รู้ทันมะเร็ง : ติดเชื้อแทรกซ้อนผู้ป่วยมะเร็ง : นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วต้องเสียคนไข้มะเร็งต่อมน้ำเหลืองไปอีกรายจากภาวะติดเชื้อที่ปอดรุนแรง ทั้งๆ ที่ตัวโรคมะเร็งเองยังไม่ได้ลุกลามแพร่กระจายไปที่ไหนไกลรวมถึงที่ปอดเองก็ยังปกติดีอยู่ แต่พอเกิดการติดเชื้อขึ้นในโรงพยาบาลที่เชื้อโรคมักจะดุร้ายและดื้อยากว่าเชื้อโรคนอกโรงพยาบาล ผู้ป่วยก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว ต้องเข้าห้องไอซียู ใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจ เมื่อเอาการติดเชื้อไม่อยู่ สุดท้ายระบบหัวใจและการไหลเวียนก็ล้มเหลวและเสียชีวิตในที่สุด
พูดถึงเชื้อโรคนอกจากจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งแล้ว เช่น เชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไร หรือเชื้อเอชไพโลไรเป็นสาเหตุของมะเร็งกระเพาะอาหาร เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและชนิดซีเป็นสาเหตุของมะเร็งเซลล์ตับ เชื้อไวรัสฮิวแมนแปปปิโลมา หรือไวรัสเอชพีวีเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก มะเร็งอวัยวะเพศชาย มะเร็งอวัยวะเพศหญิง มะเร็งช่องคลอด มะเร็งช่องปาก มะเร็งลำคอด้านในบริเวณโคนลิ้น เพดานอ่อนและต่อมทอนซิล เชื้อโรคกลุ่มที่เป็นสาเหตุมะเร็งพวกนี้มักเป็นการติดเชื้อแบบเรื้อรัง ทำให้เซลล์ปกติค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็ง แต่เชื้อโรคที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตมักเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียแบบเฉียบพลัน เนื่องจากตัวผู้ป่วยมะเร็งเอง มักมีภาวะภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทานที่ต่ำกว่าคนปกติอยู่แล้ว
เมื่อได้รับการรักษาประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด การฉายแสงก็ยิ่งทำให้ภูมิคุ้มกันยิ่งแย่ไปกันใหญ่ แต่เป็นเพราะต้องการกำจัดเซลล์มะเร็งให้ราบคาบ จึงจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงตรงจุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ยาเคมีบำบัดและการฉายแสงที่จะมีผลกระทบต่อไขกระดูกค่อนข้างสูง อันจะมีผลทำให้การสร้างเม็ดเลือดขาวของไขกระดูกลดต่ำลง นอกจากนั้นประสิทธิภาพการทำงานต่อสู้กับเชื้อโรคก็ลดลงกว่าปกติเช่นกัน ทำให้ต้องฉีดยากระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดขาวมากขึ้นเมื่อจำนวนเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าปกติมาก เพราะมีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้ออย่างรุนแรงได้
การติดเชื้อแทรกซ้อนในผู้ป่วยมะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกอวัยวะ ไม่ว่าจะเป็นระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ ทางเดินน้ำดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องใส่ท่อหรือสายสวนต่างๆ เข้าไปในร่างกาย ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงสูงขึ้นไปอีกที่จะเกิดการติดเชื้อมากกว่าผู้ป่วยมะเร็งที่ไม่มีท่อหรือสายสวน รู้อย่างนี้แล้วผู้ป่วยมะเร็งก็ต้องระวังรักษาสุขภาพให้ห่างไกลจากการติดเชื้อให้มากกว่าคนปกติ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ยิ่งช่วงนี้ฝนตกบ่อย เจอคนป่วยไอจามก็ต้องอยู่ห่างๆ ใครที่ใส่ท่อหรือสายสวนต่างๆ ก็ต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดให้ดี ที่สำคัญไม่ต้องไปหาเรื่องใส่ตัวด้วยการไปหายาหม้อ ยาผีบอกมากิน เพราะมักจะมีสเตียรอยด์ผสมอยู่ด้วย ยิ่งทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ติดเชื้อง่ายไปกันใหญ่นะครับ...ขอบอก
