Credit : บทความเปิดฟ้าส่องโลกเรื่องเงินอาเซียน โดย คุณนิติ นวรัตน์ (ลูกคุณนิติภูมิ)
วันที่ ๒๓, ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖
-------

ตามพ่อไปบรรยายเมื่อวันก่อน ท่านผู้ฟังถามว่า บรรดาธนบัตรของประชาคมอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ มีภาพประธานและภาพประกอบอะไรอยู่บนธนบัตรบ้าง เพราะภาพประธานและภาพประกอบ รวมทั้งภาพซ้อนทับบนธนบัตรบ่งบอกถึงความเป็นตัวตน ถึงบุคคลหรือสิ่งของที่อยู่ใต้สมองของคนทั้งชาติ
ผู้อ่านท่านผู้เจริญ ตอนนี้นะครับ ชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่รวมกันเป็นประชาคมอาเซียน 10 ประเทศ พยายามที่จะแลกเปลี่ยนเงินตราโดยตรงด้วยเงินสกุลท้องถิ่น พยายามเลี่ยงไม่ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะทุกทีที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนตัว แข็งตัว ประชาชนคนในประเทศพวกเราก็มีความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ที่ว่า
ผู้ฟังท่านถามพ่อผมถึงการรวมสกุลเงินในกลุ่มประชาคมอาเซียนให้เป็นสกุลเงินเดียวกันอย่างเงินยูโรของประชาคมยุโรปนั้น เป็นไปได้ไหม? พ่อผมตอบว่า เดิมก็มีผู้นำหลายประเทศพูดถึง AMU หรือ ASEAN Monetary Unit แต่หลังจากที่กรีซ สเปน โปรตุเกส อิตาลี ฯลฯ มีปัญหาเศรษฐกิจ และลากประเทศในยูโรโซนที่ใช้เงินสกุลยูโรด้วยกันให้มีปัญหาไปด้วย ความคิดที่จะมี AMU หรือเงินตราอาเซียนประเภทอื่นก็พลอยมลายหายไปด้วย
แต่เรื่องธนาคารกลางอาเซียน พ่อบอกว่า ยังพอมีทางเป็นไปได้ เพราะผู้นำทุกประเทศเข้าใจตรงกันว่า การจะพัฒนาประชาคมอาเซียนให้ประสบพบความสำเร็จ จะต้องมีธนาคารกลางอาเซียนที่คอยกำกับดูแล อำนวยความสะดวก และให้บริการทางการเงินในประชาคมอาเซียนหลังการเปิดเสรี พ.ศ.2558 ไปแล้ว
กลับมาเรื่องภาพประธานและภาพประกอบในธนบัตรของแต่ละประเทศในประชาคมอาเซียนที่ท่านถามมา เรียนก่อนนะครับ คำว่า ภาพประธานก็คือภาพใหญ่บนธนบัตรทั้งด้านหน้าและด้านหลังของธนบัตร ส่วนภาพอื่นที่อยู่รอบภาพประธานเราเรียกว่าภาพประกอบ ส่วนภาพซ้อนทับ ก็คือภาพที่เมื่อมองจากด้านหน้า หรือด้านหลังของธนบัตรเพียงด้านเดียว จะเห็นเป็นภาพเว้าแหว่ง เมื่อท่านยกส่องไฟจึงจะเห็นภาพจากทั้งสองด้านของธนบัตรมาประกอบเป็นภาพสมบูรณ์ ภาพซ้อนทับ ลายน้ำ กระดาษฟอยล์ และช่องใสพวกนี้ มีไว้เพื่อป้องกันการปลอมแปลงธนบัตรครับ
ผู้อ่านท่านที่เคารพ สมัยก่อนตอนที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าอาณานิคม ปกครองลาว กัมพูชา และเวียดนาม ฝรั่งเศสตั้งธนาคารกลางแห่งอินโดจีนผลิตธนบัตรสกุลเงินเปียสต์ กระทั่ง 2 กันยายน 2488 ฝ่ายปฏิวัติของโฮจิมินห์ประกาศให้เวียดนามเป็นเอกราช เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางแห่งอินโดจีนรู้ว่าแพ้แน่แล้ว ก็เผ่นหนีออกนอกประเทศ และก็หยุดจ่ายเงินเปียสต์ให้แก่เวียดนามตั้งแต่ 23 ตุลาคม 2488
