4 อุปกรณ์ที่จะทำให้ท่านเที่ยวบางแสนได้อย่างสนุกสนาน
#นายอุ๊ย!!
เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ผมและญาติ ๆ ในตระกูลได้ไปเช็งเม้งที่จังหวัดชลบุรีครับ
หลังจากไหว้อากงอาม่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ไปนั่งเล่นกินลมกันต่อที่หาดบางแสน
โอ้โห คนเยอะมากกกกกกกกกก
ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างหลั่งไหลมาที่ชายหาดยอดนิยมที่ใกล้กรุงเทพมหานครที่สุดแห่งนี้
ผมมองลงไปในทะเล เห็นผู้คนหัวสีดำ ๆ ลอยอยู่เต็มไปหมด ยาวไปจนสุดหาด สุดลูกหูลูกตา
ในความคิดของผมเอง ผมรู้สึกเหมือนคนเหล่านี้กำลังลอยตัวเพื่อชดใช้กรรมอยู่ในกระทะทองแดงยังไงไม่รู้สิ (แต่ในกระทะทองแดงจริง ๆ คงไม่มี Banana Boat)
ผมซึ่งเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายอยู่แล้ว พอมาเจอผู้คนมากมายที่หาดบางแสนทั้งพ่อค้า แม่ค้า นักท่องเที่ยว โน่น นั่น นี่ เยอะขนาดนี้ ผมถึงกับแทบลมใส่
นอกจากนี้ ยังมีบางสิ่งบางอย่างบนชายหาดบางแสนที่ผมเห็นแล้วรู้สึกค่อนข้างขัดใจ ดังนั้นผมจึงคิดว่าเราน่าจะนำอุปกรณ์เสริมบางอย่างติดตัวไปด้วยเวลาไปเที่ยวหาดบางแสนเพื่อทำให้การท่องเที่ยวมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น
อุปกรณ์ที่ว่ามีดังต่อไปนี้
1. ตัวเซ็นเซอร์ + ลำโพง
เคยมั้ยครับเวลาที่นั่งเพลิน ๆ กำลังชมทัศนียภาพของหาดบางแสน มีเด็กตัวน้อย ๆ กำลังเล่นน้ำบนชายหาดสีดำ เอ้ย สีขาว มีสาวใส่บีกินนี่เดินผ่าน
แต่อยู่ ๆ ก็มีหญิงหรือชายแปลกหน้ามาทักว่า
"เอาข้าวเกรียบมั้ย"
"เอาหอยแมลงภู่มั้ย"
"เอามะม่วงมั้ย"
"เอาสายไหมมั้ย"
"เอากุ้งทอดมั้ย"
"เอาหวยมั้ย"
"เอาโน่นมั้ย"
"เอานี่มั้ย"
....................
โว้ย ไม่เอาโว้ย
พ่อค้าแม่ค้าขายของ Direct sale เหล่านี้ สร้างความรำคาญให้กับผมเป็นอย่างมาก เหมือนมีแมลงหวี่ตัวยักษ์มาบินวนเวียนบริเวณหู
ผมเข้าใจนะครับว่าทุกคนต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้อง แต่ผมมาพักผ่อนกันนะ ไม่ได้มาแข่งกินวิบาก เดี๋ยวผมหิวอะไรก็เดินไปซื้อเองแหละ ไม่ต้องเป็นห่วง
ครั้งนั้นก็มีพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้มาเสนอขายอะไรต่าง ๆ นานาให้กับผมและครอบครัว
บางคนเดินผ่านไปแล้วทีนึง ผมก็ตอบไปแล้วว่า "ไม่เอาครับ"
พอแกเดินสุดทางก็เดินวกย้อนกลับมาถามอีก "เอามั้ย ๆ"
เอ่อ เอาบ้านป้าแกดิ เพิ่งถามไปไม่ถึงสองสามวินาที วกกลับมาถามอีกแระว่าเอามั้ย ๆ
ที่ร้ายแรงสุดคือตอนที่ผมกำลังกินส้มตำอยู่ มีพ่อค้าขายโรตีเดินมาถามว่า "เอาโรตีมั้ย"
ถามเฉย ๆ ไม่พอครับ แกยื่นถุงโรตีมาไว้ระหว่างปากผมกับจานส้มตำ แล้วถือค้างไว้ ขอเน้นว่าถือค้างไว้
นึกอารมณ์คนกำลังตักเส้นมะละกอ แล้วมีถุงโรตีใหญ่ ๆ มีลมโป่ง ๆ อยู่ข้างในมากั้นกลางไว้
ไอ้บ้า เมิงไม่ต้อง present สินค้าขนาดนั้นก็ได้นะ
ยื่นใกล้ขนาดนี้ไม่จิ้มตาไปเลยล่ะ
ผมเลยต้องตอบคำว่า "ไม่เอาครับ" กับบุคคลเหล่านี้ไปหลายสิบครั้ง
ผมจึงเกิดไอเดียอยากแนะนำให้ทุกท่านที่กำลังมีแผนเดินทางไปเที่ยวที่หาดบางแสนเตรียมอุปกรณ์นี้ไปด้วย
โดยให้อัดเสียงไว้ คำว่า "ไม่เอาครับ" "ไม่เอาค่ะ" "ไม่เอาค่า" หรือถ้าเป็นไฮโซก็ให้อัดว่า "เดี๊ยนไม่เอาหรอกย่ะ" หรืออยากให้ดูอินเตอร์ก็ให้อัดว่า "No, thanks" แล้วต่อกับลำโพงเอาไว้
พอพวกพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้เดินมา ตัวเซ็นเซอร์ก็จะจับคลื่นความร้อนรังสีอินฟราเรดได้ (ดูไฮเทคมาก ๆ) ก็จะส่งเสียง "ไม่เอาครับ/ไม่เอาค่ะ" ออกทางลำโพง
เราก็แค่ทำปากงุบงิบเฉย ๆ
แค่นี้ก็ไม่มีใครมาขัดจังหวะการชมธรรมชาติของเราแล้ว
เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าผมมีไอเดียดีขนาดนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะอย่างเต็มภาคภูมิ)
2. เครื่องวัดพิกัด GPS
เคยมั้ยครับเวลาที่ข้ามถนนไปเข้าห้องน้ำอีกฝั่งนึง พอข้ามกลับมาก็เกิดอาการงง พร้อมกับมีคำถามขึ้นลึก ๆ ในใจว่า "เอ๊ะ เมื่อกี้ชั้นนั่งตรงไหนฟะ"
ทะเลเหมือน ๆ กัน หาดทรายเหมือน ๆ กัน เก้าอี้ผ้าใบเหมือน ๆ กัน ร่มกันแดดเหมือน ๆ กัน มีป้าขายปลาหมึกย่างเหมือน ๆ กัน
มันเหมือนกันไปหมดเลย แล้วจะเอาอะไรเป็นจุดสังเกตฟะเนี่ย
ผมหลงทางทุกครั้งเลยครับ จนไม่อยากข้ามไปฉี่ฝั่งโน้น เวลาปวดก็ไปฉี่ในทะเล ไม่ได้ซกมกนะครับ แต่ผมกลัวหลงจริง ๆ
บ้าดิ ผมล้อเล่นครับ
เพื่อแก้ปัญหาเดินหลงทาง ขอให้ทุกท่านนำเครื่อง GPS ติดตัวไปด้วย (พูดให้เท่ ๆ ไปงั้น เครื่อง GPS เป็นยังไงผมก็ไม่รู้เหมือนกัน) พอหย่อนก้นปุ๊บก็กดบอกพิกัดละติจูด ลองติจูดที่ตัวเครื่อง เวลาไปไหนมาไหนจะได้ไม่หลงไงครับ
แหม ฉลาดจริง ๆ
เมื่อวันนั้นน้องผมอายุ 6 ขวบก็เดินหลงทางเหมือนกันครับ ตามหากันให้วุ่นไปหมด
แต่แล้วก็มีพลเมืองดีเห็นน้องผมเดินหลงอยู่ เลยถามว่า "หลงทางใช่มั้ย" แล้วให้น้องผมบอกเบอร์พ่อ โทรให้ไปรับ ดีนะที่น้องผมจำเบอร์พ่อเค้าได้
ใครว่าสมัยนี้คนไทยไม่มีน้ำใจ ผมไม่เชื่อหรอกครับ คนไทยมีน้ำใจทุกคนแหละ เพียงแต่ว่าสมัยนี้เค้าไม่ค่อยแสดงออกกันก็เท่านั้น
ขอบคุณพลเมืองดีคนนั้น ไว้ว่าง ๆ เราไปทานข้าวกันนะครับ (ไม่เกี่ยวละ)
