สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้าๆ ที่รักการปั่นทุกท่านครับ
ก่อนที่จะแชร์ประสบการณ์การปั่นจักรยานในช่วงสิบวันที่ผ่านมา
อันดับแรก ผมขอใช้พื้นที่นี้ในการแสดงความขอบคุณ
"คุณตโป และ คุณใต้ร่มกระถินณรงค์"
รวมทั้งเพื่อนๆทุกท่าน ณ สังคมจักรยานแห่งนี้
ที่ได้ให้คำแนะนำและข้อมูลเป็นอย่างดีในการ fitting เจ้า speeder ของผมที่มันผิดไซส์ไปค่อนข้างมาก
โดยข้อมูลที่ผมได้รับนั้น ช่วยให้ผมสามารถที่จะปรับแก้ไขรถให้ขี่ได้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาเลยครับ
"ขอบคุณจากใจจริงครับ"
และผมอยากฝากถึงทุกๆท่าน ที่กำลังสนใจจะปั่นจักรยานถึงเรื่องการเลือกจักรยาน การ fitting อยากให้ศึกษาและหาข้อมูลให้มากเท่าที่จะทำได้นะครับ มันมีประโยชน์มากจริงๆ และท่านจะรักการปั่นเหมือนผมครับ
เข้าเรื่องนะครับ
หลังจากสิบวันผ่านไปกับเจ้า speeder เจ้าปัญหา
ส่วนมากจะเป็นการปรับแต่งรถซะส่วนใหญ่ครับ
ปรับและก็ปั่น ปั่นและก็ปรับ
ผมขอแบ่งเป็นสามช่วงนะครับ
ช่วงที่แรก ประมาณ 3 วันแรก: เดิมๆจากร้าน
รถเดิมๆ เลยครับไม่ได้ปรับแต่งอะไรทั้งสิ้น วันแรกจัดไปเกือบ 20 โล ปวดข้อมือและก้นมากรวมทั้งยังมีอาการขยับก้นไปด้านหลังตลอดทุกสิบนาทีแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรครับ (ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย)
ส่วนเรื่องรถการเข้าเกียร์ยังไม่เนียนเท่าไร ทำความเร็วไม่ได้เลย (ก็แหงล่ะซิ) หลังจากโพสท์รีวิวการปั่นวันแรก ทำให้ทราบว่ารถเราเล็กไป... อ้าว...!!!... ทำไงล่ะทีนี้ งานเข้าซะงั้น
แต่สุดท้ายก็ได้รับคำแนะนำจากคุณตโป
และคุณใต้ร่มกระถินณรงค์ รวมถึงเพีอนๆอีกหลายท่านในการปรับและแก้ไขรถครับ
ช่วงที่สอง ประมาณ 3 วัน: เริ่มปรับหลักอาน
ช่วงนี้ได้ลองปรับความสูงและระยะของหลักอานหลังจากลองปรับอยู่หลายรอบ จนได้ที่ ส่วนเบาะก็ถอยเกือบสุดราง
ที่นี้ลองปั่นดู โอ้แม่เจ้า!!! ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา หลักๆก็
- ขาส่งแรงได้ดีขึ้น ไม่เจ็บแปรบทีเข่า
- ไม่มีอาการปวดเข่า และไม่มีอาการขยับก้นไปด้านหลัง
- ก้นยังปวดเหมือนเดิม อันนี้เข้าใจ
- เริ่มทำความเร็วได้ดีขึ้น
!!!!ความหวังเริ่มมาแล้วครับ!!!!
