หัวใจคนเราก็มีแค่สี่ห้อง แต่ทำไมหัวใจบางคนจึงสลับซับซ้อนจนไม่อาจทำความเข้าใจได้
EP: 4.1
วงกตหัวใจ
เมธาวีและฉัตรชัยเปลี่ยนอิริยาบถจากซ้อมไดร์ฟกอล์ฟ มาเป็นนั่งดื่มเบียร์แทน เวลาเกือบๆ สามทุ่ม ผู้คนยังพลุ่นพลานอยู่ เป็นครั้งแรกที่เมธาวีที่ได้กินข้าวกับหนุ่มสุดหล่อที่ตัวเองแอบมอง เช่นเดียวกับฉัตรชัยที่รู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวคนนี้ไม่น้อย
บทสนทนาเริ่มต้นด้วยการคุยเรื่องการทำงานที่ทั้งคู่ต้องทำร่วมกัน เมธาวีมีจิตวิทยาในการคุยกับผู้ใหญ่อยู่ไม่น้อย เธอเลือกที่จะยิงคำถามเพื่อให้อีกฝ่ายได้เล่าประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง ซึ่งจุดนี้ก็ถูกใจฉัตรชัยมาก เพราะโดยรวม แม้จะเป็นคนนิ่งเงียบแต่หากได้เล่าอะไรที่ตัวเองถนัด หรือภูมิใจ เขาก็สามารถพูดได้เรื่อยๆ เหมือนกัน
การสนทนาดำเนินไปอย่างยาวนานแต่ทั้งคู่กลับไม่รู้สึดเบื่อหน่าย ฉัตรชัยเล่าถึงประสบการณ์การทำงานตั้งแต่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพและได้สมัครงานหลายที่ แต่ก็ได้ที่ระยอง จึงได้ทำงานเป็นโปรเจคเอ็นจิเนียอยู่พักหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่เป็นวิศวกรที่ดูแลและประสานงานในโครงการ โดยจะต้องย้ายไปอยู่ไซด์งานต่างๆ ตามโปรเจคที่ตัวเองได้รับมอบหมาย เขาจึงเริ่มสนใจระบบการบริหารจัดการข้อมูลและทำการศึกษาด้วยตนเองเรื่อยมาจนมีความรู้ความชำนาญ จึงสามารถเปลี่ยนสายงานมาทำด้านนี้โดยเฉพาะและได้ประจำอยู่สำนักงานใหญ่ที่ระยองเมื่อ 3 ปีที่แล้ว พร้อมๆ กับที่เมธาวีเข้าทำงาน
นอกจากนี้ฉัตรชัยยังเล่าเรื่องประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิต ทั้งการเดินทางไปต่างประเทศ ความสามารถในกีฬากอล์ฟที่โปรดปราน รวมถึงลูกชายตัวเล็กทั้งสองคนที่เขาภูมิใจ
จนเวลาล่วงไปเกือบสี่ทุ่มครึ่ง คนเริ่มบางตา แต่เบียร์ยังสามารถสั่งมาดื่มได้เรื่อยๆ เช่นเดียวกับคู่สนทนาที่มีเรื่องให้พูดคุยกันจนแทบไม่ต้องหยุดคิด เมธาวีสังเกตได้ว่าฉัตรชัยเริ่มเมาจนพูดมากกว่าปกติและดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จึงถามสิ่งที่ค้างคาใจมานาน “แล้วไปทำอีท่าไหนถึงได้เมียคนที่สอง” ฉัตรชัยหยุดกึกเมื่อได้ยินคำถาม เขานิ่งสักครู่อย่างครุ่นคิดว่าจะตอบอย่างไร จนเห็นสาวน้อยมองอย่างคนอยากรู้อยากเห็น “อืม...นานแล้วอะ จำท่าไม่ได้” ฉัตรชัยตอบนิ่งๆ พร้อมมองตาสาวน้อยที่ทำหน้าสนใจ
เมธาวีเกาศรีษะเล็กน้อย ก่อนขำอยู่ในคอ ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะกล้าเล่นมุขนี้ เธอยิ้มอย่างขำๆ ก่อนยืนยันความอยากรู้อีกครั้ง “เอาจริงๆ”
