- สวัสดีครับ ลุงป้าน้าอา พี่น้องและผองเพื่อน ที่อยู่ในห้องก้นครัว และท่านที่เข้ามาแวะที่เว็ปบอร์ดพันทิพทุกท่าน วันนี้ผมมีรีวิวทริปที่ผมได้พาลูกและภรรยา กับพ่อแม่ของผม เดินทางไปพักผ่อนที่สวนผึ้ง เมื่อวันที่ 1 – 2 ก.ย.56 ที่ผ่านมานี้ (จองห้องได้วันอาทิตย์กับวันจันทร์ เลยต้องลางานไป 1 วัน) ซึ่งสาเหตุของการไปในครั้งนี้เพราะว่าภรรยาของผมได้ซื้อ Voucher ของ La Toscana resort (สวนผึ้ง) ที่งานท่องเที่ยวทั่วไทยที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต ไว้ตั้งแต่ปี 54 (ตอนนั้นลูกผมยังไม่คลอดเลย 555) ซื้อทิ้งเอาไว้ตั้งนานก็ยังไม่ได้ไปสักทีจนต้องไปให้เขาต่ออายุ Voucher ให้เมื่อปีที่แล้ว จนจะครบกำหนดอีกครั้งแล้ว ภรรยาผมเลยต้องหาทางไปให้ได้ก่อนที่อายุของ Voucher จะหมดซะก่อน นั้นจึงเป็นที่มาของทริปนี้ครับ ซึ่งก็ค่อนข้างจะฉุกละหุกกันทีเดียว
- Voucher ของผมที่ได้มานั้นซื้อมาในราคาประมาณ 2,900 บาท (แก้ไขราคาแล้วครับ) ซื้อมา 2 ใบ สามารถจองห้องใดก็ได้ที่ว่าง (ที่จริงเรียกเป็นหลังดีกว่าครับ เดี๋ยวจะทราบว่าทำไมเป็นหลัง) โดยครั้งนี้ผมเลือก นอน 1 คืนในราคาห้องละ 2,900 บาทต่อห้อง โดยผมได้เป็นห้อง Suit ที่ราคาปกติ 6750 บาท (แพงที่สุดและหลังใหญ่ที่สุด) ชื่อว่า Artista ซึ่งมีอ่างจากุชซี่ แบบ Open ไว้ให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศด้วยครับ ส่วนอีกห้องที่จองได้นั้นเป็นแบบ Honey moon ชื่อว่า Vino ซึ่งจะเล็กกว่าหน่อยครับ ราคาปกติประมาณ 4,000 - 5,000 บาท (แก้ไข Voucher ในส่วนนี้นะครับ) ซึ่งพ่อกับแม่ผมท่านนอนที่หลังนี้ครับ
ปล. ใน Voucher นั้นแนะนำว่าควรจะจองล่วงหน้า 3 วัน และจะให้ดีควรมาในวันที่ไม่ใช่วันหยุด จึงทำให้ได้ห้องดีแบบนี้ ถ้าเป็นวันหยุดส่วนใหญ่จะเต็มครับเลยต้องยอมลางาน 1 วัน เพื่อการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งทริปนี้รวมๆแล้วสรุปคร่าวๆก็ 3 Fin กับอีก 1 Fail ครับ ซึ่งอันไหน Fin อันไหน Fail เรามาติดตามกันครับ
- ในรีวิวในครั้งนี้ผมจะลงรูปสถานที่ตามลำดับที่ได้สัมผัสมานะครับ ซึ่งพอรู้ว่าจะมาสวนผึ้ง ผมและภรรยาก็ทำการหาข้อมูลสถานที่ กิน & เที่ยว ในอาจารย์กู๋ กันครับ ซึ่งร้านอาหารที่เด้งขึ้นมาบ่อยที่สุด เยอะที่สุดนั้นก็คือ “ร้านอาหารครัวม่อนไข่” เมื่อมาดูแผนที่ระหว่างที่พักกับร้านอาหารแล้วเห็นว่าอยู่ใกล้ๆกันมาก ร้านครัวม่อนไข่ จะถึงก่อนที่พักประมาณ 1 กิโลเมตร ผมเลยวางแผนที่จะแวะทานอาหารกันก่อนที่ร้านนี้ครับ เพราะฉะนั้นเรามาดู Episode I ของรีวิวนี้กันครับ “ร้านอาหารครัวม่อนไข่”