เวียดนามไม่มีเงินใช้ รัฐบาลก็เอาเงินและทองมาใช้จ่าย จนกระทั่ง 31 มกราคม 2489 รัฐบาลเวียดนามก็ผลิตเงินสกุลใหม่ของตนเองมาใช้ได้ เรียกว่า เงินสกุลด่ง โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับเงินเปียสต์ของอินโดจีน
ต่อมาเวียดนามแบ่งออกเป็นเวียดนามเหนือและใต้ เงินด่งก็เป็น 2 แบบ เวียดนามเหนือมีเงินด่งแบบหนึ่ง เวียดนามใต้ก็แบบหนึ่ง เมื่อรวมประเทศกันได้ใน พ.ศ.2519 ค่าเงินด่งของทั้งสองประเทศก็จึงถูกปรับให้มามีอัตราแลกเปลี่ยนเท่ากัน ต่อมามีธนาคารแห่งชาติเวียดนาม ผลิตเงินด่งชุดใหม่ออกมาใช้เมื่อ 3 พฤษภาคม 2521
ผมตอบคำถามต่อจากฉบับเมื่อวาน ที่ท่านถามว่า บนธนบัตรของประเทศกลุ่มอาเซียน มีภาพประธานและภาพประกอบอะไรบ้าง ขอเรียนว่า ธนบัตรของเวียดนามทุกประเภท ภาพประธานเป็นภาพของท่านโฮจิมินห์ ส่วนด้านหลังของเงินญวนฉบับ 200 ด่งเป็นภาพรถแทรกเตอร์กำลังไถในนาข้าว มีชาวนาทำนาอยู่ 4 คน

ผู้อ่านท่านคงเดาออกนะครับ ว่าเวียดนามให้ความสำคัญกับอาชีพเกษตรกรรมมากขนาดเอามาอยู่ในธนบัตร
ด้านหลังของธนบัตรใบละ 500 ด่ง เป็นภาพท่าเรือไฮฟอง ซึ่งเป็นท่าเรือยุทธศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางการผลิตสินค้าของเวียดนามตอนเหนือ
ภาพด้านหลังของธนบัตร 1,000 ด่ง เป็นภาพช้างลากซุงในเมืองเตยเวียน เวียดนามให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมป่าไม้ที่นำรายได้เข้าประเทศเป็นอันดับ 8 เดี๋ยวนี้เวียดนามเป็นอันดับต้นๆของโลกในการส่งออกเฟอร์นิเจอร์
ด้านหลังของธนบัตร 2,000 ด่ง เป็นภาพบรรยากาศในการทำงานในโรงงานทอผ้านามดิ่ญ จ.นามดิ่ญ

เวียดนามให้ความสำคัญกับโรงงานทอผ้าถึงขนาดนำมาบรรจุเป็นภาพในธนบัตร ทำให้ผู้คนในอุตสาหกรรมนี้มีกำลังใจ บั้นปลายท้ายที่สุด เสื้อผ้าและสิ่งทอก็นำรายได้เข้าประเทศเป็นลำดับ 2 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าของเวียดนามแซงประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ.2549 และตอนนี้ เวียดนามประกาศว่าหลังจากเปิดประชาคมอาเซียนอย่างสมบูรณ์ใน พ.ศ.2558 ตนจะเป็นผู้ส่งออกสิ่งทอเป็นอันดับ 5 ของโลก
ด้านหลังของธนบัตร 5,000 ด่ง เป็นภาพโรงไฟฟ้าพลังน้ำ จิอาน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของเวียดนาม ตั้งอยู่ในจังหวัดด่งนาย