ฉัตรชัยไม่คิดจะปิดบังเรื่องภรรยาคนที่สองแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่อยากพูดถึงเท่านั้น เขาเล่าคร่าวๆ ว่า ไปเจอที่อุบลราชธานี ตอนไปสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งตอนนั้นเขาและภรรยาเริ่มระหองระแหงกัน เนื่องจากเมื่อเขาย้ายไปทำงานอุบลก็กลับบ้านที่ปราจีนบุรีน้อยลง จากเดิมกลับบ้านทุกอาทิตย์ แต่ตอนไปอยู่อุบลกลับเดือนเว้นเดือนเพราะงานยุ่งและไกลมาก เวลาโทรหาก็ทะเลาะกันทุกวัน ซึ่งช่วงนั้นเขาต้องดื่มกับลูกค้าและลูกน้องแทบทุกคืน จนไปเจอผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาสวย หุ่นดี พูดจาเพราะ เข้าอกเข้าใจเขา เขาเลยเผลอใจและเผลอตัวในที่สุด เลยต้องรับผิดชอบเรื่อยมา
“แล้วเมียใหม่พี่ ทำงานอะไรเหรอ?” เมธาวีถามขึ้นหลังจากที่ชายหนุ่มเล่าเรื่องรักครั้งที่สองให้ฟัง
“ผู้จัดการร้าน” ฉัตรชัยตอบสั้นๆ และเลี่ยงที่จะใช้คำว่า ‘เด็กเสริฟ’ แต่ดูเหมือนเมธาวีจะรู้ทัน เพราะฉัตรชัยเห็นสีหน้าเหยียดๆ ของสาวน้อย พร้อมคำตอบว่า “เหรอ”
เมธาวีไม่คิดที่จะดูถูกคน ไม่ว่าจะทำงานในสายอาชีพใดๆ เพราะเธอเชื่อมาเสมอว่า คนเรามีโอกาสทางการศึกษา โอกาสในชีวิตที่ต่างกัน แต่แม้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ก็น่าจะเลือกที่จะเป็นคนดีได้ แล้วทำไมผู้หญิงคนนี้จึงเลือกที่จะทำลายชีวิตครอบครัวคนอื่น โดยที่ผู้ชายคนนี้ก็ยอมให้ทำเพียงเพราะว่าต้องรับผิดชอบกับเซ็กซ์ที่ทั้งคู่ต่างสมยอม
แม้จะมีคำถามเกิดขึ้นในใจมากมาย แต่เมธาวีเลือกคำถามที่ตรงประเด็นว่า “แล้วเขารู้หรือเปล่าว่า พี่มีลูกมีเมียแล้ว”
เมื่อโดนคำถามที่แทงใจดำ ฉัตรชัยได้แต่เหม่อลอย มองหญ้าเขียวขจีเบื่องหน้า...
เขาตอบเพียงสั้นๆ ว่า “รู้มาตลอด...”
เมธาวีมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ ทำไมเขาต้องรับผิดชอบผู้หญิงที่ยอมมีอะไรกับเขา ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว ไม่มีใครเขารับผิดชอบภรรยาคนที่สองจนถึงกับทิ้งลูกทิ้งเมียหรอก “แล้วลูกเมียพี่ที่ปราจีนละ” คำถามเดียวที่เมธาวีถามขึ้นมาแม้ความคลางแคลงใจยังมีอยู่เต็มอก
“ก็ยังดูแลกันอยู่ แต่ทางโน้นก็เลิกไม่ได้” คำตอบง่ายๆ แต่ขัดกับชีวิตที่ยุ่งเหยิงของเขา
ชายหนุ่มมองไปเบื้องหน้า สรุปความคิดกับแนวทางแก้ปัญหาที่เขาคิดว่าถูกต้องที่สุดแล้ว “พี่ก็ดูแลตลอด ถึงเลิกกัน พี่ก็รับผิดชอบ ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือน เขาก็เข้าใจ”
เมธาวีได้แต่นั่งนิ่งๆ จิบเบียร์ และมองตาชายหนุ่ม
ดวงตาเป็นประกาย เหม่อลอย แต่ครุ่นคิด
ฉัตรชัยถอนหายใจเล็กน้อย แล้วพูดต่อว่า “อีกคนเขาไม่มีลูก พี่ก็ไม่รู้จะรับผิดชอบไง...เลยต้องคบๆ กันไป”
เมธาวีเปลี่ยนสีหน้าจากครุ่นคิด เป็นตกตะลึง พร้อมรำพันเบาๆ “ตรรกะประหลาดมาก”
ฉัตรชัยมองหน้าหญิงสาวที่ดูเหมือนจะยิ้มเยาะกับแนวทางแก้ปัญหาของเขา ชีวิตเขามันก็คงน่าตลกสำหรับสาวน้อยที่ไม่เคยมีครอบครัว ความสุขที่เกิดจากการได้รับผิดชอบและพยายามทำให้ทุกๆ คนมีความสุข เด็กน้อยที่นึกสนุกไปวันๆ คงไม่เข้าใจ
แม้ว่าชายหนุ่มอยากจะอธิบายตรรกะของเขาให้สาวน้อยฟัง แต่เหมือนว่าเวลาของการอธิบายในคืนนี้คงหมดไปแล้ว เพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังเข้ามาพร้อมรูปโชว์บนหน้าจอ นั้นเป็นสัญญาณว่า เขาจะต้องรับโทรศัพท์และคุยกับหญิงสาวที่ปลายสายเพื่อให้เธอมีความสุข ในฐานะแฟนคนปัจจุบัน
