สวัสดีครับ
มาอีกรอบแล้วนะครับ กระทู้นี้ตั้งครั้งแรกที่มายืนในแผ่นดินอเมริกา หลังจากที่เดินทางลุยเดี่ยวมาที่อเมริกาครั้งแรกในชีวิต
- 29.08.2013 bangkok-tokyo ขึ้นเครื่อง 05:10 ถึง 13:30 (delta air lines / DL284)
- 29.08.2013 tokyo-seattle ขึ้นเครื่อง 15:30 ถึง 8:15 (delta air lines / DL156)
- 29.08.2013 seattle-minneapolis/st paul 11:32 ถึง 16:43 (delta air lines / DL588) (เวลาในอเมริกา minneapolis)
งานแต่งงานในวันที 31 สิงหา 56 สิ่งที่ผมไม่เคยเห็นคือเจ้าบ่าวมุดใต้กระโปรงเจ้าสาว ห่าๆๆ
- 01.09.2013 เดินทางจากมินนิโซตาไปที่อิลลินอยส์ (ค่าตั๋ว 114$) เที่ยวบินผมได้เวลา 18:34 แต่เนื่องจากมีคนที่จะกลับเวอร์จีเนียสิบกว่าคน เวลาบ่ายสาม ผมเลยตามติดด้วย จะได้ส่งทีเดียวจบไปเลย แต่ดันเป็นคนละสนามบิน เค้าไปส่งที่สนามบินใหญ่ หาที่ check in ไม่มี เลยถาม จนท ที่อยู่แถวๆนั้น เค้าเอาแผ่นที่มาดูแล้วบอกว่าต้องลงชั้นใต้ดิน แล้วนั่งรถไฟฟ้าไปอีกที (แล้วตูจะไปถูกมั๊ยเนี๋ย เพิ่งมาถึงอเมริกาเนี๋ย ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย) เพราะว่าสายการบิน Spirit Airlines อยู่ที่สนามบินเล็ก ก็เลยโทรหาเพื่อนมารับไปส่งอีกรอบ
จริงๆมันก็ไม่ห่างกันเท่าไหร่ แค่แป๊บเดียวถึง พอไปถึงสนามบินผมก็ให้เพื่อนพาเข้าไป check in แต่......ไปถึงเร็วไป check in ไม่ได้ ต้องรอบ่ายสองโมงครึ่ง เพื่อนก็เลยบอกพนักงานในนั้นให้ช่วยผม check in ด้วย เพราะผมพูดอังกฤษไม่เก่ง พนักงานมองผมแล้วก็ยิ้มๆ จากนั้นผมก็บอกเพื่อนให้กลับ ผมก็เลยนั่งรอจนถึงบ่ายสาม ผมเดินเข้าไป check in อีกครั้ง ผมเอาใบที่ผมซื้อตั๋วผ่านเน็ตยื่นให้พนักงานจัดการให้ เค้าถามบัตรเครดิต ผมก็บอกไม่มี ผมใช้เงินสด
กระเป๋าผมมีสองใบ(ใบเล็กหนึ่ง ใหญ่หนึ่ง) สามกับโน๊ตบุ๊ค ผมหันไปดูที่เค้าทำวัดกระเป๋าเห็นช่องเล็กเป็น free อีกช่องที่ใหญ่หน่อย 50$ จากนั้นผมก็ดูพนักงานกด แกร็กๆๆๆๆ เห็นเค้าติ๊กที่เก็บเงินไปสองครั้งแล้วหันมาดูกระเป๋าผม ผมเลยบอกว่า กระเป๋าผมส่งแค่ใบเดียว อีกใบจะลากขึ้นเครื่องเอง เค้าบอกได้แค่ใบเดียว เค้าบอกผมเอาโน๊ตบุ๊คไปลงช่องเล็ก ผมเอาไปวางลงแกร็กกก เค้ายกนิ้ว good จากนั้นเค้าก็ติ๊กๆ 50 45 50 ผมเลยบอกอีก สองใบนี้ผมเอาขึ้นเครื่องเอง เค้าก็เลยลบออกเหลือ 95$ แล้วเค้าถามเอาเงินนำผม ผมก็ถามเท่าไหร่ เค้าบอก 95$