ฉบับละ 10,000 ด่ง เป็นภาพการขุดเจาะน้ำมันชายฝั่งของเวียดนาม ที่กิจการร่วมค้าเวียดโซฟปิโตรของรัสเซียกับเวียดนามขุดพบแหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งเมื่อ พ.ศ.2524

การมีแหล่งน้ำมันเป็นของตนเอง ทำให้เวียดนามตั้งเป้าไว้ว่า ต่อไปในอนาคต ภาคอุตสาหกรรมของประเทศจะทำรายได้แทนที่ภาคเกษตรกรรม
ด้านหลังของธนบัตรใบละ 20,000 ด่ง เป็นภาพสะพานญี่ปุ่น
50,000 ด่ง เป็นภาพนครจักรพรรดิ
ตั้งแต่ พ.ศ.2547 เป็นต้นมา รัฐบาลญวนเริ่มผลิตธนบัตรใบละ 100,000 ด่ง มีภาพด้านหลังเป็นวันเหมียว หรือวิหารวรรณกรรม ที่สร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศแก่ขงจื๊อ
พ.ศ.2549 เวียดนามผลิตธนบัตรใบละ 200,000 ด่ง ภาพด้านหลังเป็นอ่าวฮาลองในจังหวัดกว่างนิญ
พ.ศ.2546 รัฐบาลผลิตธนบัตรใบละ 500,000 ด่ง ภาพด้านหลังเป็นหมู่บ้านฮว่างจู่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโฮจิมินห์ ในจังหวัดเง่อาน
...เดิมลาวใช้เงินสกุลเปียสต์เหมือนกัมพูชาและเวียดนาม พอได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส ลาวอิสระที่นำโดยเจ้าเพชรรัตน์และเจ้าสุภานุวงศ์ตั้งรัฐบาลได้ ก็ออกธนบัตรสกุลกีบกระต่าย ต่อมาลาวเป็นราชอาณาจักร ก็ใช้เงินสกุล Royal Kip หรือกีบหลวง
พ.ศ.2500 ธนาคารแห่งชาติลาวให้เรียกเงินสกุลใหม่ว่า กีบเวียงจันทน์ แต่ในเวลาเดียวกัน ก็มีรัฐบาลของเจ้าสุวรรณภูมาต่อต้านอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ของรัฐบาลปะเทดลาวของเจ้าสุภานุวงศ์ รัฐบาลของเจ้าสุวรรณภูมาก็ออกเงินสกุล กีบคังไข ออกมาใช้คู่กัน
พ.ศ.2511 ขบวนการปะเทดลาวออกเงินสกุล กีบลาวเสรี เพื่อขยายการควบคุมเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ.2518 ก็ประกาศยึดอำนาจจากรัฐบาลราชอาณาจักรลาว และออกสกุลเงินกีบใหม่ ใช้กันมายาวนานจนถึงทุกวันนี้
ตั้งแต่ พ.ศ.2534 เป็นต้นมา ลาวไม่มีเงินเหรียญใช้ มีแต่ธนบัตรชนิดราคา 1,000, 2,000, 5,000, 10,000, 20,000, 50,000 และ 100,000 กีบ
ด้านหน้าของธนบัตรส่วนใหญ่เป็นภาพของลุงไกสอน พมวิหาน ภาพด้านหลัง ก็เป็นภาพเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า (ธนบัตรใบละ 2,000 กีบ)
ภาพโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ในเมืองวังเวียง (5,000 กีบ)
ภาพสะพานข้ามแม่น้ำโขงเมืองปากเซ (10,000 กีบ)
ภาพเขื่อนเทิน-หินบูน (20,000 กีบ)
ส่วนธนบัตรราคา 100,000 กีบที่พิมพ์เมื่อ 2553 ด้านหน้าเป็นอนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช+ดอกจำปาลาว ที่บ้านเราเรียกดอกลั่นทม และด้านหลังเป็นภาพหอพระแก้ว ซึ่งเดิมเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต
ภาพในธนบัตร บอกถึงสิ่งที่อยู่ใต้สมองของผู้คนชนชาตินั้นๆ ครับ.