3. กังหันน้ำสร้างออกซิเจน
เคยมั้ยครับเวลาที่ลงไปเล่นน้ำที่ทะเลบางแสน พอก้มมองความสดใสของน้ำ แล้วเกิดความสงสัยว่า
"นี่มันน้ำทะเลหรือน้ำท่อไซเกา"
น้ำโคตรดำเลยครับ ผมนี่แทบไม่อยากเอาเท้าขาว ๆ ของผมลงไปโดนเลย กลัวจะเป็นผื่นขึ้น
แต่ต้องยอมรับว่าน้ำทะเลที่นี่สกปรกจริง ๆ มีทั้งน้ำทิ้งจากครัวเรือนเอย น้ำมันจากเรือเอย ขยะเอย ฉี่ของคนที่กลัวหลงทางเอย แค่ฉี่ก็ไม่ทราบว่ามีความเข้มข้นเท่าไรแล้ว วันนั้นยังมีคนเอาหมาไปขี้ในน้ำ เด็กแถวนั้นก็นะ โหย เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน เอามาดื่มกินกันบ้าง ผมเห็นแล้ว เอ่อ แบบว่านะ อะไรจะมั่วซั่วขนาดนั้น
ผมจึงมีความคิดที่ว่าอยากให้ทุกคนเอากังหันน้ำที่ใช้สร้างออกซิเจนไปคนละอันครับ
เวลาเราอยากดำน้ำตรงจุดไหนเราก็เปิดเครื่องซักห้านาที แล้วค่อยดำลงไป
อยากว่ายน้ำตรงจุดไหนก็เปิดเครื่องไว้
แค่นี้เอง ไม่เห็นจะง่ายเลย
เอ้ย!! ไม่เห็นจะยากเลย
ผมช่างมีความคิดที่ดีอะไรเช่นนี้เนี่ย
4. ภาพถ่ายทะเลสวยๆ
เคยมั้ยครับเวลาที่นั่งอยู่บนเตียงผ้าใบ แล้วมองออกไป แต่ไม่เห็นทะเลเลยแม้แต่น้อยจ้อยจิ๋ม
จะไปเห็นได้ยังไง แค่หญิงอ้วนที่กำลังซดส้มตำอยู่โต๊ะถัดไปก็บดบังทัศนียภาพแทบมิดแล้ว ยังจะมีพ่อค้าแม่ค้า Direct sale เดินไปมาให้ว่อน ศูนย์ให้เช่าห่วงยาง (แต่ถ้าใครอยากเช่าความห่วงใย สามารถติดต่อผมได้นะ) คนขายเครื่องบินโฟม เด็กๆ เล่นน้ำ เรือที่จอดอยู่พร้อมเรือกล้วย ฯลฯ
คือไม่สามารถมองเห็นทะเลได้ด้วยตาเปล่าว่างั้น
จะทำท่าชะเง้อชะโงกอยู่ตลอดเวลา ก็กระไรอยู่
ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ตัดปัญหา โดยการเอารูปถ่ายชายทะเลไปตั้งไว้ที่โต๊ะเลย
ไม่ต้องชะเง้อชะโงก ก็สามารถมองชายหาดสีขาวบนรูปถ่ายได้อย่างสบายใจ
ใครจะเอารูปถ่ายสาว ๆ นุ่งบีกินนี่มาเพิ่มอรรถรส ก็สามารถทำได้ ไม่ว่ากัน
อาจจะมีไอเดียเก๋ ๆ อย่างเช่น ถ้าไปถึงตอนเที่ยงก็ใช้รูปที่ถ่ายตอนแสงแดดแผดจ้า พอตกเย็นก็เปลี่ยนเป็นรูปชายหาดที่ท้องฟ้าสีแดง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศจริง ๆ
ล้ำเลิศ สุดยอดจริงๆ ความคิดผมเนี่ย
ใครที่มีแผนจะไปเที่ยวบางแสน อย่าลืมสี่ข้อที่ผมบอกนะครับ
เพียงเท่านี้การเที่ยวบางแสนก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หมายเหตุ กรุณาอย่าปฏิบัติตาม!!
Credit: นายอุ๊ย!!
*** ติดตามเรื่องราวสนุก ๆ ได้ที่เพจ นายอุ๊ย!! นะครับ -->
https://www.facebook.com/lovenaioui ***
4 อุปกรณ์ที่จะทำให้ท่านเที่ยวบางแสนได้อย่างสนุกสนาน
#นายอุ๊ย!!
เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ผมและญาติ ๆ ในตระกูลได้ไปเช็งเม้งที่จังหวัดชลบุรีครับ
หลังจากไหว้อากงอาม่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ไปนั่งเล่นกินลมกันต่อที่หาดบางแสน
โอ้โห คนเยอะมากกกกกกกกกก
ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างหลั่งไหลมาที่ชายหาดยอดนิยมที่ใกล้กรุงเทพมหานครที่สุดแห่งนี้
ผมมองลงไปในทะเล เห็นผู้คนหัวสีดำ ๆ ลอยอยู่เต็มไปหมด ยาวไปจนสุดหาด สุดลูกหูลูกตา
ในความคิดของผมเอง ผมรู้สึกเหมือนคนเหล่านี้กำลังลอยตัวเพื่อชดใช้กรรมอยู่ในกระทะทองแดงยังไงไม่รู้สิ (แต่ในกระทะทองแดงจริง ๆ คงไม่มี Banana Boat)
ผมซึ่งเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบความวุ่นวายอยู่แล้ว พอมาเจอผู้คนมากมายที่หาดบางแสนทั้งพ่อค้า แม่ค้า นักท่องเที่ยว โน่น นั่น นี่ เยอะขนาดนี้ ผมถึงกับแทบลมใส่
นอกจากนี้ ยังมีบางสิ่งบางอย่างบนชายหาดบางแสนที่ผมเห็นแล้วรู้สึกค่อนข้างขัดใจ ดังนั้นผมจึงคิดว่าเราน่าจะนำอุปกรณ์เสริมบางอย่างติดตัวไปด้วยเวลาไปเที่ยวหาดบางแสนเพื่อทำให้การท่องเที่ยวมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น
อุปกรณ์ที่ว่ามีดังต่อไปนี้
1. ตัวเซ็นเซอร์ + ลำโพง
เคยมั้ยครับเวลาที่นั่งเพลิน ๆ กำลังชมทัศนียภาพของหาดบางแสน มีเด็กตัวน้อย ๆ กำลังเล่นน้ำบนชายหาดสีดำ เอ้ย สีขาว มีสาวใส่บีกินนี่เดินผ่าน
แต่อยู่ ๆ ก็มีหญิงหรือชายแปลกหน้ามาทักว่า
"เอาข้าวเกรียบมั้ย"
"เอาหอยแมลงภู่มั้ย"
"เอามะม่วงมั้ย"
"เอาสายไหมมั้ย"
"เอากุ้งทอดมั้ย"
"เอาหวยมั้ย"
"เอาโน่นมั้ย"
"เอานี่มั้ย"
....................
โว้ย ไม่เอาโว้ย
พ่อค้าแม่ค้าขายของ Direct sale เหล่านี้ สร้างความรำคาญให้กับผมเป็นอย่างมาก เหมือนมีแมลงหวี่ตัวยักษ์มาบินวนเวียนบริเวณหู
ผมเข้าใจนะครับว่าทุกคนต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้อง แต่ผมมาพักผ่อนกันนะ ไม่ได้มาแข่งกินวิบาก เดี๋ยวผมหิวอะไรก็เดินไปซื้อเองแหละ ไม่ต้องเป็นห่วง
ครั้งนั้นก็มีพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้มาเสนอขายอะไรต่าง ๆ นานาให้กับผมและครอบครัว
บางคนเดินผ่านไปแล้วทีนึง ผมก็ตอบไปแล้วว่า "ไม่เอาครับ"
พอแกเดินสุดทางก็เดินวกย้อนกลับมาถามอีก "เอามั้ย ๆ"
เอ่อ เอาบ้านป้าแกดิ เพิ่งถามไปไม่ถึงสองสามวินาที วกกลับมาถามอีกแระว่าเอามั้ย ๆ
ที่ร้ายแรงสุดคือตอนที่ผมกำลังกินส้มตำอยู่ มีพ่อค้าขายโรตีเดินมาถามว่า "เอาโรตีมั้ย"
ถามเฉย ๆ ไม่พอครับ แกยื่นถุงโรตีมาไว้ระหว่างปากผมกับจานส้มตำ แล้วถือค้างไว้ ขอเน้นว่าถือค้างไว้
นึกอารมณ์คนกำลังตักเส้นมะละกอ แล้วมีถุงโรตีใหญ่ ๆ มีลมโป่ง ๆ อยู่ข้างในมากั้นกลางไว้
ไอ้บ้า เมิงไม่ต้อง present สินค้าขนาดนั้นก็ได้นะ
ยื่นใกล้ขนาดนี้ไม่จิ้มตาไปเลยล่ะ
ผมเลยต้องตอบคำว่า "ไม่เอาครับ" กับบุคคลเหล่านี้ไปหลายสิบครั้ง
ผมจึงเกิดไอเดียอยากแนะนำให้ทุกท่านที่กำลังมีแผนเดินทางไปเที่ยวที่หาดบางแสนเตรียมอุปกรณ์นี้ไปด้วย
โดยให้อัดเสียงไว้ คำว่า "ไม่เอาครับ" "ไม่เอาค่ะ" "ไม่เอาค่า" หรือถ้าเป็นไฮโซก็ให้อัดว่า "เดี๊ยนไม่เอาหรอกย่ะ" หรืออยากให้ดูอินเตอร์ก็ให้อัดว่า "No, thanks" แล้วต่อกับลำโพงเอาไว้
พอพวกพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้เดินมา ตัวเซ็นเซอร์ก็จะจับคลื่นความร้อนรังสีอินฟราเรดได้ (ดูไฮเทคมาก ๆ) ก็จะส่งเสียง "ไม่เอาครับ/ไม่เอาค่ะ" ออกทางลำโพง
เราก็แค่ทำปากงุบงิบเฉย ๆ
แค่นี้ก็ไม่มีใครมาขัดจังหวะการชมธรรมชาติของเราแล้ว
เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าผมมีไอเดียดีขนาดนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะอย่างเต็มภาคภูมิ)
2. เครื่องวัดพิกัด GPS
เคยมั้ยครับเวลาที่ข้ามถนนไปเข้าห้องน้ำอีกฝั่งนึง พอข้ามกลับมาก็เกิดอาการงง พร้อมกับมีคำถามขึ้นลึก ๆ ในใจว่า "เอ๊ะ เมื่อกี้ชั้นนั่งตรงไหนฟะ"
ทะเลเหมือน ๆ กัน หาดทรายเหมือน ๆ กัน เก้าอี้ผ้าใบเหมือน ๆ กัน ร่มกันแดดเหมือน ๆ กัน มีป้าขายปลาหมึกย่างเหมือน ๆ กัน
มันเหมือนกันไปหมดเลย แล้วจะเอาอะไรเป็นจุดสังเกตฟะเนี่ย
ผมหลงทางทุกครั้งเลยครับ จนไม่อยากข้ามไปฉี่ฝั่งโน้น เวลาปวดก็ไปฉี่ในทะเล ไม่ได้ซกมกนะครับ แต่ผมกลัวหลงจริง ๆ
บ้าดิ ผมล้อเล่นครับ
เพื่อแก้ปัญหาเดินหลงทาง ขอให้ทุกท่านนำเครื่อง GPS ติดตัวไปด้วย (พูดให้เท่ ๆ ไปงั้น เครื่อง GPS เป็นยังไงผมก็ไม่รู้เหมือนกัน) พอหย่อนก้นปุ๊บก็กดบอกพิกัดละติจูด ลองติจูดที่ตัวเครื่อง เวลาไปไหนมาไหนจะได้ไม่หลงไงครับ
แหม ฉลาดจริง ๆ
เมื่อวันนั้นน้องผมอายุ 6 ขวบก็เดินหลงทางเหมือนกันครับ ตามหากันให้วุ่นไปหมด
แต่แล้วก็มีพลเมืองดีเห็นน้องผมเดินหลงอยู่ เลยถามว่า "หลงทางใช่มั้ย" แล้วให้น้องผมบอกเบอร์พ่อ โทรให้ไปรับ ดีนะที่น้องผมจำเบอร์พ่อเค้าได้
ใครว่าสมัยนี้คนไทยไม่มีน้ำใจ ผมไม่เชื่อหรอกครับ คนไทยมีน้ำใจทุกคนแหละ เพียงแต่ว่าสมัยนี้เค้าไม่ค่อยแสดงออกกันก็เท่านั้น
ขอบคุณพลเมืองดีคนนั้น ไว้ว่าง ๆ เราไปทานข้าวกันนะครับ (ไม่เกี่ยวละ)
3. กังหันน้ำสร้างออกซิเจน
เคยมั้ยครับเวลาที่ลงไปเล่นน้ำที่ทะเลบางแสน พอก้มมองความสดใสของน้ำ แล้วเกิดความสงสัยว่า
"นี่มันน้ำทะเลหรือน้ำท่อไซเกา"
น้ำโคตรดำเลยครับ ผมนี่แทบไม่อยากเอาเท้าขาว ๆ ของผมลงไปโดนเลย กลัวจะเป็นผื่นขึ้น
แต่ต้องยอมรับว่าน้ำทะเลที่นี่สกปรกจริง ๆ มีทั้งน้ำทิ้งจากครัวเรือนเอย น้ำมันจากเรือเอย ขยะเอย ฉี่ของคนที่กลัวหลงทางเอย แค่ฉี่ก็ไม่ทราบว่ามีความเข้มข้นเท่าไรแล้ว วันนั้นยังมีคนเอาหมาไปขี้ในน้ำ เด็กแถวนั้นก็นะ โหย เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน เอามาดื่มกินกันบ้าง ผมเห็นแล้ว เอ่อ แบบว่านะ อะไรจะมั่วซั่วขนาดนั้น
ผมจึงมีความคิดที่ว่าอยากให้ทุกคนเอากังหันน้ำที่ใช้สร้างออกซิเจนไปคนละอันครับ
เวลาเราอยากดำน้ำตรงจุดไหนเราก็เปิดเครื่องซักห้านาที แล้วค่อยดำลงไป
อยากว่ายน้ำตรงจุดไหนก็เปิดเครื่องไว้
แค่นี้เอง ไม่เห็นจะง่ายเลย
เอ้ย!! ไม่เห็นจะยากเลย
ผมช่างมีความคิดที่ดีอะไรเช่นนี้เนี่ย
4. ภาพถ่ายทะเลสวยๆ
เคยมั้ยครับเวลาที่นั่งอยู่บนเตียงผ้าใบ แล้วมองออกไป แต่ไม่เห็นทะเลเลยแม้แต่น้อยจ้อยจิ๋ม
จะไปเห็นได้ยังไง แค่หญิงอ้วนที่กำลังซดส้มตำอยู่โต๊ะถัดไปก็บดบังทัศนียภาพแทบมิดแล้ว ยังจะมีพ่อค้าแม่ค้า Direct sale เดินไปมาให้ว่อน ศูนย์ให้เช่าห่วงยาง (แต่ถ้าใครอยากเช่าความห่วงใย สามารถติดต่อผมได้นะ) คนขายเครื่องบินโฟม เด็กๆ เล่นน้ำ เรือที่จอดอยู่พร้อมเรือกล้วย ฯลฯ
คือไม่สามารถมองเห็นทะเลได้ด้วยตาเปล่าว่างั้น
จะทำท่าชะเง้อชะโงกอยู่ตลอดเวลา ก็กระไรอยู่
ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ตัดปัญหา โดยการเอารูปถ่ายชายทะเลไปตั้งไว้ที่โต๊ะเลย
ไม่ต้องชะเง้อชะโงก ก็สามารถมองชายหาดสีขาวบนรูปถ่ายได้อย่างสบายใจ
ใครจะเอารูปถ่ายสาว ๆ นุ่งบีกินนี่มาเพิ่มอรรถรส ก็สามารถทำได้ ไม่ว่ากัน
อาจจะมีไอเดียเก๋ ๆ อย่างเช่น ถ้าไปถึงตอนเที่ยงก็ใช้รูปที่ถ่ายตอนแสงแดดแผดจ้า พอตกเย็นก็เปลี่ยนเป็นรูปชายหาดที่ท้องฟ้าสีแดง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศจริง ๆ
ล้ำเลิศ สุดยอดจริงๆ ความคิดผมเนี่ย
ใครที่มีแผนจะไปเที่ยวบางแสน อย่าลืมสี่ข้อที่ผมบอกนะครับ
เพียงเท่านี้การเที่ยวบางแสนก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หมายเหตุ กรุณาอย่าปฏิบัติตาม!!
Credit: นายอุ๊ย!!
*** ติดตามเรื่องราวสนุก ๆ ได้ที่เพจ นายอุ๊ย!! นะครับ --> https://www.facebook.com/lovenaioui ***