ช่วงที่สาม : เปลี่ยน stem ครับ
จากของเดิม 90mm เปลี่ยนเป็น 110mm จริงๆแล้วคุณตโปแนะนำว่าควรจะ 120 ขึ้นไปแต่ตอนนั้นหาได้แค่นี้บวกกับใจร้อนด้วย
เฉพาะ stem นี่สามวันเต็มครับลองเช็คครั้งละ 20 โล
วันแรก : เปลี่ยน stem อย่างเดียว บริเวณข้อมือและช่วงแขนดีขึ้น ไม่ล้า ไม่ชา
วันที่สอง : คว่ำ stem ปรับตำแหน่งเบรกและชิพเตอร์ใหม่ รู้สึกว่าก้มมากขึ้นอีกนิด เหมือนจะทำความเร็วได้ค่อนข้างดีครับ บริเวณข้อมือสบายมากขึ้นทั้งการเบรกและเปลี่ยนเกียร์ ไม่เกร็งและกดที่มือมากเหมือนช่วงแรกๆ
วันที่สาม : ลดแหวนรองคอลงสองตัวและเพิ่มบาร์เอน ตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เข้าที่ เข้าทางมากที่สุด ทำความเร็วได้ดีมาก จากปกติ 27-28 แต่วันนี้ขึ้น 30+ ตลอด (อ้างอิงจาก endomondo ครับ) กดเป็นมาแอบตกใจเลยครับ ว่าทำไมมันถึงได้แตกต่างขนาดนี้กับองศาที่ก้มต่ำลง เข้าใจเลยว่าทำไมคนเข้าชอบเล่นหมอบกัน
สรุปตอนนี้คิดว่าปรับและแก้ไขได้ประมาณ 80%
ของไซส์ที่มันควรจะเป็น ที่เหลือก็ถึงเวลาปรับแรงคนแล้วครับ
รูปล่าสุดของเจ้าตัวปัญหา
ปล. ฝากถึงเพื่อนๆที่อาจจะเจอปัญหาเรื่องขนาดรถไม่พอดีเช่นเดียวกับผม พยายามศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการ fitting ไว้ก็ดีนะครับ เพราะไม่ว่ายังไงแล้ว เดี๋ยวร่างกายเรามันก็ฟ้องกลับมาเองครับ
ที่นี้เราก็จะได้รู้ว่าเราต้องจัดการกับมันอย่างไรบ้าง
ขอบคุณทุกท่านที่รับฟังครับ
สิบวันกับ Merida Speeder T3D
ก่อนที่จะแชร์ประสบการณ์การปั่นจักรยานในช่วงสิบวันที่ผ่านมา
อันดับแรก ผมขอใช้พื้นที่นี้ในการแสดงความขอบคุณ
"คุณตโป และ คุณใต้ร่มกระถินณรงค์"
รวมทั้งเพื่อนๆทุกท่าน ณ สังคมจักรยานแห่งนี้
ที่ได้ให้คำแนะนำและข้อมูลเป็นอย่างดีในการ fitting เจ้า speeder ของผมที่มันผิดไซส์ไปค่อนข้างมาก
โดยข้อมูลที่ผมได้รับนั้น ช่วยให้ผมสามารถที่จะปรับแก้ไขรถให้ขี่ได้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาเลยครับ
"ขอบคุณจากใจจริงครับ"
และผมอยากฝากถึงทุกๆท่าน ที่กำลังสนใจจะปั่นจักรยานถึงเรื่องการเลือกจักรยาน การ fitting อยากให้ศึกษาและหาข้อมูลให้มากเท่าที่จะทำได้นะครับ มันมีประโยชน์มากจริงๆ และท่านจะรักการปั่นเหมือนผมครับ
เข้าเรื่องนะครับ
หลังจากสิบวันผ่านไปกับเจ้า speeder เจ้าปัญหา
ส่วนมากจะเป็นการปรับแต่งรถซะส่วนใหญ่ครับ
ปรับและก็ปั่น ปั่นและก็ปรับ
ผมขอแบ่งเป็นสามช่วงนะครับ
ช่วงที่แรก ประมาณ 3 วันแรก: เดิมๆจากร้าน