เครดิตจาก คมชัดลึก
ติดเชื้อแทรกซ้อนผู้ป่วยมะเร็ง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วต้องเสียคนไข้มะเร็งต่อมน้ำเหลืองไปอีกรายจากภาวะติดเชื้อที่ปอดรุนแรง ทั้งๆ ที่ตัวโรคมะเร็งเองยังไม่ได้ลุกลามแพร่กระจายไปที่ไหนไกลรวมถึงที่ปอดเองก็ยังปกติดีอยู่ แต่พอเกิดการติดเชื้อขึ้นในโรงพยาบาลที่เชื้อโรคมักจะดุร้ายและดื้อยากว่าเชื้อโรคนอกโรงพยาบาล ผู้ป่วยก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว ต้องเข้าห้องไอซียู ใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจ เมื่อเอาการติดเชื้อไม่อยู่ สุดท้ายระบบหัวใจและการไหลเวียนก็ล้มเหลวและเสียชีวิตในที่สุด
พูดถึงเชื้อโรคนอกจากจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งแล้ว เช่น เชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไร หรือเชื้อเอชไพโลไรเป็นสาเหตุของมะเร็งกระเพาะอาหาร เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและชนิดซีเป็นสาเหตุของมะเร็งเซลล์ตับ เชื้อไวรัสฮิวแมนแปปปิโลมา หรือไวรัสเอชพีวีเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก มะเร็งอวัยวะเพศชาย มะเร็งอวัยวะเพศหญิง มะเร็งช่องคลอด มะเร็งช่องปาก มะเร็งลำคอด้านในบริเวณโคนลิ้น เพดานอ่อนและต่อมทอนซิล เชื้อโรคกลุ่มที่เป็นสาเหตุมะเร็งพวกนี้มักเป็นการติดเชื้อแบบเรื้อรัง ทำให้เซลล์ปกติค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็ง แต่เชื้อโรคที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตมักเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียแบบเฉียบพลัน เนื่องจากตัวผู้ป่วยมะเร็งเอง มักมีภาวะภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทานที่ต่ำกว่าคนปกติอยู่แล้ว
เมื่อได้รับการรักษาประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด การฉายแสงก็ยิ่งทำให้ภูมิคุ้มกันยิ่งแย่ไปกันใหญ่ แต่เป็นเพราะต้องการกำจัดเซลล์มะเร็งให้ราบคาบ จึงจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงตรงจุดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ยาเคมีบำบัดและการฉายแสงที่จะมีผลกระทบต่อไขกระดูกค่อนข้างสูง อันจะมีผลทำให้การสร้างเม็ดเลือดขาวของไขกระดูกลดต่ำลง นอกจากนั้นประสิทธิภาพการทำงานต่อสู้กับเชื้อโรคก็ลดลงกว่าปกติเช่นกัน ทำให้ต้องฉีดยากระตุ้นไขกระดูกให้สร้างเม็ดเลือดขาวมากขึ้นเมื่อจำนวนเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าปกติมาก เพราะมีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้ออย่างรุนแรงได้
การติดเชื้อแทรกซ้อนในผู้ป่วยมะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกอวัยวะ ไม่ว่าจะเป็นระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ ทางเดินน้ำดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องใส่ท่อหรือสายสวนต่างๆ เข้าไปในร่างกาย ยิ่งมีโอกาสเสี่ยงสูงขึ้นไปอีกที่จะเกิดการติดเชื้อมากกว่าผู้ป่วยมะเร็งที่ไม่มีท่อหรือสายสวน รู้อย่างนี้แล้วผู้ป่วยมะเร็งก็ต้องระวังรักษาสุขภาพให้ห่างไกลจากการติดเชื้อให้มากกว่าคนปกติ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ยิ่งช่วงนี้ฝนตกบ่อย เจอคนป่วยไอจามก็ต้องอยู่ห่างๆ ใครที่ใส่ท่อหรือสายสวนต่างๆ ก็ต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดให้ดี ที่สำคัญไม่ต้องไปหาเรื่องใส่ตัวด้วยการไปหายาหม้อ ยาผีบอกมากิน เพราะมักจะมีสเตียรอยด์ผสมอยู่ด้วย ยิ่งทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ติดเชื้อง่ายไปกันใหญ่นะครับ...ขอบอก
เครดิตจาก คมชัดลึก