รถตู้โดยสารก็เหมือนโลงศพ เคลื่อนที่ได้ ... จริงมั๊ย ?

ก่อนอื่นขอพิมพ์ด้วยความเซ็งก่อนว่า เรากำลังจะตั้งกระทู้นี้ แต่ดันลืมกดเซฟ ด้วยความซวยสิ่งที่พิมพ์มาทั้งหมด ยาวๆ
หลายว๊าบไปกับตา น้ำตาจะไหลค่ะ แต่คิดว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อย และด้วยแรงสนับสนุนจากเพื่อน โอเค
เราจะพิมพ์มันใหม่ ....

กรณีรถตู้โดยสาร เชื่อว่าทุกคนคงจะได้ใช้บริการกันเป็นประจำ และสิ่งที่ได้ยินกันประจำนั้นก็คือข่าวอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร ชนกัน บาดเจ็บล้มตายกันให้เห็นบ่อยๆ เราก็ไม่ค่อยจะได้สนใจอะไรเพราะมันไม่ใช่เรื่องใกล้ตัวหรือเกิดขึ้นกับคนรู้จัก .... แต่ครั้งนี้ข่าวเมื่อวันจันทร์ รถตู้ปราจีนบุรี-กรุงเทพฯ ชนกับรถบรรทุกที่จอดอยู่ข้างทาง ที่จ.ฉะเชิงเทรา คนตาย 9 บาดเจ็บอีก 7 (คนที่รอดนั้นส่วนใหญ่จะนั่งด้านขวา เพราะรถเบี่ยงหลบไม่พ้นชนเข้าด้านซ้ายคนขับ) หนึ่งในผู้เสียชีวิตนั้นเป็นเพื่อนจขกท.เอง  นิสิตปี3 เป็นเด็กทุน เรียนเก่งมาก และเป็นคนดีมาก อนาคตด็อกเตอร์อย่างแน่นอน เป็นความหวังของครอบครัว เขาออกจากบ้านแต่ตี4 ขึ้นรถเที่ยวแรกเพื่อนจะกลับมอมาเรียนให้ทันในช่วงเช้า แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเพราะว่าคนขับรถบรรทุกผิด คนขับรถตู้ประมาท สภาพอากาศ หรือช่วงเวลาเช้าตรู่มืดๆแบบนั้น ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ผลก็คือเขาจะไม่ได้กลับมาเรียนอีกแล้ว ทุกคนที่คณะรู้ว่าช็อคกันหมด เพราะเพื่อนคนนี้ทุกคนรู้จัก เป็นที่รักของทุกคน อาจารย์ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ต้องเหมารถไปงานศพในช่วงบ่าย  .....

เราจะถามหาความรับผิดชอบได้จากใคร ทุกครั้งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เป็นข่าวขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์อยู่วันเดียวมันก็เงียบไป ทิ้งเเผลความเจ็บปวด ช้ำใจไว้กับครอบครัว เงินชดเชยที่ได้ไม่กี่แสนบาท คุ้มมั๊ย แค่จัดงานศพก็หมดแล้ว ถ้าเค้าไม่ตายอนาคตเค้าหาเงินได้มากกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า
เราจะไม่เรียกร้องกับภาครัฐ เพราะรู้ว่ามันก็จะไม่มีประโยชน์อะไร เหตุการณ์ใหญ่ๆอย่างรถตู้โทลเวย์ เป็นข่าวใหญ่ๆอยู่ตั้งนาน เงินมา เวลาผ่าน เรื่องก็เงียบเป็นเป่าสาก อย่างที่รู้ๆกัน

จขกท.ชอบนั่งรถตู้ข้างหน้ากับคนขับ ตลอดทางก็คุยกันประจำ มีโอกาสได้ฟังคนขายตั๋วกับคนขับรถคุยกัน เลยทราบว่า ตามทางหลวง หรือ มอเตอร์เวย์ มันจะมีกล้องตรวจจับความเร็วติดอยู่เป็นช่วงๆ แล้วคนขับทุกคนจะรู้ดีว่าช่วงไหนมีกล้อง/ไม่มีกล้อง ดังนั้นช่วงไม่มีกล้องก็จะเหยียบกันเพลิน 140-160 km/hr ตามอัธยาศัย ไม่กลัวเปลืองน้ำมัน เพราะรถตู้ติดแก๊ส .. ส่วนเราผู้โดยสาร ขึ้นรถปุ๊บได้ที่นั่งสบายๆ ใครซวยขึ้นช้าก็ได้นั่งเบาะหลัง รถกระโดดก็เมารถกันไป นั่งปุ๊บก็เอาหูฟังอุดหูฟังเพลง แล้วก็หลับตานอนกันไป ตื่นมาอีกที 1 ชม.ผ่านไป ถึงละ กทม. เร็วดี ชอบ ติดใจรถตู้ ไม่นั่งมันแล้วรถทัวร์หวานเย็น ..เราเคยคิดแบบนี้นะ แต่เบื้องหลังความเร็วนั้น จะมีใครทันคิดว่าตอนนอนหลับสบายกันนั้น คุณมีความเสี่ยงสูงแค่ไหนที่จะไม่มีโอกาสได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีก ?

คิดกันไหมว่าพี่คนขับก็ง่วงนอนเป็น 5555 ใครนั่งข้างคนขับก็ชวนเค้าคุยได้นะ ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะเหมือนกัน ชีวิตคนขับรถนั้น ออกจะน่าสงสารอยู่ พี่คนที่เราคุยด้วยแกบอกว่า วันนึงวิ่งรถวันละ 3 รอบ ก็เท่ากับ 6 เที่ยว ไป-กลับ ทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ ยัน ค่ำมืด ทุกวัน มีวันหยุดเดือนละ 3-4 วัน เงินเดือนก็พออยู่ได้ เค้าไม่รู้จะไปทำงานอะไร มีครอบครัว ลูกเล็กๆอีก 2 คน ..... ดังนั้น ถ้าพี่คนขับคนไหนเล่นพันทิปมีโอกาสได้อ่านกระทู้นี้ ขอนะคะ ด้วยความเป็นห่วง ทำงานพักบ้าง พี่ทำงานกับชีวิตคนอีก 15 คน ไม่มีใครอยากเสี่ยงไปกับพี่นะ ครอบครัวพี่ก็คงไม่อยากเห็นพี่ตามหน้าหนังสือพิมพ์เหมือนกัน รถถ้าขับเกิด 120 km/hr มันยากที่จะบังคับแล้ว เราไม่ได้รีบขนาดนั้น จะช้าถึงที่หมายช้ากว่า 10-20 นาที มันไม่ได้สำคัญอะไรมากมายเลย บางทีเหยียบมาเร็ว ก็เจอรถติดในกทม.อยู่ดี ก็มีค่าเท่ากัน

วันนี้มีคำพูดนึงจากอาจารย์ พูดมาทำให้ไม่อยากขึ้นรถตู้กันเลย "รถตู้โดยสารก็เหมือนโลงศพเคลื่อนที่ได้"
มันก็จริงนะ แต่ขออย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกเลย

Bon Voyage ค่ะทุกคน

                                                                                                           ....... RIP .......

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  อุบัติเหตุบนท้องถนน การจราจร
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่