“ย้ง ทรงยศ” ยืนยันวางมือจะไม่กำกับ “ฮอร์โมนฯ 2” แล้ว ยกให้ “ปิง เกรียงไกร” กำกับต่อ บอกอยากได้มุมมองใหม่ๆ แจงที่ไว้ใจเพราะทำซีซั่น 1 มาด้วยกัน ส่วนตนผันตัวเองมาเป็นโปรดิวเซอร์แทน เผยเตรียมคุยกับพ่อของ “ปันปัน” ดึงให้กลับมาร่วมงานต่อ คาดได้ดู เดือน ส.ค. ปีหน้า เจ้าตัวบอกสุดเซอร์ไพรส์ที่ประเทศจีนซื้อซีรี่ส์ซีซั่น 1 ไปฉายแล้ว
เรียกได้ว่าซีรี่ส์เรื่อง “ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น ซีซั่น 1” ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจนจะมีซีซั่น2 ต่อ สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังผู้กำกับ “ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์” เจ้าตัวก็เผยว่าจะวางมือแล้วยกหน้าที่กำกับให้ “ปิง เกรียงไกร วชิรธรรมพร” มาทำหน้าที่แทน ส่วนตนเองจะไปเป็นโปรดิวเซอร์ให้
“คือมันอย่างนี้ครับ ด้วยความที่ตอนที่ผมทำฮอร์โมน ซีซั่น1 ผมเป็นทั้งผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ และนั่นคืองานแรกที่เราทำ และมีความรู้สึกว่าเราลงไปทำซีรี่ส์โทรทัศน์มันน่าจะเป็นโปรเจกต์เล็กๆ หมายถึงว่าไม่น่าจะมีทีมที่ใหญ่โต เราน่าจะมีทีมที่กำกับตัวเองได้ ในวันที่เราลงมาทำโทรทัศน์ปรากฏว่าผมค้นพบว่ามันยากกว่าหนัง พอเราเหนื่อยมากกับการทำซีซั่น1 มันประสบความสำเร็จสำหรับตรงนี้แล้ว พอเรามีโอกาสได้ทำซีซั่น2 เราอยากทำให้มันดีขึ้นกว่านี้”
“และการที่ผมถอยตัวเองไปเป็นโปรดิวเซอร์ ไม่ได้แปลว่าผมจะทิ้งฮอร์โมน ซีซั่น2 แต่ผมอยากควบคุมให้มันอยู่มือขึ้น แล้วผมเชื่อว่าปิงที่เขียนบทกับผมในซีซั่น1 เป็นคนที่ผมไว้ใจที่สุดแล้ว ในการที่จะให้เขามาคอนโทรลหรือกำกับ และผมเชื่อว่าถ้ามันจะมีซีซั่น2 มันควรจะมีรสชาติอะไรใหม่ๆ จากมุมมองผู้กำกับใหม่ๆ ในตัวเดิมๆ อยู่ ในขณะเดียวกันผมควรจะถอยตัวเองไปเป็นโปรดิวเซอร์ที่ดูภาพรวม ยังทำให้ฮอร์โมนมันมีคุณภาพแบบเดิมอยู่ คือคนไทยอาจจะยังไม่คุ้นเคยว่าโปรดิวเซอร์ทำอะไร ระบบโปรดิวเซอร์ในเมืองนอกไม่ว่าจะเป็นสตูดิโอหรือข้างนอก โปรดิวเซอร์คือพาร์ทที่สำคัญที่สุด สำหรับผมอยากลงไปดูแลพาร์ทนั้นให้แข็งแรง”
เผยการันตีฝีมือเพราะ “ปิง” เคยกำกับหนังมาก่อน
“เขาเคยทำหนังเรื่อง เพื่อนไม่เก่า หนังของสหมงคลฟิล์ม ซึ่งตอนนั้นก็ยังเป็นช่วงในการทำหนังช่วงแรกๆ อยู่ครับ แต่ถ้าถามว่าซีซั่น 2 จะเน้นหนักในเรื่องปัญหาอะไรยัง ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงพัฒนาบทอยู่ก็ยังไม่แน่ใจว่า ทิศทางจะไปในทางไหน แต่ว่าเรื่องราวหลักๆ ยังอยู่บนตัวละครตัวหลักกลุ่มนี้ครับ อาจจะมีตัวละครใหม่ๆ มาเสริม”
ต่อคำถามที่ว่าจะเป็นไปได้ไหมว่าในซีซั่น2 เป็นเรื่องของยาเสพติดนั้น? เจ้าตัวก็ขอชี้แจงว่า ….
