บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทที่ ๑ http://pantip.com/topic/30777946
บทที่ ๒ http://pantip.com/topic/30780186
บทที่ ๓ http://pantip.com/topic/30782939
บทที่ ๔ http://pantip.com/topic/30786752
บทที่ ๕ http://pantip.com/topic/30789891
บทที่ ๖ http://pantip.com/topic/30792906
บทที่ ๗-๘ http://pantip.com/topic/30794493
บทที่ ๙-๑๐ http://pantip.com/topic/30797082
บทที่ ๑๐-๑๒ http://pantip.com/topic/30800908
บทที่ ๑๓-๑๔ http://pantip.com/topic/30812658
บทที่ ๑๕ http://pantip.com/topic/30832091
บทที่ ๑๖ http://pantip.com/topic/30854646
บทที่ ๑๗ http://pantip.com/topic/30859430
บทที่ ๑๘ http://pantip.com/topic/30878953
บทที่ ๑๙ http://pantip.com/topic/30881746
บทที่ ๒๐ http://pantip.com/topic/30887457
บทที่ ๒๑ http://pantip.com/topic/30891056
บทที่ ๒๒ http://pantip.com/topic/30892778
บทที่ ๒๓ http://pantip.com/topic/30900136
บทที่ ๒๔ http://pantip.com/topic/30904245
บทที่ ๒๕ http://pantip.com/topic/30907030
บทที่ ๒๖ http://pantip.com/topic/30907707
บทที่ ๒๗ http://pantip.com/topic/30909384
บทที่ ๒๘ http://pantip.com/topic/30911416
บทที่ ๒๙ http://pantip.com/topic/30912909
บทที่ ๓๐ http://pantip.com/topic/30913670
บทที่ ๓๑ http://pantip.com/topic/30915511
บทที่ ๓๒ http://pantip.com/topic/30916544
บทที่ ๓๓ http://pantip.com/topic/30919605
บทที่ ๓๔ http://pantip.com/topic/30923315
ราฟาเอล คอร์เนลลี่ต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรอให้น้ำเกลือสองขวดหมดตามที่หมอสั่งไว้ คนในครอบครัวคอร์เนลลี่ รวมทั้งมาร์โคและบาร์บาร่าแม่บ้าน กลับไปที่เอสเตทหลังจากแน่ใจว่าเขาปลอดภัยแล้ว มีเพียงลิลลดาที่อยู่กับเขาโดยไม่คิดที่จะปล่อยให้ชายหนุ่มคลาดสายตาไปไหน
“คุณอยากหลับไหมคะ” ลิลลดาถามชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง หากแต่เขากลับส่ายหน้า
“ไม่ล่ะ นอนเยอะแล้ว อยากคุยกับเธอมากกว่า” ชายหนุ่มตอบและยกมือบางขึ้นมาจูบ เมื่อลดมือลงก็ยังคงกุมมือเธอไว้และใช้มืออีกข้างลูบไล้ผิวเนียนเบาๆ
“ เธอรู้ไหม ฉันดีใจมากที่เห็นเธอยังอยู่” ชายหนุ่มบอก
เขายังจำได้ดีถึงการตัดสินใจของหญิงสาวที่ทำให้เขาแทบเป็นบ้า เพราะไม่ว่าเขาจะพยายามอธิบายอย่างไร เธอก็ไม่ฟังเขาเอาเสียเลย เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังจะหนีไปพักโรงแรมเพื่อรอซื้อตั๋วเครื่องบินกลับควีนส์แลนด์เสียอีก เขาเจ็บปวดจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ที่เห็นเธออยากจะหนีไปให้พ้นๆเขาถึงขนาดนั้น แต่เพราะความรักที่เขามีต่อเธอ ทำให้เขาใจเย็นและให้อภัยในความหุนหันพลันแล่นของเธอ เขาพยายามเข้าใจเธอ ว่าหากเขาเห็นเธอยืนจูบอยู่กับผู้ชายคนอื่น เขาจะยังใจเย็นอยู่ได้หรือเปล่า และเขาก็รู้คำตอบดี เขาจะไม่มีวันใจเย็น และไม่รู้ว่าจะมีวันให้อภัยหญิงสาวหรือเปล่า เหมือนอย่างที่แองเจล่ามีคนอื่น เขาก็บอกเลิกกับเธอได้ง่ายๆ ในตอนนั้นเขาคิดเพียงว่า ราฟาเอล คอร์เนลลี่ก็มีดีพอตัว หากผู้หญิงคนนั้นไม่ซื่อสัตย์ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องเสียเวลาด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อมาร์โคมาบอกกับเขาว่าแองเจล่ามีความสัมพันธ์กับคนอื่นลับหลังเขา เขาจึงตัดสัมพันธ์ได้ง่ายดาย เพียงแต่ความแตกต่างในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็คือ เขาไม่ได้ไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอ หญิงสาวเข้าใจผิด และเขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอทิ้งเขาไปทั้งๆที่ยังเข้าใจผิดๆแน่ แต่ที่เขายอมออกจากบ้าน ยอมปล่อยให้เธอกลับควีนส์แลนด์ ก็เพราะรู้ว่าเหตุการณ์เพิ่งเกิดสดๆร้อนๆ และหญิงสาวเสียใจเกินกว่าจะมีสติรับฟังเหตุผลใดๆ เขาจึงปล่อยให้เธอไปอยู่ห่างเขาสักพัก และเมื่อถึงเวลาที่เขาคิดว่าเธอน่าจะใจเย็นลงแล้ว เขาก็จะตามไปปรับความเข้าใจกับเธอ แค่ควีนส์แลนด์ที่นั่งเครื่องบินไม่กี่ชั่วโมง ไม่เป็นอุปสรรคต่อเขาเลย อย่าว่าแต่ควีนส์แลนด์ ต่อให้หญิงสาวหนีเขาไปอยู่คนละมุมโลก เขาก็จะตามไป
ในตอนที่อยู่บนเรือยางในทะเลที่เวิ้งว้าง ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้อนาคต ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาหรือเปล่า สิ่งเดียวที่เขาเสียดายหากว่าเขาต้องตายไป ก็คือเขาจะตายโดยที่ลิลลดายังเข้าใจเขาผิด ส่วนความสัมพันธ์ที่ผ่านมาระหว่างเขาและเธอนั้น ชายหนุ่มไม่มีอะไรให้เสียใจเลย เพราะเขารู้ว่าเขารักเธอและทำทุกอย่างอย่างเต็มที่และดีที่สุดแล้ว
เมื่อเขาได้รับความช่วยเหลือจากเรือเดินทะเลลำนั้น ชายหนุ่มรู้สึกดีใจเหมือนได้เกิดใหม่ทั้งๆที่ยังไม่ตาย หากเรือลำนั้นไม่ช่วยเขาไว้ ป่านนี้เขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ตายไปทั้งๆที่ลิลลดายังคิดว่าเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอ และจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มเสียใจที่สุด
“คิดอะไรอยู่คะ” คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆเตียงเขาถามขึ้นเมื่อเห็นเขาเงียบไป ชายหนุ่มบีบมือหญิงสาวเบาๆ ยกขึ้นมาจูบอีกครั้ง ก่อนจะตอบ
“กำลังคิดว่า หากฉันตายโดยที่เธอยังคิดว่าฉันไม่ซื่อสัตย์ต่อเธออยู่ ฉันคงเสียใจมาก”
“โธ่ คุณราฟ ฉันขอโทษนะคะ” หญิงสาวกล่าวน้ำเสียงเศร้าสร้อย น้ำตาทำท่าจะเอ่อล้นขึ้นมาบนหน่วยตาคู่งามอีกครั้ง ชายหนุ่มยกมือลูบศีรษะหญิงสาวเบาๆ