- Episode 1 “ร้านอาหารครัวม่อนไข่” เป็นร้านอาหารขึ้นชื่อ ที่เด้งมาในอากู๋มากที่สุดในคำแนะนำสถานที่กินที่สวนผิ้ง จังหวัดราชบุรี ชื่อม่อนไข่รู้สึกว่าเป็นชื่อของกล้วยไม้พันธุ์หนึ่งที่เจ้าของร้านชอบมากเลยเอามาตั้งเป็นชื่อร้าน แต่เราไม่ได้ทานกล้วยไม้ เรามาทานอาหาร เพราะฉะนั้นท่านใดสนใจประวัติร้านขอเชิญค้นหาได้ที่อากู๋ครับ ส่วนสาวกในการทานเชิญติดตามต่อเลยครับ (มีรีวิวเก่าๆในพันทิฟเยอะพอสมควรครับ รีวิวของผมนี้ถือว่าเป็นการ Update รีวิวร้านนี้ก็แล้วกันครับ)
- เดินทางออกจากบ้านประมาณ 1100 น. ใช้เส้นทาง บรมราชชนนี – นครปฐม – ราชบุรี – สวนผึ้ง ครับวิ่งตามป้ายที่เขาบอกไว้โดยยึดที่หมายเอาไว้คือ “สวนผึ้ง” ยังไงก็ไม่หลง ซึ่งพอเข้าสวนผึงแล้วก็จะเริ่มมีป้ายบอกทางไปร้านอาหารและรีสอร์ท ต่างๆ เพราะฉะนั้นไม่น่าจะหลงแน่ๆ ไปถึงร้านประมาณบ่ายโมงกว่าๆเห็นจะได้ บรรยากาศร้านตกแต่งในแนวที่เรียกว่าอะไรก็ไม่ทราบได้แต่ว่าร้านก็กว้างดีครับ รู้สึกว่าจะมีชั้น 2 ด้วยครับ ร้านมีสีสันสวยดีครับและมีทั้ง Outdoor และ indoor ด้วยครับ มีโต๊ะตั้งมากมาย วันที่ผมไปเป็นวันอาทิตย์แล้ว เพราะฉะนั้นก็จะมีแขกที่ไปทานอยู่จำนวนหนึ่งแต่ก็ไม่ถึงกับแน่นจนหาที่นั่งไม่ได้ สบายๆครับ
- เมื่อไปถึงแล้วก็จะมีน้องเอาเมนูมาให้ ขอชมเชยน้องๆที่บริการในร้านนี้ครับ เอาใจใส่ลูกค้าดีครับ ถึงแม้ว่าการสื่อสารอาจจะผิดพลาดไปบ้างแต่ก็แก้ปัญหาได้ดีพอสมควรครับ เห็นหน้าน้องๆตอนแรกเหมือนจะมึนๆ เลยกลัวว่าจะเป็นแบบร้านอาหารชื่อดังร้านอื่นที่ไม่ง้อลูกค้า แต่ผิดคาดครับ เรียกปุ๊บมาปั๊ป อันนี้ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่นี่อย่างหนึ่งเลยครับ มาดูเมนูกัน อาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ “ยำผักกูด” กับ “ทอดมันหัวปลี” ครับ
- แขกท่านอื่นที่มาทานกันครับ โต๊ะใหญ่และเยอะทีเดียว เห็นภรรยาผมบอกว่ารับทัวร์ด้วย เลยเลือกเวลาที่มาถึงเป็นช่วงบ่ายครับ คนเลยไม่มากกำลังสบายๆ แต่พอสักครู่แขกก็เริ่มซาลงครับ อ้อ อาหารที่นี่รสชาติค่อนข้างจัดนะครับ เผ็ดเป็นเผ็ด เปรี้ยวเป็นเปรี้ยว
- มาดูอาหารที่สั่งในวันนี้เลยนะครับ ปลาทับทิมทอดราดพริก (แต่ขอแยกน้ำราดเพราะว่าให้ลูกสาวทานด้วยครับ) ตัวใหญ่มาก ทอดร้อนๆ ตอนแรกน้องไม่เอาน้ำราดมาให้ เกิดจากความผิดพลาดในการจดออเดอร์ แต่ก็แก้ไขได้อย่างรวดเร็วครับ (ฮาตรงที่น้องอีกคนบอกว่าใครจดออเดอร์ พอบอกไปน้องเขาบอกว่า “อีกแล้วเหรอ” แล้วก็บ่น บลาๆๆๆๆๆ ตลกดีครับ แต่ไม่ได้โทษน้องเขานะครับ คนเราผิดกันได้และแก้ไขได้ดีเลยเจ๊ากันไป)
- มาแล้ว “ยำผักกูด” Signature ของที่นี่ รสจัดมากได้ใจภรรยาผมผู้ที่ชอบรสเปรี้ยว เป็นที่สุด รสชาติจะออกเปรี้ยว เค็ม หวาน พริกเขาจะซอยมานะครับไม่ได้ตำมา ส่วนผักกูดนั้นกรอบดีครับ ใส่กุ้งตัวค่อนข้างโต ปลาหมึก และหมูสับ อร่อยจนทำให้ต้องสั่งเพิ่มมาอีก 1 จาน ตั้งแต่ข้าวยังไม่มาครับ
- เมนูต่อไปก็เป็น “พะแนงรวมมิตรห่อไข่” เป็นไข่ยัดไส้แกงพะแนงที่ใส่หมู, กุ้ง และปลาหมึก ครับ รสชาติจะออกหวานๆ เค็มๆ และเผ็ดพอสมควร
- “ต้มยำปลาคัง” ร้านนี้ให้เนื้อมาแบบไม่กลัวเจ๊งเลยครับ ชิ้นใหญ่มาก มีทั้งเนื้อและส่วนหัว เยอะจริงๆถ้าเทียบกับราคา และถ้าอยู่ กทม. คงหาร้านที่ไหนให้เยอะแบบนี้แทบจะไม่ได้แน่ๆ
- นี่ก็เป็นหนึ่งในอาหารแนะนำที่นี่ครับ “ทอดมันหัวปลี” ทานดูแล้วเป็นอารมณ์ทอดมันจริงๆครับ คือมีกลิ่นของเครื่องแกงทอดมัน ไม่ใช่หัวปลีชุบแป้งทอดเฉยๆ เมนูนี้ก็จัดไป 2 จานครับ น้ำจิ้มจะคล้ายๆน้ำจิ้มเต้าหู้ทอดอ่ะครับ ประมาณน้ำมะขามเปียกเหนียวๆข้นๆ ใส่ถั่วป่น และพริกป่น (เผ็ดใช้ได้เลยครับ)
- ตอนแรกจะสั่งข้าวสวยมาทานกับอาหารที่สั่งไป แต่ที่นี่แนะนำ “ข้าวผัดขมิ้น” ครับ แนะนำมาก็จัดไป อารมณ์ก็ประมาณทานข้าวหมกต่างๆ ดีครับแปลกไปอีกแบบ ตอนนี้ก็มีเรื่องขำๆครับ คือเราสั่งเอาข้าวผัดขมิ้น 1 โถ และข้าวเปล่าให้ลูกสาว 1 จาน ผลปรากฏน้องเอาข้าวสวยมาให้ 1 โถ ข้าวผัด 1 จาน เรียกน้องอีกคนมาแก้ไขให้แกบ่นอีกแล้ว (“คนนี้อีกแล้ว ประจำเลย ไม่เคยจำ บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เราก็ขำๆและน้องก็เอาไปเปลี่ยนเร็วดีครับ) อีกรูปเราก็มาดูทอดมันหัวปลีใกล้ๆ กันครับ
- ค่าเสียหายครับ อาหารที่สั่งไปมี ยำผุกกูด 2, ทอดมันหัวปลี 2, พะแนงรวมมิตรห่อไข่ 1, ต้มยำปลาคัง 1, ปลาทับทิมราดพริก (แยกน้ำราด) 1 ข้าวผัดขมิ้น 1 โถ และข้าวเปล่า 1 จาน กับข้าว 7 อย่าง 1020 บาท ราคาถูกมากถ้าเทียบกับปริมาณ, แหล่งที่ตั้งสถานท่องเที่ยว, การบริการที่ได้รับ ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเป็นร้านแนะนำเด้งขึ้นที่อากู๋เยอะมากในสวนผึ้ง จว.