“จริงๆ ประเด็นเรื่องยาเสพติดกับวัยรุ่น มันน่าสนใจตั้งแต่เราทำซีซั่น1 แต่เรารู้สึกว่าพอเราเริ่มหยิบประเด็น มันเริ่มเยอะไป เราเลยดึงออกไปก่อนคือยาเสพติด เรารู้สึกว่าเรื่องเพศมันใกล้ตัวมากกว่าในซีซั่น1 พอมันมาซีซั่น2 เรารู้สึกว่าเรายังสนใจอย่างอื่นด้วย ผมว่าในวัยรุ่นนอกจากเรื่องเพศแล้ว เรื่องยาเสพติดก็น่าสนใจสูสีกัน แต่เราจะไม่ฝืนคาแรกเตอร์ เพราะมันเติบโตมาในซีซั่น1 แล้ว เราจะไม่ฝืนยัดอะไรเข้าไป แต่ผมบอกได้แค่ว่ายาเสพติดเป็นประเด็นที่เราพูดอยู่ในซีซั่น2 ว่าคงจะมีโอกาสได้เห็นในซีซั่นนี้”
ส่วนในบทของ “เต้ย” ที่ “ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์” แสดงไว้นั้น บอกคงต้องไปคุยกับคุณพ่อของปันปันก่อนว่า พร้อมจะกลับมารับบทนี้ไหม
“ผมเองอยากทำงานกับ น้องปันปัน ในแง่ของการทำงาน ก็ยังเป็นคาแรกเตอร์ที่สำคัญมากในฮอร์โมน ซีซั่น2 ผมคิดว่าคงอีกไม่นานแล้วที่ผมจะต้องกลับไปถามคุณพ่อน้องถึงตัวน้องว่า เขาพร้อมหรือยังที่จะกลับเข้ามา คือจริงๆ ปันปันเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์มาก อย่างตอนที่ไปเอาท์ติ้งกันที่ภูเก็ตของจีทีเอช ปันปันก็ยังสดใสร่าเริงเหมือนเดิม จริงๆ มันมีช่วงหนึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น ปันปันเขาก็เบรกตัวเองไปพัก ไปอยู่ทำสมาธิที่วัดที่เชียงใหม่ และก็ไปญี่ปุ่น พอกลับมาก็ได้เจอกันบ่อยขึ้น แต่ว่าไม่ได้คุยกันเรื่องงาน แล้วก็เจอกันอีกทีตอนเอาท์ติ้ง เขาก็ดูสดใสสดชื่นขึ้น ผมพยายามจะไม่คุยเรื่องงานหรือเรื่องอะไรกับน้องในเวลานี้ครับ”
ซีรี่ส์ประสบความสำเร็จจนกระทั่งทางประเทศจีนติดต่อมาซื้อไปฉายแล้ว
“จริงๆ ผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์มาก ไม่ใช่แค่ประเทศจีนนะครับ แฟนคลับที่ใหญ่ที่สุดของเราตอนนี้คือ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ แล้วก็ จีน 4 ประเทศนี้คือกลุ่มที่มีแฟนคลับซีรี่ส์ฮอร์โมนกลุ่มใหญ่ แล้วก็มีเฟซบุ๊กแฟนเพจเยอะครับ ผมคิดว่ามันคงเป็นเรื่องที่เชื่อมกันได้ง่าย วัยรุ่นเอเชียก็มีวัฒนธรรมอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก เรื่องการเรียนที่คล้ายกัน แล้วก็ยังเป็นสังคมในครอบครัวที่คล้ายกัน มันไม่เหมือนของฝรั่งที่โตไปแล้วก็เริ่มไม่ผูกพันกับพ่อแม่แล้ว”