“อย่าคิดมากเลยลิลลี่ มันผ่านไปแล้ว ฉันขอเพียงนับแต่จากนี้ หากมีอะไรไม่เข้าใจกัน ขอให้เราหันมาคุยกันได้ไหม ไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงแค่ไหนก็ตาม” ชายหนุ่มถาม และจ้องตาหญิงสาวด้วยสายตาจริงจัง
“ฉันสัญญาค่ะ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ฉันจะไม่หนี ฉันจะไม่มีวันหนีคุณไปไหนอีกแล้ว” หญิงสาวกล่าวน้ำเสียงจริงจัง และเธอก็หมายความตามที่พูดทุกประการ
“ฉันฝันว่าคุณโดนฉลามกัดไปครึ่งตัว ฉันไปดูศพคุณ ความฝันนั้นชัดเจนมาก มากจนฉันคิดว่าเป็นเรื่องจริง ฉันรู้ในตอนนั้นว่าฉันไม่สามารถมีชีวิตอยู่โดยไม่มีคุณได้ ฉันได้แต่ภาวนา ภาวนาให้คุณฟื้นคืนมา เพื่อที่ฉันจะได้มีโอกาสอีกครั้ง โอกาสที่จะฟังคุณอธิบาย โอกาสที่จะทำทุกวินาทีที่อยู่กับคุณให้มีค่าที่สุด และเมื่อฉันรู้ว่ามันเป็นแค่ความฝัน ฉันดีใจจนไม่รู้จะพูดยังไง แม้ว่าตอนนั้นจะยังไม่เจอตัวคุณ แต่อย่างน้อยฉันก็ยังมีความหวัง และตอนนี้คุณกลับมาแล้ว อยู่ตรงหน้าฉันตรงนี้ ฉันได้รับโอกาสอีกครั้ง ฉันจะไม่ปล่อยให้เวลาที่ควรจะใช้กับคุณอย่างมีความสุข ต้องเสียไปเพราะเรื่องเข้าใจผิด ฉันไม่อยากจะต้องภาวนาขอโอกาสอีกครั้งเมื่อสายเกินไป แค่ในฝันแค่นั้นก็เจ็บปวดเกินพอ” หญิงสาวพูดยืดยาว ราฟาเอลยิ้มเหมือนกับขำเสียเต็มประดา จนทำให้เธอต้องตัดพ้ออย่างน้อยใจ
“มันฟังดูน่าตลกเหรอคะ” ถามด้วยน้ำเสียงเง้างอด ชายหนุ่มหัวเราะก่อนจะตอบ
“ตลกตรงที่ฉันโดนฉลามกินไปแค่ครึ่งตัวน่ะ” ชายหนุ่มตอบ ก่อนที่จะพูดต่อ
“จริงๆแล้วถือว่าโชคดีที่ยังเหลือไว้ให้ตั้งครึ่งตัว ปกติถ้าอยู่ในทะเลนานขนาดนั้น เหลือแค่ขาสักข้างก็บุญแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ ก่อนที่จะพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
“ฉันเข้าใจที่เธอฝันแบบนั้นลิลลี่ ใครๆก็รู้ว่าทะเลฝั่งนี้ฉลามดุแค่ไหน ฉันยังประหลาดใจที่รอดมาได้ตั้งหลายวัน นึกว่าจะกลายเป็นอาหารไอ้หลามตั้งแต่วันแรกเสียแล้ว”
“ถ้าคุณไม่รอดฉันจะไม่ให้อภัยคุณ” หญิงสาวพูดน้ำเสียงขึงขัง เรียกเสียงหัวเราะจากชายหนุ่มได้อีกครั้ง
“ต้องขอบคุณฉลามที่ไม่นึกอยากจะกินมนุษย์ตากแห้งสินะ”
“ทำไมคุณถึงไปเจอพายุได้คะ” หญิงสาวถามในสิ่งที่อยู่ในใจมาตลอด ชายหนุ่มจึงเล่าถึงเหตุการณ์นับตั้งแต่เขาออกจากบ้านหลังจากที่กอดเธอเป็นครั้งสุดท้ายให้หญิงสาวฟัง
หลังผละจากหญิงสาว เขาก็ไปที่ลิตเติลฮัท สั่งให้มาร์โคจัดการหาตั๋วเครื่องบินให้หญิงสาว และสั่งให้บาร์บาร่าช่วยดูแลลิลลดาที่บ้านในขณะที่เขาไม่อยู่ เขาไม่ต้องการจะเห็นตอนที่เธอจากไป จึงได้ขับรถไปที่ฟรีแมนเทิลและล่องเรือ “เจ้าวายุ” ขึ้นเหนือ และเมื่อเขากลับมาที่บ้าน เธอก็คงจะกลับไปควีนส์แลนด์เรียบร้อยแล้ว
