เห็นมีกระทู้แนะนำสินธรเรื่องยางของคุณ The Power Mancity เลยอยากแชร์มุมมองการลงทุน เผื่อมีเพื่อนนักลงทุนสนใจลงทุน

ก่อนอื่นคือไม่ได้คิดจะไปลงทุนในกิจการที่เกี่ยวกับสวนยาง เนื่องด้วยไม่มีความรู้และเงินทุน
พอดีอ่านกระทู้แนะนำและเห็นว่าเรื่องยางเป็นที่สนใจเลยมาลองคำนวนเล่นๆดูเห็นว่าน่าสนใจ จึงเอามาลองแชร์กันดู
เผื่อมีนักลงทุนท่านใดสนใจจะลงทุนเองหรือซื้อต่อกิจการแบบ Take over ไปเลย



จึงขออาศัยข้อมูลจากคุณ Thepowermancity ซึ่งเป็นคนทำสวนยางคิดว่าน่าจะเชื่อถือได้ระดับหนึ่ง
อ้างอิงจาก http://pantip.com/topic/30938157

ต้นทุน
1.ที่ดิน 15 ไร่ + ค่าปรับพื้นที่      950,000 บาท
2.ค่าเบี้ยยาง                             22,500 บาท
3.ค่าปุ๋ยโดยประมาณ                 200,000 บาท(จาก "แต่หมดไปหลักแสนเลย" คิดว่าน่าจะแสนกว่า เลยปัดให้เป็น 200000 บาท หากไม่ถูกมาแก้ทีหลังแล้วกัน)

รวมเงินลงทุน                1,172,500 บาท    

งบกำไรขาดทุน
ยอดขาย                         250,000 บาท (คิดที่ราคายาง 80 บาท/กก) คิดว่าน่าจะเป็นราคาปัจจุบัน
ค่าใช้จ่าย(ค่าปุ๋ย+ค่าแรง)   130,000 บาท
กำไรสุทธิ                        120,000 บาท
คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ        48%
หรือคิดเป็นผลตอบแทน      10.23%ต่อปีนะครับ

อัตราส่วนทางการเงิน
Return On Asset(ROA)     10.23%
Return on Equity(ROE)    คำนวนไม่ได้
D/E  : ไม่ทราบแต่คิดว่าไม่น่ามีหนี้ เนื่องจากคิดว่า เงินลงทุนซื้อที่ดิน + เบี้ยยาง +ปุ๋ย น่าจะเป็นเงินสด (สมมุติว่าจ่ายเป็นเงินสดละกัน)

ค่า PE PBV คำนวนไม่ได้ ต้องรอ IPO จากคุณ ThePowerMancity ก่อน


จึงอยากเรียนถามคุณ Thepowermancity ว่าถ้าสมมุติจะขายกิจการสวนยางนี้ จะขายที่ราคาเท่าไรครับ




ส่วนผมขอลองแชร์ไอเดียเรื่องการลงทุนสวนยางดูนะครับ เทียบกับทรัพย์สินอื่นๆ

เงินฝากประจำ 1 ปี     2-3.5%  : บางครั้งอาจแพ้เงินเฟ้อด้วยซ้ำ
พันธบัตรรัฐบาล        3-4.5%   :  น่าจะได้ชัวร์รัฐบาลเป็นประกัน
อาคารพาณิชย์          3-7%     : ขึ้นอยู่กับทำเล แต่ส่วนใหญ๋3-5 % ความเสี่ยงไม่มีคนเช่าคือไม่มีรายได้ หรือไม่ยอมจ่ายค่าเช่า
คอนโด                   3.5-10% : ขึ้นกับทำเลส่วนใหญ่ 4-6% ความเสี่ยงไม่มีคนเช่าคือไม่มีรายได้ หรือไม่ยอมจ่ายค่าเช่า

สวนยาง                  10%       : คิดยาง 80 บาท/กก และเงินลงทุนที่ 1,200,000 บาท(ปัด 1172500 เป็นเลขกลมๆหรือ PE 10 เท่าละกัน)

โดยผลตอบแทนขึ้นกับราคายาง โดยถ้าราคายางตกลงไปที่
ราคา 40 บาท/กก  รายได้ 125,000 บาท  รายจ่ายFix cost(ค่าปุ๋ย+ค่าแรง) 130,000 บาท ขาดทุน 5000 บาท  เจ๊งครับงานนี้
ราคา 50 บาท/กก  รายได้ 156,250 บาท  รายจ่ายFix cost(ค่าปุ๋ย+ค่าแรง) 130,000 บาท กำไร  26250 บาท    2.18% ต่อปี
ราคา 60 บาท/กก  รายได้ 187,500 บาท  รายจ่ายFix cost(ค่าปุ๋ย+ค่าแรง) 130,000 บาท กำไร  57500 บาท    4.79% ต่อปี
ราคา 70 บาท/กก  รายได้ 218,750 บาท  รายจ่ายFix cost(ค่าปุ๋ย+ค่าแรง) 130,000 บาท กำไร  88750 บาท    7.39% ต่อปี

ราคา 80 บาท/กก เท่าปัจจุบัน ผลตอบแทน 10%ต่อปี

แต่ถ้าราคาขึ้นเป็น
ราคา 90 บาท/กก  รายได้ 281,250 บาท  รายจ่ายFix cost(ค่าปุ๋ย+ค่าแรง) 130,000 บาท กำไร 151250 บาท   12.60% ต่อปี
ราคา 100 บาท/กก รายได้ 312,500 บาท รายจ่ายFix cost(ค่าปุ๋ย+ค่าแรง) 130,000 บาท กำไร 182500 บาท   15.20% ต่อปี

จะเห็นได้ว่าการทำสวนยางมีโอกาสขาดทุนได้ 5000 บาทต่อปี

แต่เดี๊ยวก่อนหากรัฐอุดหนุนเงินค่าปุ๋ย 1260 บาทต่อไร่ จะได้เงินมา 18900 บาท ดังนั้นไม่ขาดทุนแล้ว
(แต่จริงๆต้องรอไปก่อน เพราะม๊อบไม่รับข้อเสนอนี้
อ้างอิงจาก : ม็อบยางเมิน “ค่าปุ๋ยไร่ละพัน” ขีดเส้นตายยกระดับการชุมนุมพร้อมกันทุกจุดบ่าย 3 วันนี้
http://www.manager.co.th/south/ViewNews.aspx?NewsID=9560000110531)

ขอจบแค่นี้ละกัน ที่เหลือรอเพื่อนแสดงความเห็นละกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่