[Spoil] ช้อนเงินคนแปรธาตุ (Silver Spoon) ภาคอนิเม #9 - บุตะด้งกลายเป็นหมูไปแล้วอ้ะ!!!!

หลังทำงานพิเศษที่บ้านอากิอยู่ถึงเดือนเต็มๆ บักแว่นก็กลับมาบ้านพร้อมอากิโดยมีแม่อากิขับรถมาส่ง

พอมาถึงโรงเรียนปุ๊บ ทั้งบักแว่นทั้งอากิก็บอกแม่อากิว่าไม่ต้องไปส่งถึงหอหรอก ขอลงตรงระหว่างทางนี่แหละ เพราะบักแว่นอยากแวะไปดูบุตะด้งที่เล้าหมูก่อน (ตรงนี้เปลี่ยนไปจากภาคมังงะนิดหน่อย ในภาคมังงะแม่อากิจะไปส่งอากิกับบักแว่นจนถึงหน้าหอพักนักเรียนเลย)

ทว่า สิ่งที่บักแว่นได้พบ ณ เล้าหมูแห่งนั้นก็คือ...





บักแว่น "บุตะด้งกลายเป็นหมูไปแล้วอ้ะ!!!!"
อากิ "บุตะด้งเป็นหมูอยู่แล้วนะ ฮะจิเค็นคุง!!!"



คำสอนประจำตอนของอ.โจลี่

"อัตราส่วนไขมันในร่างกายหมูอยู่ที่ 15% รู้ไว้ซะ!!!"

ทำเอาบักแว่นกับอากิจังถึงกับเฟลแตก (แหงละ ก็อัตราส่วนไขมันของมนุษย์เพศชายอยู่ที่ 10 - 20% ส่วนผู้หญิงอยู่ที่ 20 - 30% นี่ฝ่า)



ตรงนี้เป็นฉากเพิ่มเติมจากภาคมังงะ ในภาคมังงะเหมือนบักแว่นกับอากิจังเหมือนจะมองออกทันทีว่าหมูตัวไหนคือบุตะด้ง (ดูออกได้ยังไงคนอ่านก็ยังงงๆ อยู่ หมูแต่ละตัวหน้าตาเหมือนกันยังกับพิมพ์เดียวกันออกแบบนี้) ในขณะที่คนอ่านจะดูก็ยังดูไม่ออกเลย เพราะงั้นในภาคอนิเมเลยใส่ฉากนี้มาเพิ่มให้แยกแยะออกได้

เป็นฉากที่มีหมูตัวหนึ่งยืนกินอยู่ริมสุดของราง แล้วโดนหมูอีกตัวเข้ามาแทรกเบียดออกไป (คล้ายๆ ตอนยังเป็นลูกหมูที่โดนพี่น้องตัวอื่นเบียดจนไปอยู่ตรงเต้าที่มีน้ำนมน้อยๆ) ทำให้บักแว่นกับอากิจังดูออกว่าเจ้านี่แหละคือบุตะด้ง



เทียบให้เห็นชัดๆ จะเห็นว่ารูปร่างบุตะด้ง (ตัวขวา) จะดูผอมซูบกว่าตัวอื่นแบบเห็นได้ชัดเลย ซึ่งตรงนี้อ.โจลี่จะอธิบายให้ฟังว่า การแบ่งคุณภาพของเนื้อหมูนั้นจะแบ่งออกเป็น 5 เกรด คือ ชั้นเยี่ยม, ชั้นดี, ชั้นปานกลาง, ชั้นปกติ และชั้นเลว ซึ่งจากลักษณะของบุตะด้งที่ตัวเล็กและผอมกว่าหมูตัวอื่นกว่าครึ่งค่อน ซ้ำยังไม่ค่อยกินอาหารอีก (ก็มัวแต่โดนพี่น้องเบียดตกรางประจำนี่นะ) คงไม่แปลกเท่าไหร่ที่เนื้อจะถูกจัดอยู่ในประเภท "ชั้นเลว"



บักแว่นได้ยินดังนั้นก็เอาอาหารหมูใส่ถังแล้วเอาเข้าไปให้บุตะด้งกินตรงๆ เลย

แต่แทนที่จะตรงเข้าไปกินอาหารที่บักแว่นใส่ถังมาให้ บุตะด้งกลับเดินเข้ามาเอาหน้าซุกๆ กับเสื้อของบักแว่นอย่างคุ้นเคย



