รู้สึกเวทนาคนในประเทศเราจริงๆ คือวันก่อน-เมื่อวานก็เห็นข่าวนี้อยู่หรอกนะ แต่ไม่ได้กดเข้าไปอ่าน เพราะยังคิดเลยว่ามันปัญญาอ่อน แล้วพอหลายชั่วโมงต่อมาก็ยังเห็นว่ามีคนแชร์กันว่า"รัฐบาล"กำลังจะให้เก็บภาษีคนโสด ก็ยังแอบด่าในใจเหมือนกัน บ้าไปแล้ว..
วันนี้ลองกดเข้าไปอ่านข่าวดู เพราะเห็นมีกระแสบอกว่าเรื่องที่ว่ามันเป็นแนวคิดของนักวิชาการ.. ก็จังงังทันที เพราะพาดหัวข่าวมันอยู่บรรทัดที่ 1 ส่วนชื่อคนคิดนโยบายอยู่บรรทัดที่ 2 ... คือแบบว่า อ่านหนังสือกันไม่ใช่ไม่ถึง 7 บรรทัด 8 บรรทัดกันแล้ว ตอนนี้ 2 บรรทัดก็อ่านไม่ถึง มึนมาก อะไรกันวะ คนในประเทศเราเดี๋ยวนี้
เรื่องนี้ตกใจจริงๆนะ ตกใจที่ทำไมถึงรับสารกันฉาบฉวยแบบนี้ เรื่องอะไรก็ตามเอามาแบบไม่อ่านให้ดี แล้วทำรูป ทำข้อความล้อเลียนแล้วกดแชร์โดยไม่คิดกันตลอดเลย คือ ถ้าไม่กดเข้าไปอ่านข่าวด้วยตัวเอง ก็ยังคิดว่ารัฐบาลเป็นคนจะเริ่มนโยบายนี้เหมือนกันนะ ผลของการแชร์โดยไม่คิดเนี่ยหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากแนวคิดการเสวนาในหัวข้อเรื่อง "การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจและนโยบายการรองรับในสองทศวรรษหน้า" ของ นายเทอดศักดิ์ ชมโต๊ะสุวรรณ เลขานุการคณะเศรษฐศาสตร์ และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า แนวทางแก้ไขภาครัฐควรออกนโยบายสนับสนุนให้คนไทยมีลูกเพิ่มขึ้น เช่น โครงการลูกคนแรก โดยรัฐช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่าย การเลี้ยงดูให้กับครอบครัวที่มีลูกคนแรก รวมถึงให้เงินอุดหนุน หรือลดภาษีสำหรับครอบครัวที่มีลูกคน 2 และ 3 นอกจากนี้ควรเรียกเก็บภาษีคนโสด ภาษีคนไม่มีลูก กระตุ้นให้มีครอบครัวเพื่อลดภาระงบประมาณ การใช้สวัสดิการดูแลของภาครัฐในอนาคต
กลายเป็นประเด็นฮอตในสังคมออนไลน์กันเลยทีเดียว กับ "คำถามกลับของคนโสดกับแนวคิดนี้ ซ้ำเติมกันใช่มั้ย?" ชาวเน็ตได้ออกมาแสดงทัศนะไปต่าง ๆ นานา อาทิในแฟนเพจของ Sanook News มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น เป็นต้นว่า "บางครั้งคนโสดภาระเยอะกว่าคนมีครอบครัว" หรือจะเป็นทัศนะที่ว่า "คนมีครอบครัวแต่ไม่สมัครใจมีบุตรเนื่องจากปัจจัยภายนอกหลายอย่างรวมถึงค่าครองชีพที่แพงขึ้น ฯลฯ
สอดคล้องกับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่บอกว่าสาเหตุหลักของประชากรวัยทำงานมีครอบครัวและมีลูกน้อยลง เกิดจากความเครียดจากปัญหาต่าง ๆ ทั้งด้านค่าครองชีพที่สูง รายได้ไม่พอรายจ่าย การอาศัยอยู่ในเมืองที่มีพื้นที่จำกัดไม่เอื้ออำนวยต่อการสร้างครอบครัว ปัญหาเหล่านี้เองถ้าเศรษฐกิจดี ผู้คนกินอยู่สบาย รายจ่ายน้อยใคร แน่นอนว่าใครก็อยากมีครอบครัว อยากมีลูกไว้สืบตระกูล เพราะทุกวันนี้คนทำงานก็เพื่อสร้างครอบครัวจริงมั้ย...?
แม้จะเป็นเพียงแค่แนวคิดของนักวิชาการแต่ก็สร้างความกระแสให้กับคนในสังคมไม่น้อยเลยทีเดียว เลยไม่อยากจะคิดว่าหากรัฐบาลเห็นด้วยจะเป็นอย่างไรหนอ???
http://news.sanook.com/1207270/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%AA%E0%B8%94-%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95/
เดี๋ยวนี้ผลสำรวจใหม่ บอกว่าคนไทย อ่านหนังสือกันไม่ถึง 2 บรรทัดกันแล้วหรือเปล่าครับ
วันนี้ลองกดเข้าไปอ่านข่าวดู เพราะเห็นมีกระแสบอกว่าเรื่องที่ว่ามันเป็นแนวคิดของนักวิชาการ.. ก็จังงังทันที เพราะพาดหัวข่าวมันอยู่บรรทัดที่ 1 ส่วนชื่อคนคิดนโยบายอยู่บรรทัดที่ 2 ... คือแบบว่า อ่านหนังสือกันไม่ใช่ไม่ถึง 7 บรรทัด 8 บรรทัดกันแล้ว ตอนนี้ 2 บรรทัดก็อ่านไม่ถึง มึนมาก อะไรกันวะ คนในประเทศเราเดี๋ยวนี้
เรื่องนี้ตกใจจริงๆนะ ตกใจที่ทำไมถึงรับสารกันฉาบฉวยแบบนี้ เรื่องอะไรก็ตามเอามาแบบไม่อ่านให้ดี แล้วทำรูป ทำข้อความล้อเลียนแล้วกดแชร์โดยไม่คิดกันตลอดเลย คือ ถ้าไม่กดเข้าไปอ่านข่าวด้วยตัวเอง ก็ยังคิดว่ารัฐบาลเป็นคนจะเริ่มนโยบายนี้เหมือนกันนะ ผลของการแชร์โดยไม่คิดเนี่ยหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้