ราชบุรี แห่งนี้ ไม่ผิดหวังเลยครับที่ได้มา ซึ่งผลจากความประทับใจทำให้ขากลับตอนเที่ยงภรรยาผมก็ให้แวะมาทานอีก 1 ครั้ง ก่อนกลับครับ โดยมีการสั่งอาหารมาเพิ่มจากที่รีวิวก็คือ “ผัดเห็ดโคนญี่ปุ่นน้ำมันหอย” ครับ อร่อยในราคา 80 บาท (ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูปตอนแวะทานขากลับให้ดูเพราะว่าเมนูเหมือนกันครับ) ถือว่าประทับใจยันขากลับเลยทีเดียว (แต่ก็ยังมีเสริฟ์สลับเหมือนเดิมข้าวผัดโถเป็นข้าวขาวโถ แต่ก็แก้ไขให้เร็วเหมือนเดิม ขำอีกและ 555) สังเกตุจากลูกสาวที่อารมณ์ดีตลอดครับ อ้อ ลืมความประทับใจอีกอย่างครับก็คืออาหารออกเร็วมาก แต่ละอย่างไม่เกิน 5 – 10 นาทีก็ได้แล้ว ยกเว้นทอดมันที่นานกว่าเพื่อนแต่ก็ไม่นานมาก เป็นร้านที่มาทานตามรีวิวเก่าๆแล้วไม่ผิดหวังครับ และจะกลับไปทานอีกแน่นอนเมื่อได้มีโอกาสไปครั้งหน้า น่าเสียดายที่ครั้งนี้ผมเป็นร้อนในที่ปากเลยรับรสชาติเผ็ดไม่ค่อยได้เต็มที่ แต่นี่ก็เป็น Fin แรกที่ได้เจอในทริปนี้ครับ ท่านๆ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ Episod ต่อไปจะเข้าที่พักแล้วครับ อิอิอิ
ปล. ขอแท็กห้องเพิ่มจากปกติที่เป็นห้องก้นครัวอย่างเดียว ดังนี้
1. ห้องกล้อง – Canon : เพราะว่าภาพถ่ายครั้งนี้ได้มาจากกล้อง Canon power shot sx20 is ซึ่งนานๆจะใช้ทีนึง ซึ่งฝีมือการถ่ายภาพไม่ต้องพูดถึง งูๆปลาๆ มาก เลยอยากฟังคำวิจารณ์ของนักถ่ายภาพมืออาชีพด้วยครับ
2. ห้องบลูแพนเน็ต : เพราะว่าเป็นทริปท่องเที่ยว ที่น่าเอามาแชร์กันครับ
แก้ไขล่าสุด :
ครั้งที่ 1 วันที่ 4 ก.ย.56 : ตาม ปล. สงสัยแอดมินแก้แทคให้แล้วใส่แทคที่เหมาะสมให้แล้วนะครับ เลยไม่ได้อยู่ในห้องกล้องครับ อิอิอิ
ครั้งที่ 2 วันที่ 5 ก.ย.56 : แก้ไขรายละเอียดของ Voucher
[CR] รีวิว เที่ยว & กิน/Fin & จุก กับทริป พักผ่อนที่สวนผึ้ง La Toscana resort, ครัวม่อนไข่ และ Good view steak house
- Voucher ของผมที่ได้มานั้นซื้อมาในราคาประมาณ 2,900 บาท (แก้ไขราคาแล้วครับ) ซื้อมา 2 ใบ สามารถจองห้องใดก็ได้ที่ว่าง (ที่จริงเรียกเป็นหลังดีกว่าครับ เดี๋ยวจะทราบว่าทำไมเป็นหลัง) โดยครั้งนี้ผมเลือก นอน 1 คืนในราคาห้องละ 2,900 บาทต่อห้อง โดยผมได้เป็นห้อง Suit ที่ราคาปกติ 6750 บาท (แพงที่สุดและหลังใหญ่ที่สุด) ชื่อว่า Artista ซึ่งมีอ่างจากุชซี่ แบบ Open ไว้ให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศด้วยครับ ส่วนอีกห้องที่จองได้นั้นเป็นแบบ Honey moon ชื่อว่า Vino ซึ่งจะเล็กกว่าหน่อยครับ ราคาปกติประมาณ 4,000 - 5,000 บาท (แก้ไข Voucher ในส่วนนี้นะครับ) ซึ่งพ่อกับแม่ผมท่านนอนที่หลังนี้ครับ
