สอนลูก!! ให้เรียนรู้ถึงผลของการกระทำของตัวเอง

.

เมื่อเรามีลูก



ตั้งแต่ลูกเป็นเด็กทารก
เรารักและทะนุถนอมเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างดี ตามสัญชาตญาณของความเป็นพ่อแม่



เมื่อลูกเข้าวัยอนุบาล
เราอาบน้ำ แต่งตัว ป้อนข้าว ให้ลูก....เพราะกลัวลูกเหนื่อย
ลูกสะดุดขาโต๊ะล้มเพราะไม่ระวัง
เราตีโต๊ะบอกลูกว่าแม่จัดการโต๊ะให้แล้ว ที่มากีดทางเดินลูก



เมื่อลูกเข้าวัยประถม
เราแอบช่วยทำการบ้านแทนลูก
ลูกลืมสมุดงาน เรารีบเอาสมุดไปให้ลูกถึงโรงเรียนแบบไม่รั้งรอ
ลูกทำของคนอื่นเสียหาย เราบอกไม่เป็นไร ซื้อใหม่ได้
ลูกทะเลาะกับเพื่อน เราออกโรงเคลียร์ให้
ทั้งหมดนี้....เพราะกลัวลูกเหนื่อย กลัวลูกทุกข์ใจ



ลูกเข้าวัยมัธยม
ลูกตื่นสาย เพราะนอนดึก เรารู้สึกผิดที่ไม่ปลุกลูก ลูกบอกว่าเป็นความผิดของเรา
ลูกไม่ยอมกินข้าวตามเวลาของครอบครัว เราเอาข้าวไปเสิร์ฟให้ถึงห้องนอน
ลูกสอบตก เพราะไม่อ่านหนังสือ เราไปขอผ่อนผันกับครู เพื่อให้ลูกสอบผ่าน
ลูกชกต่อยกับเพื่อน เราโทษว่าคู่กรณี เป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน




++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++




การเลี้ยงลูกแบบดังกล่าว เรากำลังจะหล่อหลอมให้เขาโตมาเป็นคนแบบไหน
...ไม่อดทน ไม่สู้ปัญหา แก้ปัญหาไม่เป็น โทษคนอื่นอย่างนั้นหรือ ?!?
เราเองกำลังทำให้เขาเรียนรู้แบบนั้น
โดยไม่ฝึกให้เขาเรียนรู้และรับผิดชอบในผลของการกระทำของตัวเองเลย



ไม่ต้องอดทน ไม่สู้ปัญหา...เพราะไม่เคยลำบาก พ่อแม่ทำให้หมด
แก้ปัญหาเองไม่เป็น...เพราะทุกครั้งพ่อแม่ออกโรงแทน
ช่วยลูกมาตลอด มีพ่อแม่หนุนหลังเสมอ
โทษคนอื่น...เพราะพ่อแม่ไม่เคยให้ลูกยอมรับผิด
พ่อแม่ก็โทษอย่างอื่นก่อนเช่นเดียวกัน



พ่อแม่มักเคยชินกับการเห็นลูกเป็นเด็กน้อยที่ต้องช่วยเหลือปกป้อง
จนใช้ความรักทำร้ายลูกทางอ้อมโดยไม่รู้ตัว
การปล่อยให้ลูกได้เผชิญความยากลำบาก และฝ่าฟันอุปสรรคด้วยตัวเองบ้าง
ไม่ได้แปลว่าเราไม่รักหรือทอดทิ้งเขา หรือเป็นพ่อแม่ที่ใจร้ายเสียเมื่อไหร่



ตรงกันข้าม มันเป็นความรักที่ถูกทาง เป็นการสอนลูกให้อยู่ได้ด้วยตัวเอง
....... เพราะเราเองไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า เพื่อที่จะดูแล ปกป้องเค้าได้ตลอดไปเสียหน่อย






เครดิต fb: แฮปปี้คิดส์ คลินิกเวชกรรม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่