นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) เปิดเผยว่าบริษัทฯ จะเปิดขายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) ขนาดกองทุน 6,300-6,600 ล้านบาท ซึ่งได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต. )แล้ว ราคาเสนอขายเบื้องต้นอยู่ที่ 10.50-11.00 บาทต่อหน่วย เปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อวันที่ 9-13 กันยายน 2556
สาเหตุที่ ตัดสินใจระดมทุนผ่าน ABPIFเนื่องจากความต้องการไฟฟ้าที่มีสูงขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม บริษัทในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กจึงเห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการที่จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 2558
บริษัทฯ จึงวางแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าทั้งหมด 16 โรง ภายในปี พ.ศ. 2562 ทำให้กำลังการผลิตรวมของกลุ่มเป็น 2,000 เมกะวัตต์ โดยจะใช้เงินลงทุน 70,000 ล้านบาท บริษัทฯ จึงตัดสินใจระดมทุนส่วนหนึ่งผ่านABPIF ซึ่งครั้งนี้คาดว่าจะสร้างโรงไฟฟ้าได้ 2-3 โรง
นายสุรเดช เกียรติธนากร ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าธนาคารเชื่อมั่นในศักยภาพของอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ที่จะสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับABPIF เพราะอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 และ 2 เป็น 2 โรงไฟฟ้าหลักที่มีสัญญาระยะยาวในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร นอกจากนี้ยังมีอัตราการเติบโตของรายได้จากการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้ารวมทั้งไอน้ำจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ
สำหรับผลตอบแทนของนักลงทุนนั้นจะจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้งปีแรกจะได้คืน 15.5 % เป็นผลตอบแทนดอกเบี้ย 7.2 7.5% และคืนเงินลงทุน 8% และมีการยกเว้นภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับบุคคลธรรมดา
กองทุน ABPIF น่าสนใจไหมครับ
สาเหตุที่ ตัดสินใจระดมทุนผ่าน ABPIFเนื่องจากความต้องการไฟฟ้าที่มีสูงขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม บริษัทในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กจึงเห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการที่จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 2558
บริษัทฯ จึงวางแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าทั้งหมด 16 โรง ภายในปี พ.ศ. 2562 ทำให้กำลังการผลิตรวมของกลุ่มเป็น 2,000 เมกะวัตต์ โดยจะใช้เงินลงทุน 70,000 ล้านบาท บริษัทฯ จึงตัดสินใจระดมทุนส่วนหนึ่งผ่านABPIF ซึ่งครั้งนี้คาดว่าจะสร้างโรงไฟฟ้าได้ 2-3 โรง
นายสุรเดช เกียรติธนากร ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าธนาคารเชื่อมั่นในศักยภาพของอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ที่จะสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับABPIF เพราะอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 และ 2 เป็น 2 โรงไฟฟ้าหลักที่มีสัญญาระยะยาวในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร นอกจากนี้ยังมีอัตราการเติบโตของรายได้จากการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้ารวมทั้งไอน้ำจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ
สำหรับผลตอบแทนของนักลงทุนนั้นจะจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้งปีแรกจะได้คืน 15.5 % เป็นผลตอบแทนดอกเบี้ย 7.2 7.5% และคืนเงินลงทุน 8% และมีการยกเว้นภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับบุคคลธรรมดา