สวัสดีค่ะ
เราขอยืมล๊อคอินเพื่อนมาโพสค่ะ เรื่องที่จะนำมาบอกกล่าวนี้ ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการค่ะ
เนื่องจากคุณพ่อเป็นโรคเบาหวานค่ะ จำเป็นต้องรับยา กินยาอย่างต่อเนื่อง และในอีกไม่ช้านี้ แกต้องเดินทางไปแคนนาดาเป็นระยะเวลา กว่า 6เดือนที่แกต้องไปอยู่ที่นั่นค่ะ (ไปหาพี่สาวค่ะ ไปช่วยเลี้ยงลูก) จึงจำเป็นต้องขอยาล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 6 เดือนดังกล่าว พร้อมทั้งจำเป็นต้องได้รับใบรับรองแพทย์ เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่ ตม. หรือกระทั่งหมอที่นั่น ว่าคุณพ่อเป็นอะไร ทำไมนำยามาด้วยในจำนวนที่เยอะขนาดนี้ และในกรณีที่เกิดภาวะ ฉุกเฉิน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เราได้ยินคุณพ่อแกพูดมาหลายครั้งแล้วว่าไปโรงพยาบาล โรงพยาบาลก็โยนกันไปว่า ว่าให้ไปเอาที่โรงพยาบาลนั่นนี่ พอดีเราก็ยุ่งๆเรื่องงาน จึงคิดว่า เพราะเรื่องมันต้องไปถึงเมืองนอก มันก็น่าจะใช้เวลาหน่อย
จนคุณพ่อมาบ่นว่าเนี้ย พ่อไปรอตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึง 5 โมงเย็น ที่โรงพยาบาลเพชรเกษม 2 หมอบอก “ ให้ไม่ได้ ยังไงก็ไม่ได้ แคนนาดา เรื่องยาเค้าฟิคมาก จะให้สุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไง จะไปทำไม ไม่ต้องไปหรอกคุณลุง” ทั้งๆที่พ่อก็เอาเอกสารใบจองตั๋วเครื่องบิน และหน้าวีซ่าไปให้ดูด้วย แต่พ่อเราก็ยืนยันว่าลูกสาวบอกว่าต้องมี เพราะการที่จะเอายาเข้าประเทศอื่นเป็นจำนวนเยอะตั้ง 6 เดือนควรจะมีใบรับรองแพยท์ด้วย เค้าก็ให้มาใหม่ มีใบนัดมาด้วย
เรารู้สึก มันไม่ใช่ล่ะ ปล่อยให้คนแก่ อยู่โรงพยาบาลเป็นวัน ทำไมไม่มีกระทั่งยามาให้เลย
เมื่อวันที่ 23 สิงหานี้เราก็เลยไปกับคุณพ่อ ลางานไปตั้งแต่เช้าเลยค่ะ เพื่อไปรอคิว ปรากฏคิวมันนานมาก จนจะเที่ยงอยู่แล้ว ก็ไม่มีใครเรียกซักที จึงเดินเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ที่หน้าห้องว่าอีกกี่คิวจะถึงคิวคุณพ่อ
เจ้าหน้าที่หน้าตาไม่รับแขกก็บอกว่า
ต้องรอ ไม่สามารถให้คำตอบได้ ไม่รอก็กลับไป...
