สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
สีเขียวไข่กา เป็นสีของไข่กาจริงๆ ที่มีสีเขียวอ่อนๆ คนเดี๋ยวนี้ไม่เคยเห็นไข่กา ก็เลยนึกไม่ออก
สีกรมท่า คือสี เครื่องแบบของ กรมท่า เรือ
สีโอรส จริงคือ ทับศัพท์มาจาก old rose คือกุหลาบสีหม่นๆ ชมพูหม่นๆ
สีแดงเลือดนก เป็นเลือดนก เพราะแดงสดมากๆๆ เลือดคน หรือ วัว เวลาเลือดออกมักเป็นเลือดดำๆคลำๆ (เดาเอาว่าเลือดนก มี high o2มากกว่ารึเปล่า)
ส่วนสีน้ำเงิน ไม่รู้เหมือนกัน ลองหาใน google ก็ไม่มีแฮะ
ขอเดาเอาเองว่า มันคือสี น้ำล้างเงิน
สมัยก่อน เครื่องเงินที่ทำ มักไม่บริสุทธ์ มักมีทองแดงปน เวลาเอามาตีด้วยความร้อน ทองแดงจะเกาะที่ผิว ทำให้ดำเป็นด่างๆ
จึงเอากรดมาล้าง กรดในสมัยก่อน ส่วนใหญ่คือ กรดกำมะถัน (ซึ่งทำได้ง่ายสุดจากการเผากัมมะถันกับโลหะบางชนิดและน้ำ)
กรดกำมะถัน จะกัดกร่อนทองแดง แต่ไม่กัดกร่อนเงิน เมื่อเอามาล้าง จะล้างทองแดงออกไป ได้ copper sulfate หรือ จุนสี ซึ่งมีสีน้ำเงิน
ปล เดาล้วนๆอย่าเชื่อมาก
สีกรมท่า คือสี เครื่องแบบของ กรมท่า เรือ
สีโอรส จริงคือ ทับศัพท์มาจาก old rose คือกุหลาบสีหม่นๆ ชมพูหม่นๆ
สีแดงเลือดนก เป็นเลือดนก เพราะแดงสดมากๆๆ เลือดคน หรือ วัว เวลาเลือดออกมักเป็นเลือดดำๆคลำๆ (เดาเอาว่าเลือดนก มี high o2มากกว่ารึเปล่า)
ส่วนสีน้ำเงิน ไม่รู้เหมือนกัน ลองหาใน google ก็ไม่มีแฮะ
ขอเดาเอาเองว่า มันคือสี น้ำล้างเงิน
สมัยก่อน เครื่องเงินที่ทำ มักไม่บริสุทธ์ มักมีทองแดงปน เวลาเอามาตีด้วยความร้อน ทองแดงจะเกาะที่ผิว ทำให้ดำเป็นด่างๆ
จึงเอากรดมาล้าง กรดในสมัยก่อน ส่วนใหญ่คือ กรดกำมะถัน (ซึ่งทำได้ง่ายสุดจากการเผากัมมะถันกับโลหะบางชนิดและน้ำ)
กรดกำมะถัน จะกัดกร่อนทองแดง แต่ไม่กัดกร่อนเงิน เมื่อเอามาล้าง จะล้างทองแดงออกไป ได้ copper sulfate หรือ จุนสี ซึ่งมีสีน้ำเงิน
ปล เดาล้วนๆอย่าเชื่อมาก
ความคิดเห็นที่ 18
การตั้งชื่อสีส่วนใหญ่ก็จะเอามาจากสิ่งที่ใกล้ตัวที่คนฟังแล้วนึกภาพออกได้เลย
ในสมัยก่อนนั้นคนอยู่กับสภาพแวดล้อมที่มีแต่ธรรมชาติฉะนั้นการตั้งชื่อสีก็ต้องทำให้นึกภาพออกได้เลย
เช่น สีไข่ไก่ สีดิน สีหม้อใหม่ สีปูนกินหมาก สีนาก สีงาช้าง สีน้ำนม สีดินหม้อ สีกะปิ
การขยายความสีก็หลักการเดียวกันคือใช้สิ่งที่มีอยู่รอบตัวมาเติมข้างหลังคำหลัก
เช่นสีขาว

สีดำ

สีเขียว ก็ เขียวขี้ม้า เขียวไข่กา เขียวหัวเป็ด
สีฟ้าก็ ฟ้าน้ำทะเล ฟ้าท้องฟ้า

แดง ก็ แดงเลือดหมู แดงเลือดนก แดงทับทิม

ม่วง ก็ ม่วงมังคุด ม่วงเม็ดมะปราง

สีเทา ก็ สีเทานกเขา สีเทาขี้เถ้า

แต่เมื่อมีการรับเอาวัฒนธรรมและภาษาจากต่างชาติมากขึ้นก็มีการหยิบยืมทั้งสิ่งของและคำมาใช้เรียกชื่อ
เช่น สีพาสเทล
สีเอิร์ทโทน

สีฟ้าเทอร์ควอย
ในสมัยก่อนนั้นคนอยู่กับสภาพแวดล้อมที่มีแต่ธรรมชาติฉะนั้นการตั้งชื่อสีก็ต้องทำให้นึกภาพออกได้เลย
เช่น สีไข่ไก่ สีดิน สีหม้อใหม่ สีปูนกินหมาก สีนาก สีงาช้าง สีน้ำนม สีดินหม้อ สีกะปิ
การขยายความสีก็หลักการเดียวกันคือใช้สิ่งที่มีอยู่รอบตัวมาเติมข้างหลังคำหลัก
เช่นสีขาว

สีดำ

สีเขียว ก็ เขียวขี้ม้า เขียวไข่กา เขียวหัวเป็ด

สีฟ้าก็ ฟ้าน้ำทะเล ฟ้าท้องฟ้า

แดง ก็ แดงเลือดหมู แดงเลือดนก แดงทับทิม

ม่วง ก็ ม่วงมังคุด ม่วงเม็ดมะปราง

สีเทา ก็ สีเทานกเขา สีเทาขี้เถ้า

แต่เมื่อมีการรับเอาวัฒนธรรมและภาษาจากต่างชาติมากขึ้นก็มีการหยิบยืมทั้งสิ่งของและคำมาใช้เรียกชื่อ
เช่น สีพาสเทล

สีเอิร์ทโทน

สีฟ้าเทอร์ควอย

แสดงความคิดเห็น
ทำไมเขาถึงเรียกสีน้ำเงินว่าสีน้ำเงินครับ
อยากทราบในเชิงนิรุกติศาสตร์
ขอบคุณครับ