-------
เกร็ดความรู้ : เงินอาเซียน
วันที่ ๒๓, ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖
-------
ตามพ่อไปบรรยายเมื่อวันก่อน ท่านผู้ฟังถามว่า บรรดาธนบัตรของประชาคมอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ มีภาพประธานและภาพประกอบอะไรอยู่บนธนบัตรบ้าง เพราะภาพประธานและภาพประกอบ รวมทั้งภาพซ้อนทับบนธนบัตรบ่งบอกถึงความเป็นตัวตน ถึงบุคคลหรือสิ่งของที่อยู่ใต้สมองของคนทั้งชาติ
ผู้อ่านท่านผู้เจริญ ตอนนี้นะครับ ชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่รวมกันเป็นประชาคมอาเซียน 10 ประเทศ พยายามที่จะแลกเปลี่ยนเงินตราโดยตรงด้วยเงินสกุลท้องถิ่น พยายามเลี่ยงไม่ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะทุกทีที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนตัว แข็งตัว ประชาชนคนในประเทศพวกเราก็มีความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ที่ว่า
ผู้ฟังท่านถามพ่อผมถึงการรวมสกุลเงินในกลุ่มประชาคมอาเซียนให้เป็นสกุลเงินเดียวกันอย่างเงินยูโรของประชาคมยุโรปนั้น เป็นไปได้ไหม? พ่อผมตอบว่า เดิมก็มีผู้นำหลายประเทศพูดถึง AMU หรือ ASEAN Monetary Unit แต่หลังจากที่กรีซ สเปน โปรตุเกส อิตาลี ฯลฯ มีปัญหาเศรษฐกิจ และลากประเทศในยูโรโซนที่ใช้เงินสกุลยูโรด้วยกันให้มีปัญหาไปด้วย ความคิดที่จะมี AMU หรือเงินตราอาเซียนประเภทอื่นก็พลอยมลายหายไปด้วย
แต่เรื่องธนาคารกลางอาเซียน พ่อบอกว่า ยังพอมีทางเป็นไปได้ เพราะผู้นำทุกประเทศเข้าใจตรงกันว่า การจะพัฒนาประชาคมอาเซียนให้ประสบพบความสำเร็จ จะต้องมีธนาคารกลางอาเซียนที่คอยกำกับดูแล อำนวยความสะดวก และให้บริการทางการเงินในประชาคมอาเซียนหลังการเปิดเสรี พ.ศ.2558 ไปแล้ว
กลับมาเรื่องภาพประธานและภาพประกอบในธนบัตรของแต่ละประเทศในประชาคมอาเซียนที่ท่านถามมา เรียนก่อนนะครับ คำว่า ภาพประธานก็คือภาพใหญ่บนธนบัตรทั้งด้านหน้าและด้านหลังของธนบัตร ส่วนภาพอื่นที่อยู่รอบภาพประธานเราเรียกว่าภาพประกอบ ส่วนภาพซ้อนทับ ก็คือภาพที่เมื่อมองจากด้านหน้า หรือด้านหลังของธนบัตรเพียงด้านเดียว จะเห็นเป็นภาพเว้าแหว่ง เมื่อท่านยกส่องไฟจึงจะเห็นภาพจากทั้งสองด้านของธนบัตรมาประกอบเป็นภาพสมบูรณ์ ภาพซ้อนทับ ลายน้ำ กระดาษฟอยล์ และช่องใสพวกนี้ มีไว้เพื่อป้องกันการปลอมแปลงธนบัตรครับ
ผู้อ่านท่านที่เคารพ สมัยก่อนตอนที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าอาณานิคม ปกครองลาว กัมพูชา และเวียดนาม ฝรั่งเศสตั้งธนาคารกลางแห่งอินโดจีนผลิตธนบัตรสกุลเงินเปียสต์ กระทั่ง 2 กันยายน 2488 ฝ่ายปฏิวัติของโฮจิมินห์ประกาศให้เวียดนามเป็นเอกราช เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางแห่งอินโดจีนรู้ว่าแพ้แน่แล้ว ก็เผ่นหนีออกนอกประเทศ และก็หยุดจ่ายเงินเปียสต์ให้แก่เวียดนามตั้งแต่ 23 ตุลาคม 2488
เวียดนามไม่มีเงินใช้ รัฐบาลก็เอาเงินและทองมาใช้จ่าย จนกระทั่ง 31 มกราคม 2489 รัฐบาลเวียดนามก็ผลิตเงินสกุลใหม่ของตนเองมาใช้ได้ เรียกว่า เงินสกุลด่ง โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับเงินเปียสต์ของอินโดจีน
ต่อมาเวียดนามแบ่งออกเป็นเวียดนามเหนือและใต้ เงินด่งก็เป็น 2 แบบ เวียดนามเหนือมีเงินด่งแบบหนึ่ง เวียดนามใต้ก็แบบหนึ่ง เมื่อรวมประเทศกันได้ใน พ.ศ.2519 ค่าเงินด่งของทั้งสองประเทศก็จึงถูกปรับให้มามีอัตราแลกเปลี่ยนเท่ากัน ต่อมามีธนาคารแห่งชาติเวียดนาม ผลิตเงินด่งชุดใหม่ออกมาใช้เมื่อ 3 พฤษภาคม 2521
ผมตอบคำถามต่อจากฉบับเมื่อวาน ที่ท่านถามว่า บนธนบัตรของประเทศกลุ่มอาเซียน มีภาพประธานและภาพประกอบอะไรบ้าง ขอเรียนว่า ธนบัตรของเวียดนามทุกประเภท ภาพประธานเป็นภาพของท่านโฮจิมินห์ ส่วนด้านหลังของเงินญวนฉบับ 200 ด่งเป็นภาพรถแทรกเตอร์กำลังไถในนาข้าว มีชาวนาทำนาอยู่ 4 คน
ผู้อ่านท่านคงเดาออกนะครับ ว่าเวียดนามให้ความสำคัญกับอาชีพเกษตรกรรมมากขนาดเอามาอยู่ในธนบัตร
ด้านหลังของธนบัตรใบละ 500 ด่ง เป็นภาพท่าเรือไฮฟอง ซึ่งเป็นท่าเรือยุทธศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางการผลิตสินค้าของเวียดนามตอนเหนือ
ภาพด้านหลังของธนบัตร 1,000 ด่ง เป็นภาพช้างลากซุงในเมืองเตยเวียน เวียดนามให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมป่าไม้ที่นำรายได้เข้าประเทศเป็นอันดับ 8 เดี๋ยวนี้เวียดนามเป็นอันดับต้นๆของโลกในการส่งออกเฟอร์นิเจอร์
ด้านหลังของธนบัตร 2,000 ด่ง เป็นภาพบรรยากาศในการทำงานในโรงงานทอผ้านามดิ่ญ จ.นามดิ่ญ
เวียดนามให้ความสำคัญกับโรงงานทอผ้าถึงขนาดนำมาบรรจุเป็นภาพในธนบัตร ทำให้ผู้คนในอุตสาหกรรมนี้มีกำลังใจ บั้นปลายท้ายที่สุด เสื้อผ้าและสิ่งทอก็นำรายได้เข้าประเทศเป็นลำดับ 2 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าของเวียดนามแซงประเทศไทยตั้งแต่ พ.ศ.2549 และตอนนี้ เวียดนามประกาศว่าหลังจากเปิดประชาคมอาเซียนอย่างสมบูรณ์ใน พ.ศ.2558 ตนจะเป็นผู้ส่งออกสิ่งทอเป็นอันดับ 5 ของโลก
ด้านหลังของธนบัตร 5,000 ด่ง เป็นภาพโรงไฟฟ้าพลังน้ำ จิอาน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของเวียดนาม ตั้งอยู่ในจังหวัดด่งนาย
ฉบับละ 10,000 ด่ง เป็นภาพการขุดเจาะน้ำมันชายฝั่งของเวียดนาม ที่กิจการร่วมค้าเวียดโซฟปิโตรของรัสเซียกับเวียดนามขุดพบแหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งเมื่อ พ.ศ.2524