เรารู้สึกปรี้ดมาก เราก็ถามกลับไปว่า แค่มาขอยา เพื่อไปเมืองนอก คุณพ่อมาหลายครั้งแล้ว ทำไมยังไม่ได้ซักที
เชื่อมั้ยเจ้าหน้าที่พูดว่ายังไง
ก็ 30 บาทอะค่ะ ก็ได้แค่นี้”แล้วทำหน้าเหมือนกับว่า จะเอาอะไรอีก
เราโกรธมาก แต่ก็ยังยับยั้งอารมณ์ไม่ปะทะนางไปในตอนนั้น
เราเหลือบไปเห็นล๊อกนั้นที่เค้าเจาะเลือดกันอยู่ แต่ต้องเสียเงินต่างหาก เราชี้ไปแล้วถามเจ้าหน้าที่คนนั้นไปว่า ถ้าจ่ายตังค์ ต่างหาก จะได้รับบริการเร็วกว่านี้ ใช่หรือเปล่า
เจ้าหน้าที่ไม่มองหน้า แต่หันกลับไปคุยกับลูกค้าท่านอื่นที่พึ่งมาถึงซึ่งดูจากการแต่งตัวแล้วไม่น่าจะใช่ลูกค้า 30 บาทด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แล้วหันมาพูดว่า
“ค่ะ ต้องเข้าใจนะว่าที่นี่โรงพยาบาลเอกชนนะคะ”.....(อยากให้เห็นหน้านางมาก แบบว่า...หยิ่งๆ ไม่ง้อ เราคือคนเบื้องล่างที่นางพร้อมจะเหยียบ หน้านางอย่างงั้นจริงๆ)
เราบอกว่า โอเค ตกลงโรงพยาบาลนี้ สิทธิรักษาทุกโรค 30 บาทนี่ใช้ไม่ได้ว่างั้น
โอเค ถ้างั้นเราจะโรงพยาบาลอื่นที่เค้าเต็มใจให้บริการ มากกว่าโรงพยาบาลนี้ก็แล้วกัน แล้วเรื่องนี้เราจะร้องเรียนคุณที่คุณพูดจาไม่สมกับเป็นงานบริการอย่างงี้
ดูเจ้าหน้าที่คนนี้ก็ไม่ได้สนใจเท่าไร คงเพราะระบบของโรงพยาบาลอวยกันเอง ไม่ได้สนใจคนมาใช้บริการแม้แต่น้อยล่ะมั้ง
ก่อนกลับเราไปลงใบร้องเรียนเรื่องการบริการ แต่ก็คงแค่ลงบันทึกแหล่ะ โรงพยาบาลคงไม่ได้เอาจริงเอาจัง
จนเราพาคุณพ่อไปที่ โรงพยาบาล เกษมราษฎร์ บางแค เชื่อมั้ย แค่ 2 ชั่วโมงที่เราทำเรื่อง ยาได้ครบใบรับรองแพทย์ได้เลย ขนาดคุณหมอที่นั่นยังบอก ทำไมโรงพยาบาลเพชรเกษม 2 ที่คนไข้ไปมา ถึงให้ไม่ได้ คุณหมอเองยังพูดกับเราแบบนี้ เราเสียไปประมาณ 9000 กว่าบาท ถามว่าแพงมั้ย มันก็แพงนะ แต่ถ้ามันไม่ต้องแลกกับ ค่าเสียเวลา หรือกระทั่งได้บริการที่ดีกลับมามันก็คุ้ม
ถามว่าแล้วไปหวังอะไรกับ โรงพยาบาล 30 บาทรักษาทุกโรค ถามว่าเรากะเอาคุ้มเหรอ คำตอบคือไม่นะ เราเข้าใจว่า ไหนเราก็เข้าโครงการกับโรงพยาบาลนี้แล้ว อย่างน้อยน่าจะมีจรรยาบรรณมากกว่านี้ ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ เราเข้าไปอย่างกะขอทาน..รู้สึกมันเกินไปละ
พอกันทีเถอะค่ะ
อย่าไปโรงพยาบาลนี้เลยค่ะ ทิ้งคนแก่ให้รอได้เป็นวันๆ ไม่สนใจคนมาใช้บริการ สนแต่เม้าท์ คุย นินทากัน จับกลุ่ม ดูไม่ใช่อาชีพที่เราต้องฝากชีวิตให้กับคนเหล่านี้เลยสักนิด
ปล.คุณหมอที่เรากับพ่อรอครึ่งค่อนวัน ยังไม่แม้แต่เข้าห้องตรวจเลยค่ะ แล้วจะให้พวกเรารอ รอ รอใครมาตรวจกันคะ...