พอจ่ายเงินจบ (ฮื่ม.....ถ้าภาษาอังกฤษตูแข็งแรงมุงซวยแน่ๆ จะต่อว่าให้หนัก) จ่ายเงินจบมันปรี้นใบรับเงินสดออกมาส่งให้ผม แล้วพูดอะรัยไม่รู้ งึมๆๆๆ ผมมองหน้ามัน มันก็ให้ดูที่หน้าจอคอม แล้วมันก็หันจอมคอมออกมาให้ผมดู ผมก็อ่านๆๆๆ แล้วคิดในใจ มุงจะทำอะรัยก็ทำเหอะ แต่กุเสียดายเงินกุ 95$ แป๊บหนึ่งมันส่งตั๋วพร้อมใบรับกระเป๋าให้ผม ผมดู gate H-6 เที่ยวบิน NK 614 เวลา 18:34 เค้าบอกผมให้ขึ้นไปชั้นสองเดินไปเลี้ยวขวา
ผมก็เดินขึ้นไป จนถึงที่ตรวจก็จัดการถอดทุกอย่างที่เคยถอด รองเท้า เข็มขัด เอาโน๊ตบุ๊คออกแยกคนละถาดไป ในกระเป๋าโน๊ตบุ๊คผมมีแป๊บซี่ 1 กระป๋อง ที่คนจะไปเวอร์จีเนียให้มาตอนแยกกันที่สนามบินใหญ่ แต่ดันลืมเอาออก พอเข้าไปนั่งรอที่จะขึ้นเครื่อง เห็นกระเป๋าเปิด เลยนึกได้ว่ามีแป๊บซี่อยู่ ก็เปิดดูอย่างเร็ว เปิดปุ๊บหายซะงั้น ห่าๆๆ เหลือแค่ขนม ก็เลยเอาออกมาเปิดกิน พอกินแป๊บ นึกอยากดื่มน้ำก็เลยเดินๆดูตามร้านขาย โห.... แค่น้ำขวด500ml เกือบ 3$ ดูเค้กก้อนเล็กๆก็ 3$ up ก็เลยเดินกลับมานั่งรอพร้อมคิดในใจ แพงขนาดนี้ตูไปแดรกของฟรีที่บนเครื่องก็ได้วะ(งกขึ้นสมองทันทีที่ไปตกอเมริกา ฮ่าๆๆ)
นั่งรอแต่บ่ายสามกว่าๆ ทั้งคิดว่า ถ้ารู้ว่าจะเสียเงินเยอะขนาดนี้ ตูทิ้งตั๋ว แล้วนั่งรถไปกับคนที่ไปงานด้วยกันสบายกว่าอีกเยอะ คิดมายังแค้นให้คนที่บอกซื้อตั๋วเครื่องบินอยู่เลย ผมบอกว่ายังไม่ซื้อก็ขยั้นขยอให้ซื้ออยู่ได้ พอไปงานแต่ง โห....คนที่มาจก ชิคาโก้ตั้งหลายคน เค้าบอกว่าจะไปส่งถึงที่บ้านเลย แต่ผมบอกว่าซื้อตั๋วไปแล้ว แหม๋... เสียดายเงินจริงๆ
หลับไปตื่นหนึ่ง ตื่นมาอีกทีห้าโมงเย็นแล้ว หันไปฝั่งตรงข้าม โอ้....สาวน้อยฝรั่งแสนสวยมานั่งเล่นโทรฯอยู่ตรงหน้า อายุ16-17น่าจะได้ น่ารักไม่เบา พอถึงเวลาขึ้นเครื่ง ผมไปเข้าห้องน้ำ ออกมาสาวน้อยหายไปไหนไม่รู้ ผมก็เลยรีบตามเข้าไปในเครื่องแต่ไม่เจอ พอถึงเวลาเครื่องจะออก ผู้โดยสารไม่ถึงครึ่งเลย ผมก็เลยอ๋อ...ทันทีว่าทำมัย คนถึงไม่ขึ้นสายการบินนี้เพราะมันเก็บเงินเพิ่มเยอะเกินนี่เองนี่เอง