ก่อนออกเดินทาง เขาตรวจสภาพอากาศและทิศทางลมอย่างที่ทำทุกครั้ง เขาเห็นว่ามีพายุไซโคลนกำลังก่อตัวอยู่ทางเหนือและอยู่ในระยะที่ห่างจากเขามาก มากเกินกว่าจะเป็นอันตราย ชายหนุ่มจึงล่องเรือไปเรื่อยๆ เขาต้องการให้กิจกรรมที่เขาโปรดปรานอย่างการล่องเรือช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้คลายลง
ตามปกติเขาจะจูนวิทยุในเรือไปที่ความถี่ของทางแอมซา[1] เพื่อฟังรายงานสภาพอากาศ หากแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ในความคิดคำนึงของเขามีเรื่องอื่นที่ทำให้เขาหละหลวมต่อความปลอดภัยที่ควรจะให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก จนกระทั่งเขารู้สึกถึงคลื่นที่ลูกโตกว่าปกติ ลมที่แรงผิดปกติ และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าวายุโคลงเคลงไปตามคลื่นลูกโต น้ำทะเลสาดเข้ามาในเรือจนเจิ่งนอง ข้าวของที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าถูกลมพัดปลิวไปทุกทิศทาง ชายหนุ่มเช็คเรดาร์เพื่อดูสภาพอากาศ และพบว่าไซโคลนลูกเล็กที่อยู่ห่างไกลและไม่น่าจะมีผลกระทบกับเขา บัดนี้ได้เปลี่ยนเส้นทางตรงมายังเขา ความเร็วลมเพิ่มขึ้นในระดับที่สามารถพัดทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง และอยู่ห่างจากเขาในระดับที่น่าตกใจ ในระดับที่เขาไม่สามารถพาเจ้าวายุออกจากเส้นทางของไซโคลนได้ทัน
ชายหนุ่มคว้าวิทยุขึ้นมาขอความช่วยเหลือกับทางอาร์ซีซี เขายังพูดไม่ทันจบด้วยซ้ำในตอนที่คลื่นลูกยักษ์โถมเข้าใส่เจ้าวายุ และลมแรงที่หมุนวนอย่างเกรี้ยวกราดก็พัดเสากระโดงหักลงในทันที เจ้าวายุหมุนคว้างก่อนที่จะถูกคลื่นยักษ์อีกลูกโถมเข้าใส่และจมเรือยอร์ชลำน้อยของเขาไปต่อหน้าต่อตา
ชายหนุ่มถูกคลื่นซัดจนตกจากเจ้าวายุ แต่เขาก็พยายามว่ายน้ำกลับเข้ามาหาเรือลำเล็กของเขา ที่ท้ายของเรือยอร์ชมีเรือยางผูกติดอยู่ เป็นเรือยางที่มีไว้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นข้อบังคับที่เรือทุกลำต้องมี อาจจะด้วยสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด หรือด้วยพลังของอดรีนารีนทำให้เขาจัดการแก้เชือกที่ผูกเรือยางกับเรือยอร์ชออกได้สำเร็จ และพาตัวเองขึ้นไปอยู่บนเรือยางได้อย่างปลอดภัย เขามองเรือยอร์ชที่เขารักค่อยๆจมลงไปใต้ผืนน้ำที่กำลังดิ้นพล่านอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่ลมที่รุนแรงก็พัดเรือยางให้ลอยห่างออกไป จนกระทั่งเขามองไม่เห็นเจ้าวายุในที่สุด
