ผมว่า ครม.ควรทำสองเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อน
1.จำนวนที่เช็คสต็อกได้ ที่ตรวจสอบไปเมื่อปลายเดือนมิถุนายน ถึงวันนี้ก็ผ่านไปเกือบสองเดือนแล้ว ปรากฎว่ามีแต่ข่าวที่ไม่เป็นทางการออกมาเล็กน้อย แต่รายละเอียดการดำเนินคดี แทบจะไม่มีข่าวเลย
ดังนั้นก่อนจะเดินหน้าโครงการต่อไป ผมว่า นับได้เท่าไหร่ ก็เปิดเผยออกมา เอาให้ครม.รับทราบ ว่าข้าวที่รับจำนำมาทั้งหมดมีเท่าไหร่ พอถึงวันที่เช็คสต๊อกควรเหลือเท่าไหร่ แล้วนับได้จริงเท่าไหร่
เรื่องนี้มันควรจะสรุปให้ชัดเจนได้แล้ว ไม่ใช่บอกว่าจะนับ ไปนับแล้วแต่กลับบอกไม่ได้ว่า นับแล้วมีเท่าไหร่ มีทุจริตหรือไม่อย่างไร
2. เรื่องการปิดบัญชีจำนำข้าว ณ.วันที่ 31 พฤษภาคม เพราะตรงนี้ รมต.วราเทพ เป็นคนบอกเองว่า หลังจากที่มีข่าวขาดทุนมาก ในการปิดบัญชีครั้งวันที่ 31 มกราคม ก็ให้ปิดบัญชีในวันที่ 31 พค.
แต่ถึงวันนี้ ก็ยังปิดบัญชีไม่ได้ เนื่องจาก อคส.และอตก. ยังไม่ส่งข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือให้ คณะกรรมการปิดบัญชี
ทั้ง ๆ ที่ ถ้าจะปิดบัญชีทุกสามเดือน วันนี้ก็ต้องปิดบัญชีอีกรอบนึงแล้ว
ซึ่งถ้าหากสองเรื่องนี้ ครม.ยังไม่รับทราบ ผมว่า ครม.ควรจะคิดให้ดี ก่อนที่จะอนุมัติเงินก้อนใหม่ ให้โครงการจำนำข้าว เพราะข้อมูลพวกนี้เป็นข้อมูลที่ ครม.ร้องขอเอง แต่คนทำงานกลับไม่ให้ความร่วมมือ ที่จะรีบทำรายงานแล้วสรุปให้ครม.รับทราบ แต่ถึงเวลา กลับจะขอเงินเพื่อไปทำโครงการต่อ
ในการปิดบัญชีเดือน มกราคม ได้ผลสรุปว่า ขาดทุน 1.3 แสนล้านบาท แต่พอปิดบัญชีเดือน พค. ยอดขาดทุนจะพุ่งเป็นเท่าไหร่ และจากการนับสต๊อก ถ้ามีข้าวหายไปจำนวนมาก ก็มีผลให้ขาดทุนเพิ่มมากอีก
การที่ครม. ไม่สามารถรับข้อมูลที่มีอยู่แล้ว อย่างครบถ้วน เพื่อประกอบการตัดสินใจ น่าจะไม่ถูกต้อง ดังนั้น ถ้าวันอังคารที่จะถึงนี้ กระทรวงพาณิชย์ นำเรื่องจำนำข้าวฤดูกาลใหม่ เข้าพิจารณาในครม. ควรที่จะมีการทวงถาม (โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง) ข้อมูลที่จำเป็นเหล่านี้ก่อน
ก่อนครม.มีมติรับจำนำข้าวรอบใหม่
1.จำนวนที่เช็คสต็อกได้ ที่ตรวจสอบไปเมื่อปลายเดือนมิถุนายน ถึงวันนี้ก็ผ่านไปเกือบสองเดือนแล้ว ปรากฎว่ามีแต่ข่าวที่ไม่เป็นทางการออกมาเล็กน้อย แต่รายละเอียดการดำเนินคดี แทบจะไม่มีข่าวเลย
ดังนั้นก่อนจะเดินหน้าโครงการต่อไป ผมว่า นับได้เท่าไหร่ ก็เปิดเผยออกมา เอาให้ครม.รับทราบ ว่าข้าวที่รับจำนำมาทั้งหมดมีเท่าไหร่ พอถึงวันที่เช็คสต๊อกควรเหลือเท่าไหร่ แล้วนับได้จริงเท่าไหร่
เรื่องนี้มันควรจะสรุปให้ชัดเจนได้แล้ว ไม่ใช่บอกว่าจะนับ ไปนับแล้วแต่กลับบอกไม่ได้ว่า นับแล้วมีเท่าไหร่ มีทุจริตหรือไม่อย่างไร
2. เรื่องการปิดบัญชีจำนำข้าว ณ.วันที่ 31 พฤษภาคม เพราะตรงนี้ รมต.วราเทพ เป็นคนบอกเองว่า หลังจากที่มีข่าวขาดทุนมาก ในการปิดบัญชีครั้งวันที่ 31 มกราคม ก็ให้ปิดบัญชีในวันที่ 31 พค.
แต่ถึงวันนี้ ก็ยังปิดบัญชีไม่ได้ เนื่องจาก อคส.และอตก. ยังไม่ส่งข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือให้ คณะกรรมการปิดบัญชี
ทั้ง ๆ ที่ ถ้าจะปิดบัญชีทุกสามเดือน วันนี้ก็ต้องปิดบัญชีอีกรอบนึงแล้ว
ซึ่งถ้าหากสองเรื่องนี้ ครม.ยังไม่รับทราบ ผมว่า ครม.ควรจะคิดให้ดี ก่อนที่จะอนุมัติเงินก้อนใหม่ ให้โครงการจำนำข้าว เพราะข้อมูลพวกนี้เป็นข้อมูลที่ ครม.ร้องขอเอง แต่คนทำงานกลับไม่ให้ความร่วมมือ ที่จะรีบทำรายงานแล้วสรุปให้ครม.รับทราบ แต่ถึงเวลา กลับจะขอเงินเพื่อไปทำโครงการต่อ
ในการปิดบัญชีเดือน มกราคม ได้ผลสรุปว่า ขาดทุน 1.3 แสนล้านบาท แต่พอปิดบัญชีเดือน พค. ยอดขาดทุนจะพุ่งเป็นเท่าไหร่ และจากการนับสต๊อก ถ้ามีข้าวหายไปจำนวนมาก ก็มีผลให้ขาดทุนเพิ่มมากอีก
การที่ครม. ไม่สามารถรับข้อมูลที่มีอยู่แล้ว อย่างครบถ้วน เพื่อประกอบการตัดสินใจ น่าจะไม่ถูกต้อง ดังนั้น ถ้าวันอังคารที่จะถึงนี้ กระทรวงพาณิชย์ นำเรื่องจำนำข้าวฤดูกาลใหม่ เข้าพิจารณาในครม. ควรที่จะมีการทวงถาม (โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง) ข้อมูลที่จำเป็นเหล่านี้ก่อน