รถเดิมๆ เลยครับไม่ได้ปรับแต่งอะไรทั้งสิ้น วันแรกจัดไปเกือบ 20 โล ปวดข้อมือและก้นมากรวมทั้งยังมีอาการขยับก้นไปด้านหลังตลอดทุกสิบนาทีแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรครับ (ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย)
ส่วนเรื่องรถการเข้าเกียร์ยังไม่เนียนเท่าไร ทำความเร็วไม่ได้เลย (ก็แหงล่ะซิ) หลังจากโพสท์รีวิวการปั่นวันแรก ทำให้ทราบว่ารถเราเล็กไป... อ้าว...!!!... ทำไงล่ะทีนี้ งานเข้าซะงั้น
แต่สุดท้ายก็ได้รับคำแนะนำจากคุณตโป
และคุณใต้ร่มกระถินณรงค์ รวมถึงเพีอนๆอีกหลายท่านในการปรับและแก้ไขรถครับ
ช่วงที่สอง ประมาณ 3 วัน: เริ่มปรับหลักอาน
ช่วงนี้ได้ลองปรับความสูงและระยะของหลักอานหลังจากลองปรับอยู่หลายรอบ จนได้ที่ ส่วนเบาะก็ถอยเกือบสุดราง
ที่นี้ลองปั่นดู โอ้แม่เจ้า!!! ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา หลักๆก็
- ขาส่งแรงได้ดีขึ้น ไม่เจ็บแปรบทีเข่า
- ไม่มีอาการปวดเข่า และไม่มีอาการขยับก้นไปด้านหลัง
- ก้นยังปวดเหมือนเดิม อันนี้เข้าใจ
- เริ่มทำความเร็วได้ดีขึ้น
!!!!ความหวังเริ่มมาแล้วครับ!!!!
ช่วงที่สาม : เปลี่ยน stem ครับ
จากของเดิม 90mm เปลี่ยนเป็น 110mm จริงๆแล้วคุณตโปแนะนำว่าควรจะ 120 ขึ้นไปแต่ตอนนั้นหาได้แค่นี้บวกกับใจร้อนด้วย
เฉพาะ stem นี่สามวันเต็มครับลองเช็คครั้งละ 20 โล
วันแรก : เปลี่ยน stem อย่างเดียว บริเวณข้อมือและช่วงแขนดีขึ้น ไม่ล้า ไม่ชา
วันที่สอง : คว่ำ stem ปรับตำแหน่งเบรกและชิพเตอร์ใหม่ รู้สึกว่าก้มมากขึ้นอีกนิด เหมือนจะทำความเร็วได้ค่อนข้างดีครับ บริเวณข้อมือสบายมากขึ้นทั้งการเบรกและเปลี่ยนเกียร์ ไม่เกร็งและกดที่มือมากเหมือนช่วงแรกๆ
วันที่สาม : ลดแหวนรองคอลงสองตัวและเพิ่มบาร์เอน ตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เข้าที่ เข้าทางมากที่สุด ทำความเร็วได้ดีมาก จากปกติ 27-28 แต่วันนี้ขึ้น 30+ ตลอด (อ้างอิงจาก endomondo ครับ) กดเป็นมาแอบตกใจเลยครับ ว่าทำไมมันถึงได้แตกต่างขนาดนี้กับองศาที่ก้มต่ำลง เข้าใจเลยว่าทำไมคนเข้าชอบเล่นหมอบกัน
สรุปตอนนี้คิดว่าปรับและแก้ไขได้ประมาณ 80%
ของไซส์ที่มันควรจะเป็น ที่เหลือก็ถึงเวลาปรับแรงคนแล้วครับ
รูปล่าสุดของเจ้าตัวปัญหา
ปล. ฝากถึงเพื่อนๆที่อาจจะเจอปัญหาเรื่องขนาดรถไม่พอดีเช่นเดียวกับผม พยายามศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการ fitting ไว้ก็ดีนะครับ เพราะไม่ว่ายังไงแล้ว เดี๋ยวร่างกายเรามันก็ฟ้องกลับมาเองครับ
ที่นี้เราก็จะได้รู้ว่าเราต้องจัดการกับมันอย่างไรบ้าง
ขอบคุณทุกท่านที่รับฟังครับ