เจ้าของคอร์เนลลี่ที่ตอนนี้ฝากชีวิตไว้กับเรือยางลำน้อยจับเรือไว้มั่นอย่างที่รู้ว่าหากเขาหลุดจากเหลือลำนี้ก็จะไม่มีชีวิตรอดท่ามกลางพายุที่บ้าคลั่งนี้ เขาไม่รู้ว่าเขาลอยอยู่ในทะเลนานแค่ไหน อาจจะเป็นวัน.. สองวัน.. สามวัน.. พายุสงบลงแล้ว ผืนน้ำกลับมาสงบ สายลมกลับมาพัดแผ่ว ฝนที่ตกหนักมาตลอดเวลาที่ผ่านมาหายไป มีแต่แสงอาทิตย์อันร้อนแรงที่แผดเผาจนเขาแสบร้อนไปหมดมาแทน ชายหนุ่มรู้สึกหิวและกระหาย แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ภาวนาว่าจะมีใครมาพบเขาเข้า และพาเขากลับไปสู่ความปลอดภัยของผืนแผ่นดิน ออกไปจากความอันตรายของผืนน้ำที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดนี้
จนกระทั่งเรือเดินสมุทรลำนั้นผ่านมาพบเขาเข้า เรือยางถูกพัดลอยห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุไปมาก จนทีมค้นหาหาเขาไม่พบ นับว่าโชคดีที่เขาลอยไปบนเส้นทางเดินเรือของเรือเดินสมุทรลำนั้น หาไม่ เขาอาจจะกลายเป็นมนุษย์ตากแห้งในทะเลไปแล้วจริงๆ
บ่มไวน์ใส่รัก บทที่ ๓๕
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ราฟาเอล คอร์เนลลี่ต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรอให้น้ำเกลือสองขวดหมดตามที่หมอสั่งไว้ คนในครอบครัวคอร์เนลลี่ รวมทั้งมาร์โคและบาร์บาร่าแม่บ้าน กลับไปที่เอสเตทหลังจากแน่ใจว่าเขาปลอดภัยแล้ว มีเพียงลิลลดาที่อยู่กับเขาโดยไม่คิดที่จะปล่อยให้ชายหนุ่มคลาดสายตาไปไหน
“คุณอยากหลับไหมคะ” ลิลลดาถามชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง หากแต่เขากลับส่ายหน้า
“ไม่ล่ะ นอนเยอะแล้ว อยากคุยกับเธอมากกว่า” ชายหนุ่มตอบและยกมือบางขึ้นมาจูบ เมื่อลดมือลงก็ยังคงกุมมือเธอไว้และใช้มืออีกข้างลูบไล้ผิวเนียนเบาๆ
“ เธอรู้ไหม ฉันดีใจมากที่เห็นเธอยังอยู่” ชายหนุ่มบอก
เขายังจำได้ดีถึงการตัดสินใจของหญิงสาวที่ทำให้เขาแทบเป็นบ้า เพราะไม่ว่าเขาจะพยายามอธิบายอย่างไร เธอก็ไม่ฟังเขาเอาเสียเลย เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังจะหนีไปพักโรงแรมเพื่อรอซื้อตั๋วเครื่องบินกลับควีนส์แลนด์เสียอีก เขาเจ็บปวดจนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ที่เห็นเธออยากจะหนีไปให้พ้นๆเขาถึงขนาดนั้น แต่เพราะความรักที่เขามีต่อเธอ ทำให้เขาใจเย็นและให้อภัยในความหุนหันพลันแล่นของเธอ เขาพยายามเข้าใจเธอ ว่าหากเขาเห็นเธอยืนจูบอยู่กับผู้ชายคนอื่น เขาจะยังใจเย็นอยู่ได้หรือเปล่า และเขาก็รู้คำตอบดี เขาจะไม่มีวันใจเย็น และไม่รู้ว่าจะมีวันให้อภัยหญิงสาวหรือเปล่า เหมือนอย่างที่แองเจล่ามีคนอื่น เขาก็บอกเลิกกับเธอได้ง่ายๆ ในตอนนั้นเขาคิดเพียงว่า ราฟาเอล คอร์เนลลี่ก็มีดีพอตัว หากผู้หญิงคนนั้นไม่ซื่อสัตย์ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องเสียเวลาด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อมาร์โคมาบอกกับเขาว่าแองเจล่ามีความสัมพันธ์กับคนอื่นลับหลังเขา เขาจึงตัดสัมพันธ์ได้ง่ายดาย เพียงแต่ความแตกต่างในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็คือ เขาไม่ได้ไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอ หญิงสาวเข้าใจผิด และเขาจะไม่ยอมปล่อยให้เธอทิ้งเขาไปทั้งๆที่ยังเข้าใจผิดๆแน่ แต่ที่เขายอมออกจากบ้าน ยอมปล่อยให้เธอกลับควีนส์แลนด์ ก็เพราะรู้ว่าเหตุการณ์เพิ่งเกิดสดๆร้อนๆ และหญิงสาวเสียใจเกินกว่าจะมีสติรับฟังเหตุผลใดๆ เขาจึงปล่อยให้เธอไปอยู่ห่างเขาสักพัก และเมื่อถึงเวลาที่เขาคิดว่าเธอน่าจะใจเย็นลงแล้ว เขาก็จะตามไปปรับความเข้าใจกับเธอ แค่ควีนส์แลนด์ที่นั่งเครื่องบินไม่กี่ชั่วโมง ไม่เป็นอุปสรรคต่อเขาเลย อย่าว่าแต่ควีนส์แลนด์ ต่อให้หญิงสาวหนีเขาไปอยู่คนละมุมโลก เขาก็จะตามไป
ในตอนที่อยู่บนเรือยางในทะเลที่เวิ้งว้าง ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้อนาคต ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาหรือเปล่า สิ่งเดียวที่เขาเสียดายหากว่าเขาต้องตายไป ก็คือเขาจะตายโดยที่ลิลลดายังเข้าใจเขาผิด ส่วนความสัมพันธ์ที่ผ่านมาระหว่างเขาและเธอนั้น ชายหนุ่มไม่มีอะไรให้เสียใจเลย เพราะเขารู้ว่าเขารักเธอและทำทุกอย่างอย่างเต็มที่และดีที่สุดแล้ว
เมื่อเขาได้รับความช่วยเหลือจากเรือเดินทะเลลำนั้น ชายหนุ่มรู้สึกดีใจเหมือนได้เกิดใหม่ทั้งๆที่ยังไม่ตาย หากเรือลำนั้นไม่ช่วยเขาไว้ ป่านนี้เขาอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ตายไปทั้งๆที่ลิลลดายังคิดว่าเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอ และจะเป็นสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มเสียใจที่สุด
“คิดอะไรอยู่คะ” คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆเตียงเขาถามขึ้นเมื่อเห็นเขาเงียบไป ชายหนุ่มบีบมือหญิงสาวเบาๆ ยกขึ้นมาจูบอีกครั้ง ก่อนจะตอบ
“กำลังคิดว่า หากฉันตายโดยที่เธอยังคิดว่าฉันไม่ซื่อสัตย์ต่อเธออยู่ ฉันคงเสียใจมาก”
“โธ่ คุณราฟ ฉันขอโทษนะคะ” หญิงสาวกล่าวน้ำเสียงเศร้าสร้อย น้ำตาทำท่าจะเอ่อล้นขึ้นมาบนหน่วยตาคู่งามอีกครั้ง ชายหนุ่มยกมือลูบศีรษะหญิงสาวเบาๆ
“อย่าคิดมากเลยลิลลี่ มันผ่านไปแล้ว ฉันขอเพียงนับแต่จากนี้ หากมีอะไรไม่เข้าใจกัน ขอให้เราหันมาคุยกันได้ไหม ไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงแค่ไหนก็ตาม” ชายหนุ่มถาม และจ้องตาหญิงสาวด้วยสายตาจริงจัง
“ฉันสัญญาค่ะ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ฉันจะไม่หนี ฉันจะไม่มีวันหนีคุณไปไหนอีกแล้ว” หญิงสาวกล่าวน้ำเสียงจริงจัง และเธอก็หมายความตามที่พูดทุกประการ