เจอแบบนี้ไม่คิดหนักก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วเฟ้ย บักแว่น



ฉาก "ทามาโกะกลายเป็นสาวสวยไปแล้วอ้ะ!!!!" ที่รอคอยมานาน (ไม่ใช่แค่รูปร่างเท่านั้น แม้แต่เสียงก็ยังฟังดูหวานสมเป็นเด็กสาวขึ้นกว่าร่างอ้วนด้วย)




...แต่ยังไงในภาคมังงะก็สวยกว่าอยู่ดีแฮะ -3-



ถึงจะไม่สวยเท่าภาคมังงะ แต่ก็ทำเอาบักโทคิวะสมองไก่ถึงกับเกิดอาการรักแรกพบเข้าจนได้ละน่า



บักโทคิวะผู้เลี้ยงไก่อยู่บ้านดีๆ ไม่ชอบ ดันซ่าผันตัวเองเป็นแร็พเปอร์ระหว่างปิดภาคเรียน



เปรี้ยวเกินขีดมากไปหน่อย เลยเจออาจารย์สั่งลงโทษให้ไปใช้แรงงานหนึ่งอาทิตย์ซะ




อีกฉากที่ไม่มีในหนัง ฉากบักแว่นนั่งหาข้อมูลว่าต้องทำยังไงถึงจะขุนบุตะด้งที่น้ำหนักน้อยกว่าปกติให้อ้วนได้

เลยได้เพื่อนที่เชี่ยวเรื่องหมูมาช่วยแนะนำว่าลองผสมอาหารหมูกับน้ำดูสิ



ส่วนอันนี้เป็นฉากโดนย้ายมาแฮะ ฉากบักแว่นขออาจารย์ทำเวรดูแลเล้าหมูเพิ่มเติมนั้นเดิมทีจะอยู่หลังเนื้อเรื่องช่วงงานเทศกาลหน้าร้อน แต่นี่เอามาไว้ก่อนช่วงเทศกาลเฉยเลย




บักแว่นทดลองเคล็ดสำหรับขุนบุตะด้งที่เพื่อนแนะนำมา โดยมีสายตาลุ้นระทึกของเพื่อนๆ จับตาอยู่รอบๆ




วิธีคิดและการกระทำของบักแว่นที่เลือกเส้นทางยากลำบากแทนที่จะเลือกทางที่สบายกับสมองตัวเองมากกว่า ทำให้โยชิโนะรู้สึกสะกิดใจขึ้นมา



ส่วนบักแว่นเองเมื่อรับเวรเพิ่มขึ้น ชีวิตก็ยิ่งยุ่งยากขึ้นเป็นลำดับ (ตื่นตี 3 มาดูแลหมู ตี 4 ไปดูแลม้า แล้วยังมีเวรทำความสะอาดประจำอีก...เริ่มจะถึกเกินคนแล้วสินะบักแว่นเอ๊ย)





รับงานเยอะไปจนลืมเวรทำความสะอาดประจำสัปดาห์จนหวิดโดนลงโทษ


เดชะบุญมีเพื่อนมาช่วยแลกเวรให้เลยรอดหวุดหวิด



โหมงานหนักจนเพื่อนๆ รวมทั้งอากิจังเริ่มเป็นห่วงกัน เพราะขนาดเด็กเกษตรสายถึกแท้ๆ ยังไม่รับงานบ้าเลือดอย่างที่บักแว่นทำในตอนนี้เลย




แต่ความพยายามชนิดบ้าพลังของบักแว่นก็ไม่เสียเปล่า เมื่อบุตะด้งกลับมาอ้วนท้วนสมบูรณ์เท่าๆ กับเพื่อนหมูตัวอื่นในเวลาหนึ่งอาทิตย์จนได้

*หมายเหตุ - อัตราการเติบโตของหมูนั้นคือ 1 กิโลฯ ต่ออาหาร 3 กิโลฯ เพราะงั้นเลยใช้วิธีเอาอาหารผสมน้ำเพิ่มน้ำหนักเยอะๆ จะได้ขุนได้ไวๆ สินะ





แต่แล้วก็จิตตกอีกรอบกับคำพูดของอ.โจลี่

"เท่านี้ก็ส่งขายได้ตามกำหนดแล้วละนะ"




...ยังมีต่อนะครับ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่