“แต่ถ้าถามว่าซีซั่น 1 ประสบความสำเร็จขายต่างประเทศได้ ซีซั่น 2 เราจะคำนึงถึงตลาดต่างประเทศหรือเปล่า อันนี้ไม่เคยเลย เพราะว่าเราควรทำงานจากตัวเราออกไป เรารู้สึกว่าตอนนี้เรากำลังสนุกกับการเล่าเรื่องอะไร และอินกับเรื่องอะไรอยู่ เพราะว่าถ้าเราเล่าเรื่องจากพาร์ทที่เราเข้าใจและอินกับมันในส่วนนี้ คนดู ดูแล้วน่าจะอินตาม ในฐานะคนทำงานเราไม่สามารถไปนั่งวิเคราะห์ได้ว่า ตอนนี้คนดูทำอะไรและเขาชอบ ทำอะไรและคนดูจะอยากดู มันง่ายที่สุดคือทำงานจากตัวเราเอง”
“ซึ่งในแง่ของเวลาที่จะได้ดูกันในซีซั่น2 ผมคิดว่าน่าจะประมาณเดือนสิงหาคมปีหน้าครับ คืออย่างนี้ ตอนแรกก็กะว่าจะมีในช่วงเวลาเดิมคือเดือนพฤษภาคม แต่ว่าผมค้นพบแล้วว่าฮอร์โมนมันเหมาะกับการที่ฉายในช่วงโรงเรียนเปิดเทอมแล้ว คือเด็กจะเอาไปพูดกันระหว่างโรงเรียนและเป็นประเด็นกัน และในปีหน้ามันเป็นปีของการเปิดการศึกษาของอาเซียน ส่วนความคาดหวังผมว่า ยิ่งเจอความคาดหวังที่สูง หรือว่าเราทำงานและประสบความสำเร็จ ผมรู้สึกว่ามันเป็นความท้าทาย เมื่อไหร่ที่มันมีความท้าทายเยอะ มันยิ่งสนุก ความกดดันทำให้เราสนุกที่จะทำงาน”
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000111053
ผู้กำกับ “ย้ง ทรงยศ” ยันวางมือไม่กำกับ “ฮอร์โมนฯ 2” แล้ว เผยเตรียมคุยกับพ่อ “ปันปัน” ขอดึงกลับตัวมาร่วมงานอีก
เรียกได้ว่าซีรี่ส์เรื่อง “ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น ซีซั่น 1” ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจนจะมีซีซั่น2 ต่อ สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังผู้กำกับ “ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์” เจ้าตัวก็เผยว่าจะวางมือแล้วยกหน้าที่กำกับให้ “ปิง เกรียงไกร วชิรธรรมพร” มาทำหน้าที่แทน ส่วนตนเองจะไปเป็นโปรดิวเซอร์ให้
“คือมันอย่างนี้ครับ ด้วยความที่ตอนที่ผมทำฮอร์โมน ซีซั่น1 ผมเป็นทั้งผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ และนั่นคืองานแรกที่เราทำ และมีความรู้สึกว่าเราลงไปทำซีรี่ส์โทรทัศน์มันน่าจะเป็นโปรเจกต์เล็กๆ หมายถึงว่าไม่น่าจะมีทีมที่ใหญ่โต เราน่าจะมีทีมที่กำกับตัวเองได้ ในวันที่เราลงมาทำโทรทัศน์ปรากฏว่าผมค้นพบว่ามันยากกว่าหนัง พอเราเหนื่อยมากกับการทำซีซั่น1 มันประสบความสำเร็จสำหรับตรงนี้แล้ว พอเรามีโอกาสได้ทำซีซั่น2 เราอยากทำให้มันดีขึ้นกว่านี้”