โรงพยาบาล เพชรเกษม2 บางแค ถ้า 30 บาทรักษาทุกโรคมันต่ำต้อยขนาดนั้น จรรยาบรรณของอาชีพหมอมีหรือไม่คะ
เราขอยืมล๊อคอินเพื่อนมาโพสค่ะ เรื่องที่จะนำมาบอกกล่าวนี้ ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการค่ะ
เนื่องจากคุณพ่อเป็นโรคเบาหวานค่ะ จำเป็นต้องรับยา กินยาอย่างต่อเนื่อง และในอีกไม่ช้านี้ แกต้องเดินทางไปแคนนาดาเป็นระยะเวลา กว่า 6เดือนที่แกต้องไปอยู่ที่นั่นค่ะ (ไปหาพี่สาวค่ะ ไปช่วยเลี้ยงลูก) จึงจำเป็นต้องขอยาล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 6 เดือนดังกล่าว พร้อมทั้งจำเป็นต้องได้รับใบรับรองแพทย์ เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่ ตม. หรือกระทั่งหมอที่นั่น ว่าคุณพ่อเป็นอะไร ทำไมนำยามาด้วยในจำนวนที่เยอะขนาดนี้ และในกรณีที่เกิดภาวะ ฉุกเฉิน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เราได้ยินคุณพ่อแกพูดมาหลายครั้งแล้วว่าไปโรงพยาบาล โรงพยาบาลก็โยนกันไปว่า ว่าให้ไปเอาที่โรงพยาบาลนั่นนี่ พอดีเราก็ยุ่งๆเรื่องงาน จึงคิดว่า เพราะเรื่องมันต้องไปถึงเมืองนอก มันก็น่าจะใช้เวลาหน่อย
จนคุณพ่อมาบ่นว่าเนี้ย พ่อไปรอตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึง 5 โมงเย็น ที่โรงพยาบาลเพชรเกษม 2 หมอบอก “ ให้ไม่ได้ ยังไงก็ไม่ได้ แคนนาดา เรื่องยาเค้าฟิคมาก จะให้สุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไง จะไปทำไม ไม่ต้องไปหรอกคุณลุง” ทั้งๆที่พ่อก็เอาเอกสารใบจองตั๋วเครื่องบิน และหน้าวีซ่าไปให้ดูด้วย แต่พ่อเราก็ยืนยันว่าลูกสาวบอกว่าต้องมี เพราะการที่จะเอายาเข้าประเทศอื่นเป็นจำนวนเยอะตั้ง 6 เดือนควรจะมีใบรับรองแพยท์ด้วย เค้าก็ให้มาใหม่ มีใบนัดมาด้วย
เรารู้สึก มันไม่ใช่ล่ะ ปล่อยให้คนแก่ อยู่โรงพยาบาลเป็นวัน ทำไมไม่มีกระทั่งยามาให้เลย
เมื่อวันที่ 23 สิงหานี้เราก็เลยไปกับคุณพ่อ ลางานไปตั้งแต่เช้าเลยค่ะ เพื่อไปรอคิว ปรากฏคิวมันนานมาก จนจะเที่ยงอยู่แล้ว ก็ไม่มีใครเรียกซักที จึงเดินเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ที่หน้าห้องว่าอีกกี่คิวจะถึงคิวคุณพ่อ
เจ้าหน้าที่หน้าตาไม่รับแขกก็บอกว่า ต้องรอ ไม่สามารถให้คำตอบได้ ไม่รอก็กลับไป...