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
เรื่องโดย: จัณฑ์นิทาน
Happy Friday (วงกตรัก กับดักดาว ชื่อเดิม'สุขสันต์วันศุกร์')_EP4: วงกตหัวใจ (1)
บทสนทนาเริ่มต้นด้วยการคุยเรื่องการทำงานที่ทั้งคู่ต้องทำร่วมกัน เมธาวีมีจิตวิทยาในการคุยกับผู้ใหญ่อยู่ไม่น้อย เธอเลือกที่จะยิงคำถามเพื่อให้อีกฝ่ายได้เล่าประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง ซึ่งจุดนี้ก็ถูกใจฉัตรชัยมาก เพราะโดยรวม แม้จะเป็นคนนิ่งเงียบแต่หากได้เล่าอะไรที่ตัวเองถนัด หรือภูมิใจ เขาก็สามารถพูดได้เรื่อยๆ เหมือนกัน
การสนทนาดำเนินไปอย่างยาวนานแต่ทั้งคู่กลับไม่รู้สึดเบื่อหน่าย ฉัตรชัยเล่าถึงประสบการณ์การทำงานตั้งแต่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยในกรุงเทพและได้สมัครงานหลายที่ แต่ก็ได้ที่ระยอง จึงได้ทำงานเป็นโปรเจคเอ็นจิเนียอยู่พักหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่เป็นวิศวกรที่ดูแลและประสานงานในโครงการ โดยจะต้องย้ายไปอยู่ไซด์งานต่างๆ ตามโปรเจคที่ตัวเองได้รับมอบหมาย เขาจึงเริ่มสนใจระบบการบริหารจัดการข้อมูลและทำการศึกษาด้วยตนเองเรื่อยมาจนมีความรู้ความชำนาญ จึงสามารถเปลี่ยนสายงานมาทำด้านนี้โดยเฉพาะและได้ประจำอยู่สำนักงานใหญ่ที่ระยองเมื่อ 3 ปีที่แล้ว พร้อมๆ กับที่เมธาวีเข้าทำงาน
นอกจากนี้ฉัตรชัยยังเล่าเรื่องประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิต ทั้งการเดินทางไปต่างประเทศ ความสามารถในกีฬากอล์ฟที่โปรดปราน รวมถึงลูกชายตัวเล็กทั้งสองคนที่เขาภูมิใจ
จนเวลาล่วงไปเกือบสี่ทุ่มครึ่ง คนเริ่มบางตา แต่เบียร์ยังสามารถสั่งมาดื่มได้เรื่อยๆ เช่นเดียวกับคู่สนทนาที่มีเรื่องให้พูดคุยกันจนแทบไม่ต้องหยุดคิด เมธาวีสังเกตได้ว่าฉัตรชัยเริ่มเมาจนพูดมากกว่าปกติและดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จึงถามสิ่งที่ค้างคาใจมานาน “แล้วไปทำอีท่าไหนถึงได้เมียคนที่สอง” ฉัตรชัยหยุดกึกเมื่อได้ยินคำถาม เขานิ่งสักครู่อย่างครุ่นคิดว่าจะตอบอย่างไร จนเห็นสาวน้อยมองอย่างคนอยากรู้อยากเห็น “อืม...นานแล้วอะ จำท่าไม่ได้” ฉัตรชัยตอบนิ่งๆ พร้อมมองตาสาวน้อยที่ทำหน้าสนใจ
เมธาวีเกาศรีษะเล็กน้อย ก่อนขำอยู่ในคอ ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะกล้าเล่นมุขนี้ เธอยิ้มอย่างขำๆ ก่อนยืนยันความอยากรู้อีกครั้ง “เอาจริงๆ”
ฉัตรชัยไม่คิดจะปิดบังเรื่องภรรยาคนที่สองแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่อยากพูดถึงเท่านั้น เขาเล่าคร่าวๆ ว่า ไปเจอที่อุบลราชธานี ตอนไปสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งตอนนั้นเขาและภรรยาเริ่มระหองระแหงกัน เนื่องจากเมื่อเขาย้ายไปทำงานอุบลก็กลับบ้านที่ปราจีนบุรีน้อยลง จากเดิมกลับบ้านทุกอาทิตย์ แต่ตอนไปอยู่อุบลกลับเดือนเว้นเดือนเพราะงานยุ่งและไกลมาก เวลาโทรหาก็ทะเลาะกันทุกวัน ซึ่งช่วงนั้นเขาต้องดื่มกับลูกค้าและลูกน้องแทบทุกคืน จนไปเจอผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาสวย หุ่นดี พูดจาเพราะ เข้าอกเข้าใจเขา เขาเลยเผลอใจและเผลอตัวในที่สุด เลยต้องรับผิดชอบเรื่อยมา