การมีแหล่งน้ำมันเป็นของตนเอง ทำให้เวียดนามตั้งเป้าไว้ว่า ต่อไปในอนาคต ภาคอุตสาหกรรมของประเทศจะทำรายได้แทนที่ภาคเกษตรกรรม
ด้านหลังของธนบัตรใบละ 20,000 ด่ง เป็นภาพสะพานญี่ปุ่น
50,000 ด่ง เป็นภาพนครจักรพรรดิ
ตั้งแต่ พ.ศ.2547 เป็นต้นมา รัฐบาลญวนเริ่มผลิตธนบัตรใบละ 100,000 ด่ง มีภาพด้านหลังเป็นวันเหมียว หรือวิหารวรรณกรรม ที่สร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศแก่ขงจื๊อ
พ.ศ.2549 เวียดนามผลิตธนบัตรใบละ 200,000 ด่ง ภาพด้านหลังเป็นอ่าวฮาลองในจังหวัดกว่างนิญ
พ.ศ.2546 รัฐบาลผลิตธนบัตรใบละ 500,000 ด่ง ภาพด้านหลังเป็นหมู่บ้านฮว่างจู่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโฮจิมินห์ ในจังหวัดเง่อาน
...เดิมลาวใช้เงินสกุลเปียสต์เหมือนกัมพูชาและเวียดนาม พอได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส ลาวอิสระที่นำโดยเจ้าเพชรรัตน์และเจ้าสุภานุวงศ์ตั้งรัฐบาลได้ ก็ออกธนบัตรสกุลกีบกระต่าย ต่อมาลาวเป็นราชอาณาจักร ก็ใช้เงินสกุล Royal Kip หรือกีบหลวง
พ.ศ.2500 ธนาคารแห่งชาติลาวให้เรียกเงินสกุลใหม่ว่า กีบเวียงจันทน์ แต่ในเวลาเดียวกัน ก็มีรัฐบาลของเจ้าสุวรรณภูมาต่อต้านอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ของรัฐบาลปะเทดลาวของเจ้าสุภานุวงศ์ รัฐบาลของเจ้าสุวรรณภูมาก็ออกเงินสกุล กีบคังไข ออกมาใช้คู่กัน
พ.ศ.2511 ขบวนการปะเทดลาวออกเงินสกุล กีบลาวเสรี เพื่อขยายการควบคุมเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ.2518 ก็ประกาศยึดอำนาจจากรัฐบาลราชอาณาจักรลาว และออกสกุลเงินกีบใหม่ ใช้กันมายาวนานจนถึงทุกวันนี้
ตั้งแต่ พ.ศ.2534 เป็นต้นมา ลาวไม่มีเงินเหรียญใช้ มีแต่ธนบัตรชนิดราคา 1,000, 2,000, 5,000, 10,000, 20,000, 50,000 และ 100,000 กีบ
ด้านหน้าของธนบัตรส่วนใหญ่เป็นภาพของลุงไกสอน พมวิหาน ภาพด้านหลัง ก็เป็นภาพเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า (ธนบัตรใบละ 2,000 กีบ)
ภาพโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ในเมืองวังเวียง (5,000 กีบ)
ภาพสะพานข้ามแม่น้ำโขงเมืองปากเซ (10,000 กีบ)
ภาพเขื่อนเทิน-หินบูน (20,000 กีบ)
ส่วนธนบัตรราคา 100,000 กีบที่พิมพ์เมื่อ 2553 ด้านหน้าเป็นอนุสาวรีย์พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช+ดอกจำปาลาว ที่บ้านเราเรียกดอกลั่นทม และด้านหลังเป็นภาพหอพระแก้ว ซึ่งเดิมเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต
ภาพในธนบัตร บอกถึงสิ่งที่อยู่ใต้สมองของผู้คนชนชาตินั้นๆ ครับ.
-------