“และการที่ผมถอยตัวเองไปเป็นโปรดิวเซอร์ ไม่ได้แปลว่าผมจะทิ้งฮอร์โมน ซีซั่น2 แต่ผมอยากควบคุมให้มันอยู่มือขึ้น แล้วผมเชื่อว่าปิงที่เขียนบทกับผมในซีซั่น1 เป็นคนที่ผมไว้ใจที่สุดแล้ว ในการที่จะให้เขามาคอนโทรลหรือกำกับ และผมเชื่อว่าถ้ามันจะมีซีซั่น2 มันควรจะมีรสชาติอะไรใหม่ๆ จากมุมมองผู้กำกับใหม่ๆ ในตัวเดิมๆ อยู่ ในขณะเดียวกันผมควรจะถอยตัวเองไปเป็นโปรดิวเซอร์ที่ดูภาพรวม ยังทำให้ฮอร์โมนมันมีคุณภาพแบบเดิมอยู่ คือคนไทยอาจจะยังไม่คุ้นเคยว่าโปรดิวเซอร์ทำอะไร ระบบโปรดิวเซอร์ในเมืองนอกไม่ว่าจะเป็นสตูดิโอหรือข้างนอก โปรดิวเซอร์คือพาร์ทที่สำคัญที่สุด สำหรับผมอยากลงไปดูแลพาร์ทนั้นให้แข็งแรง”
เผยการันตีฝีมือเพราะ “ปิง” เคยกำกับหนังมาก่อน
“เขาเคยทำหนังเรื่อง เพื่อนไม่เก่า หนังของสหมงคลฟิล์ม ซึ่งตอนนั้นก็ยังเป็นช่วงในการทำหนังช่วงแรกๆ อยู่ครับ แต่ถ้าถามว่าซีซั่น 2 จะเน้นหนักในเรื่องปัญหาอะไรยัง ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงพัฒนาบทอยู่ก็ยังไม่แน่ใจว่า ทิศทางจะไปในทางไหน แต่ว่าเรื่องราวหลักๆ ยังอยู่บนตัวละครตัวหลักกลุ่มนี้ครับ อาจจะมีตัวละครใหม่ๆ มาเสริม”
ต่อคำถามที่ว่าจะเป็นไปได้ไหมว่าในซีซั่น2 เป็นเรื่องของยาเสพติดนั้น? เจ้าตัวก็ขอชี้แจงว่า ….
“จริงๆ ประเด็นเรื่องยาเสพติดกับวัยรุ่น มันน่าสนใจตั้งแต่เราทำซีซั่น1 แต่เรารู้สึกว่าพอเราเริ่มหยิบประเด็น มันเริ่มเยอะไป เราเลยดึงออกไปก่อนคือยาเสพติด เรารู้สึกว่าเรื่องเพศมันใกล้ตัวมากกว่าในซีซั่น1 พอมันมาซีซั่น2 เรารู้สึกว่าเรายังสนใจอย่างอื่นด้วย ผมว่าในวัยรุ่นนอกจากเรื่องเพศแล้ว เรื่องยาเสพติดก็น่าสนใจสูสีกัน แต่เราจะไม่ฝืนคาแรกเตอร์ เพราะมันเติบโตมาในซีซั่น1 แล้ว เราจะไม่ฝืนยัดอะไรเข้าไป แต่ผมบอกได้แค่ว่ายาเสพติดเป็นประเด็นที่เราพูดอยู่ในซีซั่น2 ว่าคงจะมีโอกาสได้เห็นในซีซั่นนี้”
ส่วนในบทของ “เต้ย” ที่ “ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์” แสดงไว้นั้น บอกคงต้องไปคุยกับคุณพ่อของปันปันก่อนว่า พร้อมจะกลับมารับบทนี้ไหม
“ผมเองอยากทำงานกับ น้องปันปัน ในแง่ของการทำงาน ก็ยังเป็นคาแรกเตอร์ที่สำคัญมากในฮอร์โมน ซีซั่น2 ผมคิดว่าคงอีกไม่นานแล้วที่ผมจะต้องกลับไปถามคุณพ่อน้องถึงตัวน้องว่า เขาพร้อมหรือยังที่จะกลับเข้ามา คือจริงๆ ปันปันเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์มาก อย่างตอนที่ไปเอาท์ติ้งกันที่ภูเก็ตของจีทีเอช