ความหวังผมที่จะได้กินน้ำฟรีบนเครื่องหายแว๊บ ไม่มีอะรัยเลย ขึ้นนั่งเครื่อง แต่ 18:34 ถึง 20:00 ไม่มีอะรัยให้ผู้โดยสารเลย เวรแท้ๆ (ภาวนาให้เจ๊งทีเหอะ --*) พอลงจากเครื่อง รับกระเป๋าเรียบร้อย นั่งรอพี่ชายมารับ ขึ้นรถพี่ชายก็จับน้ำมาดื่มเต็มที่ พอถึงที่บ้านเก็บของลงเรียบร้อย ก็ทำกับข้าวกิน อิ่มแล้วอาบน้ำนอน ตื่นมาไปหาซื้อแพคเกจโทรศัพท์ เห็นมีคนบอกมาว่ามีแพคเกจ 50$/เดือน ไม่จำกัดการโทรทั้งภายในและโทรกลับไทย - ลาว แต่พอดีวันนี้ เป็น labor day เค้าเลยปิดร้านกันหมด ก็เลยไปแว่กินบุฟเฟ่ อาหารอเมริกา จัดเต็มอิ่ม คุ้มค่า จากนั้นกลับบ้านกำลังจะนอน แต่ขอบ่นก่อนนอนทีเหอะ (จ่ายเพิ่ม95$ไม่ยอมบอกพี่ชายกลัวโดนด่า ตอนขับรถมา พี่ถาม ค่าตั๋วเท่าไหร่ ก็ตอบไปว่า 114$ พี่ชายบอก อึ่มก็ถูกกว่าที่จะเอารถไปรับเอง เพราะค่าน้ำมันแพง แถมเหนื่อยอีกขับรถกก็สัก 6-7ชั่วโมงถึง แต่พี่ไม่รู้ว่าน้องได้เสียเงินเพิ่มค่ากระเป๋า อีก 95$) พรุ่งนี้เช้าคงได้ช่วยงานพี่ชายที่ร้านอาหาร ลองนึกดู พี่ชายเป็นเจ้าของร้านอาหาร แล้วน้องชายอย่างผมจะได้ทำอะไร....
น้องชายเจ้าของร้านอย่างผมจะทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก......... เก็บโต๊ะ 555 (แหม๋.... ภาษาอังกฤษอย่างผมจะไปทำอย่างอื่นได้ยังไงละ คุยกับลูกค้าไม่รู้เรื่องหรอกมั้ง)
สายการบิน delta เก็บกระเป๋า แค่ 25$ ส่วน Spirit Airlines อย่าขึ้นเลยครับ แพงมากมาย
ขอบใจที่อ่านจนจบ บายๆ นอนแล้ว
ปล.แก้เพิ่มรูปตั๋ว
Spirit Airlines จ่ายเพิ่ม 95$ จะจำจนตาย
มาอีกรอบแล้วนะครับ กระทู้นี้ตั้งครั้งแรกที่มายืนในแผ่นดินอเมริกา หลังจากที่เดินทางลุยเดี่ยวมาที่อเมริกาครั้งแรกในชีวิต
- 29.08.2013 bangkok-tokyo ขึ้นเครื่อง 05:10 ถึง 13:30 (delta air lines / DL284)
- 29.08.2013 tokyo-seattle ขึ้นเครื่อง 15:30 ถึง 8:15 (delta air lines / DL156)
- 29.08.2013 seattle-minneapolis/st paul 11:32 ถึง 16:43 (delta air lines / DL588) (เวลาในอเมริกา minneapolis)
งานแต่งงานในวันที 31 สิงหา 56 สิ่งที่ผมไม่เคยเห็นคือเจ้าบ่าวมุดใต้กระโปรงเจ้าสาว ห่าๆๆ
- 01.09.2013 เดินทางจากมินนิโซตาไปที่อิลลินอยส์ (ค่าตั๋ว 114$) เที่ยวบินผมได้เวลา 18:34 แต่เนื่องจากมีคนที่จะกลับเวอร์จีเนียสิบกว่าคน เวลาบ่ายสาม ผมเลยตามติดด้วย จะได้ส่งทีเดียวจบไปเลย แต่ดันเป็นคนละสนามบิน เค้าไปส่งที่สนามบินใหญ่ หาที่ check in ไม่มี เลยถาม จนท ที่อยู่แถวๆนั้น เค้าเอาแผ่นที่มาดูแล้วบอกว่าต้องลงชั้นใต้ดิน แล้วนั่งรถไฟฟ้าไปอีกที (แล้วตูจะไปถูกมั๊ยเนี๋ย เพิ่งมาถึงอเมริกาเนี๋ย ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย) เพราะว่าสายการบิน Spirit Airlines อยู่ที่สนามบินเล็ก ก็เลยโทรหาเพื่อนมารับไปส่งอีกรอบ