เรารู้สึกปรี้ดมาก เราก็ถามกลับไปว่า แค่มาขอยา เพื่อไปเมืองนอก คุณพ่อมาหลายครั้งแล้ว ทำไมยังไม่ได้ซักที
เชื่อมั้ยเจ้าหน้าที่พูดว่ายังไง
ก็ 30 บาทอะค่ะ ก็ได้แค่นี้”แล้วทำหน้าเหมือนกับว่า จะเอาอะไรอีก
เราโกรธมาก แต่ก็ยังยับยั้งอารมณ์ไม่ปะทะนางไปในตอนนั้น
เราเหลือบไปเห็นล๊อกนั้นที่เค้าเจาะเลือดกันอยู่ แต่ต้องเสียเงินต่างหาก เราชี้ไปแล้วถามเจ้าหน้าที่คนนั้นไปว่า ถ้าจ่ายตังค์ ต่างหาก จะได้รับบริการเร็วกว่านี้ ใช่หรือเปล่า
เจ้าหน้าที่ไม่มองหน้า แต่หันกลับไปคุยกับลูกค้าท่านอื่นที่พึ่งมาถึงซึ่งดูจากการแต่งตัวแล้วไม่น่าจะใช่ลูกค้า 30 บาทด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แล้วหันมาพูดว่า “ค่ะ ต้องเข้าใจนะว่าที่นี่โรงพยาบาลเอกชนนะคะ”.....(อยากให้เห็นหน้านางมาก แบบว่า...หยิ่งๆ ไม่ง้อ เราคือคนเบื้องล่างที่นางพร้อมจะเหยียบ หน้านางอย่างงั้นจริงๆ)
เราบอกว่า โอเค ตกลงโรงพยาบาลนี้ สิทธิรักษาทุกโรค 30 บาทนี่ใช้ไม่ได้ว่างั้น
โอเค ถ้างั้นเราจะโรงพยาบาลอื่นที่เค้าเต็มใจให้บริการ มากกว่าโรงพยาบาลนี้ก็แล้วกัน แล้วเรื่องนี้เราจะร้องเรียนคุณที่คุณพูดจาไม่สมกับเป็นงานบริการอย่างงี้
ดูเจ้าหน้าที่คนนี้ก็ไม่ได้สนใจเท่าไร คงเพราะระบบของโรงพยาบาลอวยกันเอง ไม่ได้สนใจคนมาใช้บริการแม้แต่น้อยล่ะมั้ง
ก่อนกลับเราไปลงใบร้องเรียนเรื่องการบริการ แต่ก็คงแค่ลงบันทึกแหล่ะ โรงพยาบาลคงไม่ได้เอาจริงเอาจัง
จนเราพาคุณพ่อไปที่ โรงพยาบาล เกษมราษฎร์ บางแค เชื่อมั้ย แค่ 2 ชั่วโมงที่เราทำเรื่อง ยาได้ครบใบรับรองแพทย์ได้เลย ขนาดคุณหมอที่นั่นยังบอก ทำไมโรงพยาบาลเพชรเกษม 2 ที่คนไข้ไปมา ถึงให้ไม่ได้ คุณหมอเองยังพูดกับเราแบบนี้ เราเสียไปประมาณ 9000 กว่าบาท ถามว่าแพงมั้ย มันก็แพงนะ แต่ถ้ามันไม่ต้องแลกกับ ค่าเสียเวลา หรือกระทั่งได้บริการที่ดีกลับมามันก็คุ้ม
ถามว่าแล้วไปหวังอะไรกับ โรงพยาบาล 30 บาทรักษาทุกโรค ถามว่าเรากะเอาคุ้มเหรอ คำตอบคือไม่นะ เราเข้าใจว่า ไหนเราก็เข้าโครงการกับโรงพยาบาลนี้แล้ว อย่างน้อยน่าจะมีจรรยาบรรณมากกว่านี้ ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ เราเข้าไปอย่างกะขอทาน..รู้สึกมันเกินไปละ
พอกันทีเถอะค่ะ
อย่าไปโรงพยาบาลนี้เลยค่ะ ทิ้งคนแก่ให้รอได้เป็นวันๆ ไม่สนใจคนมาใช้บริการ สนแต่เม้าท์ คุย นินทากัน จับกลุ่ม ดูไม่ใช่อาชีพที่เราต้องