เล่าจากความเป็นจริงครับเพื่อให้ท่านอื่นๆเตือนสติตัวเองและบริหารเวลาจัดการตัวเองให้ดีครับ
กลางดึกที่ผ่านมาผมเวียนหัวมาก ตื่นขึ้นมาอาเจียนเป็นเมือกเขียวๆ มีกลิ่นแรงออกมา ตอนแรกคิดจริงๆว่าตัวเอง สำออย
ก็เลยใช้วิธีคิดว่าเมื่อก่อนทำได้ คือ อัดทานน้ำอัดลมเข้าไปและทานคุกกี้
ผลคือ คราวนี้หนักกกว่าเดิมในอีก 1 ชม.ถัดมา
คราวนี้อาเจียนหนัก และเวียนหัว จนขนาดว่าเดินทางจากชั้นสอง มาที่ รถเพื่อจะขับไปโรงพยาบาลหรือคลนิกที่อยู่ใกล้บ้านไม่ไหว
จนต้องเรียก แพทย์ที่ตรวจประจำให้มารับและไปตรวจที่โรงพยาบาลในตัวเมือง
อย่างละเอียดดู เพราะว่า ผมไม่ค่อยไว้ใจกับอาการตัวเองแล้ว
ผลคือ หลังการตรวจพบ อาการบีบตัวของทางเดินอาหาร ซึ่งมีสาเหตุมาจากความเครียด
การกินการนอนที่ไม่ตรงเวลา
ร่างกายผมอายุ 30+กว่า แต่แพทย์ลงความเห็นว่า ตัดเรื่องร่างกายภายนอกและความดื้อหัวรั้นออกไป
เอาละครับ มันก็เป็นดรรชนีชี้วัดว่า ร่างกายผมทำงานหนักกว่าอายุไปมากๆ
หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป มันจะมีอะไรที่แย่กว่านี้มากๆ
ส่วนหนึ่งที่เกิดอย่างนี้ขึ้น คงเกิดจาก ปมในใจผมเอง ตอนเด็กผมเป็นเด็กที่มีพัฒนาการด้านการอ่านและการพูดค่อนข้างช้ากว่าเด็กปกติ
ตอนโดจริงๆก็ยังไม่หายนะครับ ผมก็เลยต้องพยายามมากกว่าปกติ
แล้วยิ่งต้องทำงานเกี่ยวกับการพูดเจรจาและเสนองานของตัวเองด้วยแล้วยิ่งต้องทำให้ดีที่สุด
ไม่ได้มีความรู้ด้านการแพทย์อะไรมาแชร์ครับ
แต่เล่าเพราะว่า เป็นกระจกสะท้อนให้กับคนที่คล้ายๆ ผมพวกที่มุ่งมุ่นมาก พวกที่คิดว่า ความแข็งแรง และจิตใจแข็งแกร่งเอาชนะทุกอย่างได้
แต่เราก็เอาชนะธรรมชาติไม่ได้
จากนี้ไม่ใช่ว่าผมจะเบาหยุดทำงานไปเลย
ไม่ใช่ เพียงแต่จะทำให้มันเหมาะและมีประสิทธิภาพมากขึ้นให้ได้ครับ
ณ ขณะที่พิมพ์อยู่นี้กลับมาถึงบ้านและยังเวียนๆหัวอยู่เลยครับ
คิดว่าวันนี้คงไม่หยุดงาน แต่จะรีบทำให้ตัวเองกลับสู่สภาพปกติให้ดีที่สุด
เพราะว่า เงินสมัยนี้หายากขึ้น ไม่ได้หาง่ายๆเหมือนเมื่อหลายปี จากประสบการณ์ผม
และยิ่งมีคนให้เกียรติอยากทำงานกับเรา เรายิ่งต้องทำให้ดีที่สุด
ใครมีประสบการณ์เป็นคล้ายๆผม หรือ ปรับตัวอย่างไร แนะนำหรือแชร์ประสบการณ์ได้นะครับ
ขออภัยหากพิมพ์ยาวหรือได้สาระน้อยกว่าที่ควรเป็นนะครับ
ขอบพระคุณมากครับ
แท็ก เรื่องโภชนาการ กับ office syndrome คิดว่าน่าจะตรงกับที่เป็นอยู่ครับ
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ
เพิ่งรู้ว่าความเครียดและการนอนพักผ่อนไม่เป็นเวลาร่างกายจะส่งผลเสียได้ขนาดนี้ แชร์ประสบการณ์ครับ
กลางดึกที่ผ่านมาผมเวียนหัวมาก ตื่นขึ้นมาอาเจียนเป็นเมือกเขียวๆ มีกลิ่นแรงออกมา ตอนแรกคิดจริงๆว่าตัวเอง สำออย
ก็เลยใช้วิธีคิดว่าเมื่อก่อนทำได้ คือ อัดทานน้ำอัดลมเข้าไปและทานคุกกี้
ผลคือ คราวนี้หนักกกว่าเดิมในอีก 1 ชม.ถัดมา
คราวนี้อาเจียนหนัก และเวียนหัว จนขนาดว่าเดินทางจากชั้นสอง มาที่ รถเพื่อจะขับไปโรงพยาบาลหรือคลนิกที่อยู่ใกล้บ้านไม่ไหว
จนต้องเรียก แพทย์ที่ตรวจประจำให้มารับและไปตรวจที่โรงพยาบาลในตัวเมือง
อย่างละเอียดดู เพราะว่า ผมไม่ค่อยไว้ใจกับอาการตัวเองแล้ว
ผลคือ หลังการตรวจพบ อาการบีบตัวของทางเดินอาหาร ซึ่งมีสาเหตุมาจากความเครียด
การกินการนอนที่ไม่ตรงเวลา
ร่างกายผมอายุ 30+กว่า แต่แพทย์ลงความเห็นว่า ตัดเรื่องร่างกายภายนอกและความดื้อหัวรั้นออกไป
เอาละครับ มันก็เป็นดรรชนีชี้วัดว่า ร่างกายผมทำงานหนักกว่าอายุไปมากๆ
หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป มันจะมีอะไรที่แย่กว่านี้มากๆ
ส่วนหนึ่งที่เกิดอย่างนี้ขึ้น คงเกิดจาก ปมในใจผมเอง ตอนเด็กผมเป็นเด็กที่มีพัฒนาการด้านการอ่านและการพูดค่อนข้างช้ากว่าเด็กปกติ
ตอนโดจริงๆก็ยังไม่หายนะครับ ผมก็เลยต้องพยายามมากกว่าปกติ
แล้วยิ่งต้องทำงานเกี่ยวกับการพูดเจรจาและเสนองานของตัวเองด้วยแล้วยิ่งต้องทำให้ดีที่สุด
ไม่ได้มีความรู้ด้านการแพทย์อะไรมาแชร์ครับ
แต่เล่าเพราะว่า เป็นกระจกสะท้อนให้กับคนที่คล้ายๆ ผมพวกที่มุ่งมุ่นมาก พวกที่คิดว่า ความแข็งแรง และจิตใจแข็งแกร่งเอาชนะทุกอย่างได้
แต่เราก็เอาชนะธรรมชาติไม่ได้
จากนี้ไม่ใช่ว่าผมจะเบาหยุดทำงานไปเลย
ไม่ใช่ เพียงแต่จะทำให้มันเหมาะและมีประสิทธิภาพมากขึ้นให้ได้ครับ
ณ ขณะที่พิมพ์อยู่นี้กลับมาถึงบ้านและยังเวียนๆหัวอยู่เลยครับ
คิดว่าวันนี้คงไม่หยุดงาน แต่จะรีบทำให้ตัวเองกลับสู่สภาพปกติให้ดีที่สุด
เพราะว่า เงินสมัยนี้หายากขึ้น ไม่ได้หาง่ายๆเหมือนเมื่อหลายปี จากประสบการณ์ผม
และยิ่งมีคนให้เกียรติอยากทำงานกับเรา เรายิ่งต้องทำให้ดีที่สุด
ใครมีประสบการณ์เป็นคล้ายๆผม หรือ ปรับตัวอย่างไร แนะนำหรือแชร์ประสบการณ์ได้นะครับ
ขออภัยหากพิมพ์ยาวหรือได้สาระน้อยกว่าที่ควรเป็นนะครับ
ขอบพระคุณมากครับ
แท็ก เรื่องโภชนาการ กับ office syndrome คิดว่าน่าจะตรงกับที่เป็นอยู่ครับ
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