างดีก็สองสามเรื่องก็สุดยอดมากๆแล้ว
แต่กับปีเตอร์ชาน อาจจะมีเหตุผลส่วนหนึ่งที่หนังฮ่องกงกำลังอยู่ในช่วงขาลง ไม่เหมือนสมัยก่อนที่มีหนังดีๆเยอะ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ไม่ค่อยมีหนังฮ่องกงดีๆออกมาซักเ่ท่าไหร่