ปันปันก็ยังสดใสร่าเริงเหมือนเดิม จริงๆ มันมีช่วงหนึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น ปันปันเขาก็เบรกตัวเองไปพัก ไปอยู่ทำสมาธิที่วัดที่เชียงใหม่ และก็ไปญี่ปุ่น พอกลับมาก็ได้เจอกันบ่อยขึ้น แต่ว่าไม่ได้คุยกันเรื่องงาน แล้วก็เจอกันอีกทีตอนเอาท์ติ้ง เขาก็ดูสดใสสดชื่นขึ้น ผมพยายามจะไม่คุยเรื่องงานหรือเรื่องอะไรกับน้องในเวลานี้ครับ”
ซีรี่ส์ประสบความสำเร็จจนกระทั่งทางประเทศจีนติดต่อมาซื้อไปฉายแล้ว
“จริงๆ ผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์มาก ไม่ใช่แค่ประเทศจีนนะครับ แฟนคลับที่ใหญ่ที่สุดของเราตอนนี้คือ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ แล้วก็ จีน 4 ประเทศนี้คือกลุ่มที่มีแฟนคลับซีรี่ส์ฮอร์โมนกลุ่มใหญ่ แล้วก็มีเฟซบุ๊กแฟนเพจเยอะครับ ผมคิดว่ามันคงเป็นเรื่องที่เชื่อมกันได้ง่าย วัยรุ่นเอเชียก็มีวัฒนธรรมอะไรหลายๆ อย่างคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก เรื่องการเรียนที่คล้ายกัน แล้วก็ยังเป็นสังคมในครอบครัวที่คล้ายกัน มันไม่เหมือนของฝรั่งที่โตไปแล้วก็เริ่มไม่ผูกพันกับพ่อแม่แล้ว”
“แต่ถ้าถามว่าซีซั่น 1 ประสบความสำเร็จขายต่างประเทศได้ ซีซั่น 2 เราจะคำนึงถึงตลาดต่างประเทศหรือเปล่า อันนี้ไม่เคยเลย เพราะว่าเราควรทำงานจากตัวเราออกไป เรารู้สึกว่าตอนนี้เรากำลังสนุกกับการเล่าเรื่องอะไร และอินกับเรื่องอะไรอยู่ เพราะว่าถ้าเราเล่าเรื่องจากพาร์ทที่เราเข้าใจและอินกับมันในส่วนนี้ คนดู ดูแล้วน่าจะอินตาม ในฐานะคนทำงานเราไม่สามารถไปนั่งวิเคราะห์ได้ว่า ตอนนี้คนดูทำอะไรและเขาชอบ ทำอะไรและคนดูจะอยากดู มันง่ายที่สุดคือทำงานจากตัวเราเอง”
“ซึ่งในแง่ของเวลาที่จะได้ดูกันในซีซั่น2 ผมคิดว่าน่าจะประมาณเดือนสิงหาคมปีหน้าครับ คืออย่างนี้ ตอนแรกก็กะว่าจะมีในช่วงเวลาเดิมคือเดือนพฤษภาคม แต่ว่าผมค้นพบแล้วว่าฮอร์โมนมันเหมาะกับการที่ฉายในช่วงโรงเรียนเปิดเทอมแล้ว คือเด็กจะเอาไปพูดกันระหว่างโรงเรียนและเป็นประเด็นกัน และในปีหน้ามันเป็นปีของการเปิดการศึกษาของอาเซียน ส่วนความคาดหวังผมว่า ยิ่งเจอความคาดหวังที่สูง หรือว่าเราทำงานและประสบความสำเร็จ ผมรู้สึกว่ามันเป็นความท้าทาย เมื่อไหร่ที่มันมีความท้าทายเยอะ มันยิ่งสนุก ความกดดันทำให้เราสนุกที่จะทำงาน”
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000111053