จริงๆมันก็ไม่ห่างกันเท่าไหร่ แค่แป๊บเดียวถึง พอไปถึงสนามบินผมก็ให้เพื่อนพาเข้าไป check in แต่......ไปถึงเร็วไป check in ไม่ได้ ต้องรอบ่ายสองโมงครึ่ง เพื่อนก็เลยบอกพนักงานในนั้นให้ช่วยผม check in ด้วย เพราะผมพูดอังกฤษไม่เก่ง พนักงานมองผมแล้วก็ยิ้มๆ จากนั้นผมก็บอกเพื่อนให้กลับ ผมก็เลยนั่งรอจนถึงบ่ายสาม ผมเดินเข้าไป check in อีกครั้ง ผมเอาใบที่ผมซื้อตั๋วผ่านเน็ตยื่นให้พนักงานจัดการให้ เค้าถามบัตรเครดิต ผมก็บอกไม่มี ผมใช้เงินสด
กระเป๋าผมมีสองใบ(ใบเล็กหนึ่ง ใหญ่หนึ่ง) สามกับโน๊ตบุ๊ค ผมหันไปดูที่เค้าทำวัดกระเป๋าเห็นช่องเล็กเป็น free อีกช่องที่ใหญ่หน่อย 50$ จากนั้นผมก็ดูพนักงานกด แกร็กๆๆๆๆ เห็นเค้าติ๊กที่เก็บเงินไปสองครั้งแล้วหันมาดูกระเป๋าผม ผมเลยบอกว่า กระเป๋าผมส่งแค่ใบเดียว อีกใบจะลากขึ้นเครื่องเอง เค้าบอกได้แค่ใบเดียว เค้าบอกผมเอาโน๊ตบุ๊คไปลงช่องเล็ก ผมเอาไปวางลงแกร็กกก เค้ายกนิ้ว good จากนั้นเค้าก็ติ๊กๆ 50 45 50 ผมเลยบอกอีก สองใบนี้ผมเอาขึ้นเครื่องเอง เค้าก็เลยลบออกเหลือ 95$ แล้วเค้าถามเอาเงินนำผม ผมก็ถามเท่าไหร่ เค้าบอก 95$
พอจ่ายเงินจบ (ฮื่ม.....ถ้าภาษาอังกฤษตูแข็งแรงมุงซวยแน่ๆ จะต่อว่าให้หนัก) จ่ายเงินจบมันปรี้นใบรับเงินสดออกมาส่งให้ผม แล้วพูดอะรัยไม่รู้ งึมๆๆๆ ผมมองหน้ามัน มันก็ให้ดูที่หน้าจอคอม แล้วมันก็หันจอมคอมออกมาให้ผมดู ผมก็อ่านๆๆๆ แล้วคิดในใจ มุงจะทำอะรัยก็ทำเหอะ แต่กุเสียดายเงินกุ 95$ แป๊บหนึ่งมันส่งตั๋วพร้อมใบรับกระเป๋าให้ผม ผมดู gate H-6 เที่ยวบิน NK 614 เวลา 18:34 เค้าบอกผมให้ขึ้นไปชั้นสองเดินไปเลี้ยวขวา
ผมก็เดินขึ้นไป จนถึงที่ตรวจก็จัดการถอดทุกอย่างที่เคยถอด รองเท้า เข็มขัด เอาโน๊ตบุ๊คออกแยกคนละถาดไป ในกระเป๋าโน๊ตบุ๊คผมมีแป๊บซี่ 1 กระป๋อง ที่คนจะไปเวอร์จีเนียให้มาตอนแยกกันที่สนามบินใหญ่ แต่ดันลืมเอาออก พอเข้าไปนั่งรอที่จะขึ้นเครื่อง เห็นกระเป๋าเปิด เลยนึกได้ว่ามีแป๊บซี่อยู่ ก็เปิดดูอย่างเร็ว เปิดปุ๊บหายซะงั้น ห่าๆๆ เหลือแค่ขนม ก็เลยเอาออกมาเปิดกิน พอกินแป๊บ นึกอยากดื่มน้ำก็เลยเดินๆดูตามร้านขาย โห.... แค่น้ำขวด500ml เกือบ 3$ ดูเค้กก้อนเล็กๆก็ 3$ up ก็เลยเดินกลับมานั่งรอพร้อมคิดในใจ แพงขนาดนี้ตูไปแดรกของฟรีที่บนเครื่องก็ได้วะ(งกขึ้นสมองทันทีที่ไปตกอเมริกา ฮ่าๆๆ)
นั่งรอแต่บ่ายสามกว่าๆ ทั้งคิดว่า ถ้ารู้ว่าจะเสียเงินเยอะขนาดนี้ ตูทิ้งตั๋ว แล้วนั่งรถไปกับคนที่ไปงานด้วยกันสบายกว่าอีกเยอะ คิดมายังแค้นให้คนที่บอกซื้อตั๋วเครื่องบินอยู่เลย ผมบอกว่ายังไม่ซื้อก็ขยั้นขยอให้ซื้ออยู่ได้ พอไปงานแต่ง โห....คนที่มาจก ชิคาโก้ตั้งหลายคน เค้าบอกว่าจะไปส่งถึงที่บ้านเลย แต่ผมบอกว่าซื้อตั๋วไปแล้ว แหม๋... เสียดายเงินจริงๆ
หลับไปตื่นหนึ่ง ตื่นมาอีกทีห้าโมงเย็นแล้ว หันไปฝั่งตรงข้าม โอ้....สาวน้อยฝรั่งแสนสวยมานั่งเล่นโทรฯอยู่ตรงหน้า อายุ16-17น่าจะได้ น่ารักไม่เบา พอถึงเวลาขึ้นเครื่ง ผมไปเข้าห้องน้ำ ออกมาสาวน้อยหายไปไหนไม่รู้ ผมก็เลยรีบตามเข้าไปในเครื่องแต่ไม่เจอ พอถึงเวลาเครื่องจะออก ผู้โดยสารไม่ถึงครึ่งเลย ผมก็เลยอ๋อ...ทันทีว่าทำมัย คนถึงไม่ขึ้นสายการบินนี้เพราะมันเก็บเงินเพิ่มเยอะเกินนี่เองนี่เอง
ความหวังผมที่จะได้กินน้ำฟรีบนเครื่องหายแว๊บ ไม่มีอะรัยเลย ขึ้นนั่งเครื่อง แต่ 18:34 ถึง 20:00 ไม่มีอะรัยให้ผู้โดยสารเลย เวรแท้ๆ (ภาวนาให้เจ๊งทีเหอะ --*) พอลงจากเครื่อง รับกระเป๋าเรียบร้อย นั่งรอพี่ชายมารับ ขึ้นรถพี่ชายก็จับน้ำมาดื่มเต็มที่ พอถึงที่บ้านเก็บของลงเรียบร้อย ก็ทำกับข้าวกิน อิ่มแล้วอาบน้ำนอน ตื่นมาไปหาซื้อแพคเกจโทรศัพท์ เห็นมีคนบอกมาว่ามีแพคเกจ 50$/เดือน ไม่จำกัดการโทรทั้งภายในและโทรกลับไทย - ลาว แต่พอดีวันนี้ เป็น labor day เค้าเลยปิดร้านกันหมด ก็เลยไปแว่กินบุฟเฟ่ อาหารอเมริกา จัดเต็มอิ่ม คุ้มค่า จากนั้นกลับบ้านกำลังจะนอน แต่ขอบ่นก่อนนอนทีเหอะ (จ่ายเพิ่ม95$ไม่ยอมบอกพี่ชายกลัวโดนด่า ตอนขับรถมา พี่ถาม ค่าตั๋วเท่าไหร่ ก็ตอบไปว่า 114$ พี่ชายบอก อึ่มก็ถูกกว่าที่จะเอารถไปรับเอง เพราะค่าน้ำมันแพง แถมเหนื่อยอีกขับรถกก็สัก 6-7ชั่วโมงถึง แต่พี่ไม่รู้ว่าน้องได้เสียเงินเพิ่มค่ากระเป๋า อีก 95$) พรุ่งนี้เช้าคงได้ช่วยงานพี่ชายที่ร้านอาหาร ลองนึกดู พี่ชายเป็นเจ้าของร้านอาหาร แล้วน้องชายอย่างผมจะได้ทำอะไร....
น้องชายเจ้าของร้านอย่างผมจะทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก......... เก็บโต๊ะ 555 (แหม๋.... ภาษาอังกฤษอย่างผมจะไปทำอย่างอื่นได้ยังไงละ คุยกับลูกค้าไม่รู้เรื่องหรอกมั้ง)
สายการบิน delta เก็บกระเป๋า แค่ 25$ ส่วน Spirit Airlines อย่าขึ้นเลยครับ แพงมากมาย
ขอบใจที่อ่านจนจบ บายๆ นอนแล้ว
ปล.แก้เพิ่มรูปตั๋ว