ปล. ใน Voucher นั้นแนะนำว่าควรจะจองล่วงหน้า 3 วัน และจะให้ดีควรมาในวันที่ไม่ใช่วันหยุด จึงทำให้ได้ห้องดีแบบนี้ ถ้าเป็นวันหยุดส่วนใหญ่จะเต็มครับเลยต้องยอมลางาน 1 วัน เพื่อการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งทริปนี้รวมๆแล้วสรุปคร่าวๆก็ 3 Fin กับอีก 1 Fail ครับ ซึ่งอันไหน Fin อันไหน Fail เรามาติดตามกันครับ
- ในรีวิวในครั้งนี้ผมจะลงรูปสถานที่ตามลำดับที่ได้สัมผัสมานะครับ ซึ่งพอรู้ว่าจะมาสวนผึ้ง ผมและภรรยาก็ทำการหาข้อมูลสถานที่ กิน & เที่ยว ในอาจารย์กู๋ กันครับ ซึ่งร้านอาหารที่เด้งขึ้นมาบ่อยที่สุด เยอะที่สุดนั้นก็คือ “ร้านอาหารครัวม่อนไข่” เมื่อมาดูแผนที่ระหว่างที่พักกับร้านอาหารแล้วเห็นว่าอยู่ใกล้ๆกันมาก ร้านครัวม่อนไข่ จะถึงก่อนที่พักประมาณ 1 กิโลเมตร ผมเลยวางแผนที่จะแวะทานอาหารกันก่อนที่ร้านนี้ครับ เพราะฉะนั้นเรามาดู Episode I ของรีวิวนี้กันครับ “ร้านอาหารครัวม่อนไข่”
- Episode 1 “ร้านอาหารครัวม่อนไข่” เป็นร้านอาหารขึ้นชื่อ ที่เด้งมาในอากู๋มากที่สุดในคำแนะนำสถานที่กินที่สวนผิ้ง จังหวัดราชบุรี ชื่อม่อนไข่รู้สึกว่าเป็นชื่อของกล้วยไม้พันธุ์หนึ่งที่เจ้าของร้านชอบมากเลยเอามาตั้งเป็นชื่อร้าน แต่เราไม่ได้ทานกล้วยไม้ เรามาทานอาหาร เพราะฉะนั้นท่านใดสนใจประวัติร้านขอเชิญค้นหาได้ที่อากู๋ครับ ส่วนสาวกในการทานเชิญติดตามต่อเลยครับ (มีรีวิวเก่าๆในพันทิฟเยอะพอสมควรครับ รีวิวของผมนี้ถือว่าเป็นการ Update รีวิวร้านนี้ก็แล้วกันครับ)
- เดินทางออกจากบ้านประมาณ 1100 น. ใช้เส้นทาง บรมราชชนนี – นครปฐม – ราชบุรี – สวนผึ้ง ครับวิ่งตามป้ายที่เขาบอกไว้โดยยึดที่หมายเอาไว้คือ “สวนผึ้ง” ยังไงก็ไม่หลง ซึ่งพอเข้าสวนผึงแล้วก็จะเริ่มมีป้ายบอกทางไปร้านอาหารและรีสอร์ท ต่างๆ เพราะฉะนั้นไม่น่าจะหลงแน่ๆ ไปถึงร้านประมาณบ่ายโมงกว่าๆเห็นจะได้ บรรยากาศร้านตกแต่งในแนวที่เรียกว่าอะไรก็ไม่ทราบได้แต่ว่าร้านก็กว้างดีครับ รู้สึกว่าจะมีชั้น 2 ด้วยครับ ร้านมีสีสันสวยดีครับและมีทั้ง Outdoor และ indoor ด้วยครับ มีโต๊ะตั้งมากมาย วันที่ผมไปเป็นวันอาทิตย์แล้ว เพราะฉะนั้นก็จะมีแขกที่ไปทานอยู่จำนวนหนึ่งแต่ก็ไม่ถึงกับแน่นจนหาที่นั่งไม่ได้ สบายๆครับ
- เมื่อไปถึงแล้วก็จะมีน้องเอาเมนูมาให้ ขอชมเชยน้องๆที่บริการในร้านนี้ครับ เอาใจใส่ลูกค้าดีครับ ถึงแม้ว่าการสื่อสารอาจจะผิดพลาดไปบ้างแต่ก็แก้ปัญหาได้ดีพอสมควรครับ เห็นหน้าน้องๆตอนแรกเหมือนจะมึนๆ เลยกลัวว่าจะเป็นแบบร้านอาหารชื่อดังร้านอื่นที่ไม่ง้อลูกค้า แต่ผิดคาดครับ เรียกปุ๊บมาปั๊ป อันนี้ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่นี่อย่างหนึ่งเลยครับ มาดูเมนูกัน อาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือ “ยำผักกูด” กับ “ทอดมันหัวปลี” ครับ
- แขกท่านอื่นที่มาทานกันครับ โต๊ะใหญ่และเยอะทีเดียว เห็นภรรยาผมบอกว่ารับทัวร์ด้วย เลยเลือกเวลาที่มาถึงเป็นช่วงบ่ายครับ คนเลยไม่มากกำลังสบายๆ แต่พอสักครู่แขกก็เริ่มซาลงครับ อ้อ อาหารที่นี่รสชาติค่อนข้างจัดนะครับ เผ็ดเป็นเผ็ด เปรี้ยวเป็นเปรี้ยว
- มาดูอาหารที่สั่งในวันนี้เลยนะครับ ปลาทับทิมทอดราดพริก (แต่ขอแยกน้ำราดเพราะว่าให้ลูกสาวทานด้วยครับ) ตัวใหญ่มาก ทอดร้อนๆ ตอนแรกน้องไม่เอาน้ำราดมาให้ เกิดจากความผิดพลาดในการจดออเดอร์ แต่ก็แก้ไขได้อย่างรวดเร็วครับ (ฮาตรงที่น้องอีกคนบอกว่าใครจดออเดอร์ พอบอกไปน้องเขาบอกว่า “อีกแล้วเหรอ” แล้วก็บ่น บลาๆๆๆๆๆ ตลกดีครับ แต่ไม่ได้โทษน้องเขานะครับ คนเราผิดกันได้และแก้ไขได้ดีเลยเจ๊ากันไป)
- มาแล้ว “ยำผักกูด” Signature ของที่นี่ รสจัดมากได้ใจภรรยาผมผู้ที่ชอบรสเปรี้ยว เป็นที่สุด รสชาติจะออกเปรี้ยว เค็ม หวาน พริกเขาจะซอยมานะครับไม่ได้ตำมา ส่วนผักกูดนั้นกรอบดีครับ ใส่กุ้งตัวค่อนข้างโต ปลาหมึก และหมูสับ อร่อยจนทำให้ต้องสั่งเพิ่มมาอีก 1 จาน ตั้งแต่ข้าวยังไม่มาครับ
- เมนูต่อไปก็เป็น “พะแนงรวมมิตรห่อไข่” เป็นไข่ยัดไส้แกงพะแนงที่ใส่หมู, กุ้ง และปลาหมึก ครับ รสชาติจะออกหวานๆ เค็มๆ และเผ็ดพอสมควร
- “ต้มยำปลาคัง” ร้านนี้ให้เนื้อมาแบบไม่กลัวเจ๊งเลยครับ ชิ้นใหญ่มาก มีทั้งเนื้อและส่วนหัว เยอะจริงๆถ้าเทียบกับราคา และถ้าอยู่ กทม. คงหาร้านที่ไหนให้เยอะแบบนี้แทบจะไม่ได้แน่ๆ
- นี่ก็เป็นหนึ่งในอาหารแนะนำที่นี่ครับ “ทอดมันหัวปลี” ทานดูแล้วเป็นอารมณ์ทอดมันจริงๆครับ คือมีกลิ่นของเครื่องแกงทอดมัน ไม่ใช่หัวปลีชุบแป้งทอดเฉยๆ เมนูนี้ก็จัดไป 2 จานครับ น้ำจิ้มจะคล้ายๆน้ำจิ้มเต้าหู้ทอดอ่ะครับ ประมาณน้ำมะขามเปียกเหนียวๆข้นๆ ใส่ถั่วป่น และพริกป่น (เผ็ดใช้ได้เลยครับ)
- ตอนแรกจะสั่งข้าวสวยมาทานกับอาหารที่สั่งไป แต่ที่นี่แนะนำ “ข้าวผัดขมิ้น” ครับ แนะนำมาก็จัดไป อารมณ์ก็ประมาณทานข้าวหมกต่างๆ ดีครับแปลกไปอีกแบบ ตอนนี้ก็มีเรื่องขำๆครับ คือเราสั่งเอาข้าวผัดขมิ้น 1 โถ และข้าวเปล่าให้ลูกสาว 1 จาน ผลปรากฏน้องเอาข้าวสวยมาให้ 1 โถ ข้าวผัด 1 จาน เรียกน้องอีกคนมาแก้ไขให้แกบ่นอีกแล้ว (“คนนี้อีกแล้ว ประจำเลย ไม่เคยจำ บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เราก็ขำๆและน้องก็เอาไปเปลี่ยนเร็วดีครับ) อีกรูปเราก็มาดูทอดมันหัวปลีใกล้ๆ กันครับ
- ค่าเสียหายครับ อาหารที่สั่งไปมี ยำผุกกูด 2, ทอดมันหัวปลี 2, พะแนงรวมมิตรห่อไข่ 1, ต้มยำปลาคัง 1, ปลาทับทิมราดพริก (แยกน้ำราด) 1 ข้าวผัดขมิ้น 1 โถ และข้าวเปล่า 1 จาน กับข้าว 7 อย่าง 1020 บาท ราคาถูกมากถ้าเทียบกับปริมาณ, แหล่งที่ตั้งสถานท่องเที่ยว, การบริการที่ได้รับ ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเป็นร้านแนะนำเด้งขึ้นที่อากู๋เยอะมากในสวนผึ้ง จว.ราชบุรี แห่งนี้ ไม่ผิดหวังเลยครับที่ได้มา ซึ่งผลจากความประทับใจทำให้ขากลับตอนเที่ยงภรรยาผมก็ให้แวะมาทานอีก 1 ครั้ง ก่อนกลับครับ โดยมีการสั่งอาหารมาเพิ่มจากที่รีวิวก็คือ “ผัดเห็ดโคนญี่ปุ่นน้ำมันหอย” ครับ อร่อยในราคา 80 บาท (ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูปตอนแวะทานขากลับให้ดูเพราะว่าเมนูเหมือนกันครับ) ถือว่าประทับใจยันขากลับเลยทีเดียว (แต่ก็ยังมีเสริฟ์สลับเหมือนเดิมข้าวผัดโถเป็นข้าวขาวโถ แต่ก็แก้ไขให้เร็วเหมือนเดิม ขำอีกและ 555) สังเกตุจากลูกสาวที่อารมณ์ดีตลอดครับ อ้อ ลืมความประทับใจอีกอย่างครับก็คืออาหารออกเร็วมาก แต่ละอย่างไม่เกิน 5 – 10 นาทีก็ได้แล้ว ยกเว้นทอดมันที่นานกว่าเพื่อนแต่ก็ไม่นานมาก เป็นร้านที่มาทานตามรีวิวเก่าๆแล้วไม่ผิดหวังครับ และจะกลับไปทานอีกแน่นอนเมื่อได้มีโอกาสไปครั้งหน้า น่าเสียดายที่ครั้งนี้ผมเป็นร้อนในที่ปากเลยรับรสชาติเผ็ดไม่ค่อยได้เต็มที่ แต่นี่ก็เป็น Fin แรกที่ได้เจอในทริปนี้ครับ ท่านๆ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ Episod ต่อไปจะเข้าที่พักแล้วครับ อิอิอิ
ปล. ขอแท็กห้องเพิ่มจากปกติที่เป็นห้องก้นครัวอย่างเดียว ดังนี้
1. ห้องกล้อง – Canon : เพราะว่าภาพถ่ายครั้งนี้ได้มาจากกล้อง Canon power shot sx20 is ซึ่งนานๆจะใช้ทีนึง ซึ่งฝีมือการถ่ายภาพไม่ต้องพูดถึง งูๆปลาๆ มาก เลยอยากฟังคำวิจารณ์ของนักถ่ายภาพมืออาชีพด้วยครับ
2. ห้องบลูแพนเน็ต : เพราะว่าเป็นทริปท่องเที่ยว ที่น่าเอามาแชร์กันครับ
แก้ไขล่าสุด :
ครั้งที่ 1 วันที่ 4 ก.ย.56 : ตาม ปล. สงสัยแอดมินแก้แทคให้แล้วใส่แทคที่เหมาะสมให้แล้วนะครับ เลยไม่ได้อยู่ในห้องกล้องครับ อิอิอิ
ครั้งที่ 2 วันที่ 5 ก.ย.56 : แก้ไขรายละเอียดของ Voucher
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น