“ฉันฝันว่าคุณโดนฉลามกัดไปครึ่งตัว ฉันไปดูศพคุณ ความฝันนั้นชัดเจนมาก มากจนฉันคิดว่าเป็นเรื่องจริง ฉันรู้ในตอนนั้นว่าฉันไม่สามารถมีชีวิตอยู่โดยไม่มีคุณได้ ฉันได้แต่ภาวนา ภาวนาให้คุณฟื้นคืนมา เพื่อที่ฉันจะได้มีโอกาสอีกครั้ง โอกาสที่จะฟังคุณอธิบาย โอกาสที่จะทำทุกวินาทีที่อยู่กับคุณให้มีค่าที่สุด และเมื่อฉันรู้ว่ามันเป็นแค่ความฝัน ฉันดีใจจนไม่รู้จะพูดยังไง แม้ว่าตอนนั้นจะยังไม่เจอตัวคุณ แต่อย่างน้อยฉันก็ยังมีความหวัง และตอนนี้คุณกลับมาแล้ว อยู่ตรงหน้าฉันตรงนี้ ฉันได้รับโอกาสอีกครั้ง ฉันจะไม่ปล่อยให้เวลาที่ควรจะใช้กับคุณอย่างมีความสุข ต้องเสียไปเพราะเรื่องเข้าใจผิด ฉันไม่อยากจะต้องภาวนาขอโอกาสอีกครั้งเมื่อสายเกินไป แค่ในฝันแค่นั้นก็เจ็บปวดเกินพอ” หญิงสาวพูดยืดยาว ราฟาเอลยิ้มเหมือนกับขำเสียเต็มประดา จนทำให้เธอต้องตัดพ้ออย่างน้อยใจ
“มันฟังดูน่าตลกเหรอคะ” ถามด้วยน้ำเสียงเง้างอด ชายหนุ่มหัวเราะก่อนจะตอบ
“ตลกตรงที่ฉันโดนฉลามกินไปแค่ครึ่งตัวน่ะ” ชายหนุ่มตอบ ก่อนที่จะพูดต่อ
“จริงๆแล้วถือว่าโชคดีที่ยังเหลือไว้ให้ตั้งครึ่งตัว ปกติถ้าอยู่ในทะเลนานขนาดนั้น เหลือแค่ขาสักข้างก็บุญแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ ก่อนที่จะพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
“ฉันเข้าใจที่เธอฝันแบบนั้นลิลลี่ ใครๆก็รู้ว่าทะเลฝั่งนี้ฉลามดุแค่ไหน ฉันยังประหลาดใจที่รอดมาได้ตั้งหลายวัน นึกว่าจะกลายเป็นอาหารไอ้หลามตั้งแต่วันแรกเสียแล้ว”
“ถ้าคุณไม่รอดฉันจะไม่ให้อภัยคุณ” หญิงสาวพูดน้ำเสียงขึงขัง เรียกเสียงหัวเราะจากชายหนุ่มได้อีกครั้ง
“ต้องขอบคุณฉลามที่ไม่นึกอยากจะกินมนุษย์ตากแห้งสินะ”
“ทำไมคุณถึงไปเจอพายุได้คะ” หญิงสาวถามในสิ่งที่อยู่ในใจมาตลอด ชายหนุ่มจึงเล่าถึงเหตุการณ์นับตั้งแต่เขาออกจากบ้านหลังจากที่กอดเธอเป็นครั้งสุดท้ายให้หญิงสาวฟัง
หลังผละจากหญิงสาว เขาก็ไปที่ลิตเติลฮัท สั่งให้มาร์โคจัดการหาตั๋วเครื่องบินให้หญิงสาว และสั่งให้บาร์บาร่าช่วยดูแลลิลลดาที่บ้านในขณะที่เขาไม่อยู่ เขาไม่ต้องการจะเห็นตอนที่เธอจากไป จึงได้ขับรถไปที่ฟรีแมนเทิลและล่องเรือ “เจ้าวายุ” ขึ้นเหนือ และเมื่อเขากลับมาที่บ้าน เธอก็คงจะกลับไปควีนส์แลนด์เรียบร้อยแล้ว
ก่อนออกเดินทาง เขาตรวจสภาพอากาศและทิศทางลมอย่างที่ทำทุกครั้ง เขาเห็นว่ามีพายุไซโคลนกำลังก่อตัวอยู่ทางเหนือและอยู่ในระยะที่ห่างจากเขามาก มากเกินกว่าจะเป็นอันตราย ชายหนุ่มจึงล่องเรือไปเรื่อยๆ เขาต้องการให้กิจกรรมที่เขาโปรดปรานอย่างการล่องเรือช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้คลายลง
ตามปกติเขาจะจูนวิทยุในเรือไปที่ความถี่ของทางแอมซา[1] เพื่อฟังรายงานสภาพอากาศ หากแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก ในความคิดคำนึงของเขามีเรื่องอื่นที่ทำให้เขาหละหลวมต่อความปลอดภัยที่ควรจะให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก จนกระทั่งเขารู้สึกถึงคลื่นที่ลูกโตกว่าปกติ ลมที่แรงผิดปกติ และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าวายุโคลงเคลงไปตามคลื่นลูกโต น้ำทะเลสาดเข้ามาในเรือจนเจิ่งนอง ข้าวของที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าถูกลมพัดปลิวไปทุกทิศทาง ชายหนุ่มเช็คเรดาร์เพื่อดูสภาพอากาศ และพบว่าไซโคลนลูกเล็กที่อยู่ห่างไกลและไม่น่าจะมีผลกระทบกับเขา บัดนี้ได้เปลี่ยนเส้นทางตรงมายังเขา ความเร็วลมเพิ่มขึ้นในระดับที่สามารถพัดทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง และอยู่ห่างจากเขาในระดับที่น่าตกใจ ในระดับที่เขาไม่สามารถพาเจ้าวายุออกจากเส้นทางของไซโคลนได้ทัน
ชายหนุ่มคว้าวิทยุขึ้นมาขอความช่วยเหลือกับทางอาร์ซีซี เขายังพูดไม่ทันจบด้วยซ้ำในตอนที่คลื่นลูกยักษ์โถมเข้าใส่เจ้าวายุ และลมแรงที่หมุนวนอย่างเกรี้ยวกราดก็พัดเสากระโดงหักลงในทันที เจ้าวายุหมุนคว้างก่อนที่จะถูกคลื่นยักษ์อีกลูกโถมเข้าใส่และจมเรือยอร์ชลำน้อยของเขาไปต่อหน้าต่อตา
ชายหนุ่มถูกคลื่นซัดจนตกจากเจ้าวายุ แต่เขาก็พยายามว่ายน้ำกลับเข้ามาหาเรือลำเล็กของเขา ที่ท้ายของเรือยอร์ชมีเรือยางผูกติดอยู่ เป็นเรือยางที่มีไว้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นข้อบังคับที่เรือทุกลำต้องมี อาจจะด้วยสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด หรือด้วยพลังของอดรีนารีนทำให้เขาจัดการแก้เชือกที่ผูกเรือยางกับเรือยอร์ชออกได้สำเร็จ และพาตัวเองขึ้นไปอยู่บนเรือยางได้อย่างปลอดภัย เขามองเรือยอร์ชที่เขารักค่อยๆจมลงไปใต้ผืนน้ำที่กำลังดิ้นพล่านอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่ลมที่รุนแรงก็พัดเรือยางให้ลอยห่างออกไป จนกระทั่งเขามองไม่เห็นเจ้าวายุในที่สุด
เจ้าของคอร์เนลลี่ที่ตอนนี้ฝากชีวิตไว้กับเรือยางลำน้อยจับเรือไว้มั่นอย่างที่รู้ว่าหากเขาหลุดจากเหลือลำนี้ก็จะไม่มีชีวิตรอดท่ามกลางพายุที่บ้าคลั่งนี้ เขาไม่รู้ว่าเขาลอยอยู่ในทะเลนานแค่ไหน อาจจะเป็นวัน.. สองวัน.. สามวัน.. พายุสงบลงแล้ว ผืนน้ำกลับมาสงบ สายลมกลับมาพัดแผ่ว ฝนที่ตกหนักมาตลอดเวลาที่ผ่านมาหายไป มีแต่แสงอาทิตย์อันร้อนแรงที่แผดเผาจนเขาแสบร้อนไปหมดมาแทน ชายหนุ่มรู้สึกหิวและกระหาย แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ภาวนาว่าจะมีใครมาพบเขาเข้า และพาเขากลับไปสู่ความปลอดภัยของผืนแผ่นดิน ออกไปจากความอันตรายของผืนน้ำที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดนี้
จนกระทั่งเรือเดินสมุทรลำนั้นผ่านมาพบเขาเข้า เรือยางถูกพัดลอยห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุไปมาก จนทีมค้นหาหาเขาไม่พบ นับว่าโชคดีที่เขาลอยไปบนเส้นทางเดินเรือของเรือเดินสมุทรลำนั้น หาไม่ เขาอาจจะกลายเป็นมนุษย์ตากแห้งในทะเลไปแล้วจริงๆ