“แล้วเมียใหม่พี่ ทำงานอะไรเหรอ?” เมธาวีถามขึ้นหลังจากที่ชายหนุ่มเล่าเรื่องรักครั้งที่สองให้ฟัง
“ผู้จัดการร้าน” ฉัตรชัยตอบสั้นๆ และเลี่ยงที่จะใช้คำว่า ‘เด็กเสริฟ’ แต่ดูเหมือนเมธาวีจะรู้ทัน เพราะฉัตรชัยเห็นสีหน้าเหยียดๆ ของสาวน้อย พร้อมคำตอบว่า “เหรอ”
เมธาวีไม่คิดที่จะดูถูกคน ไม่ว่าจะทำงานในสายอาชีพใดๆ เพราะเธอเชื่อมาเสมอว่า คนเรามีโอกาสทางการศึกษา โอกาสในชีวิตที่ต่างกัน แต่แม้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ก็น่าจะเลือกที่จะเป็นคนดีได้ แล้วทำไมผู้หญิงคนนี้จึงเลือกที่จะทำลายชีวิตครอบครัวคนอื่น โดยที่ผู้ชายคนนี้ก็ยอมให้ทำเพียงเพราะว่าต้องรับผิดชอบกับเซ็กซ์ที่ทั้งคู่ต่างสมยอม
แม้จะมีคำถามเกิดขึ้นในใจมากมาย แต่เมธาวีเลือกคำถามที่ตรงประเด็นว่า “แล้วเขารู้หรือเปล่าว่า พี่มีลูกมีเมียแล้ว”
เมื่อโดนคำถามที่แทงใจดำ ฉัตรชัยได้แต่เหม่อลอย มองหญ้าเขียวขจีเบื่องหน้า...
เขาตอบเพียงสั้นๆ ว่า “รู้มาตลอด...”
เมธาวีมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ ทำไมเขาต้องรับผิดชอบผู้หญิงที่ยอมมีอะไรกับเขา ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว ไม่มีใครเขารับผิดชอบภรรยาคนที่สองจนถึงกับทิ้งลูกทิ้งเมียหรอก “แล้วลูกเมียพี่ที่ปราจีนละ” คำถามเดียวที่เมธาวีถามขึ้นมาแม้ความคลางแคลงใจยังมีอยู่เต็มอก
“ก็ยังดูแลกันอยู่ แต่ทางโน้นก็เลิกไม่ได้” คำตอบง่ายๆ แต่ขัดกับชีวิตที่ยุ่งเหยิงของเขา
ชายหนุ่มมองไปเบื้องหน้า สรุปความคิดกับแนวทางแก้ปัญหาที่เขาคิดว่าถูกต้องที่สุดแล้ว “พี่ก็ดูแลตลอด ถึงเลิกกัน พี่ก็รับผิดชอบ ส่งเงินให้ใช้ทุกเดือน เขาก็เข้าใจ”
เมธาวีได้แต่นั่งนิ่งๆ จิบเบียร์ และมองตาชายหนุ่ม
ดวงตาเป็นประกาย เหม่อลอย แต่ครุ่นคิด
ฉัตรชัยถอนหายใจเล็กน้อย แล้วพูดต่อว่า “อีกคนเขาไม่มีลูก พี่ก็ไม่รู้จะรับผิดชอบไง...เลยต้องคบๆ กันไป”
เมธาวีเปลี่ยนสีหน้าจากครุ่นคิด เป็นตกตะลึง พร้อมรำพันเบาๆ “ตรรกะประหลาดมาก”
ฉัตรชัยมองหน้าหญิงสาวที่ดูเหมือนจะยิ้มเยาะกับแนวทางแก้ปัญหาของเขา ชีวิตเขามันก็คงน่าตลกสำหรับสาวน้อยที่ไม่เคยมีครอบครัว ความสุขที่เกิดจากการได้รับผิดชอบและพยายามทำให้ทุกๆ คนมีความสุข เด็กน้อยที่นึกสนุกไปวันๆ คงไม่เข้าใจ
แม้ว่าชายหนุ่มอยากจะอธิบายตรรกะของเขาให้สาวน้อยฟัง แต่เหมือนว่าเวลาของการอธิบายในคืนนี้คงหมดไปแล้ว เพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังเข้ามาพร้อมรูปโชว์บนหน้าจอ นั้นเป็นสัญญาณว่า เขาจะต้องรับโทรศัพท์และคุยกับหญิงสาวที่ปลายสายเพื่อให้เธอมีความสุข ในฐานะแฟนคนปัจจุบัน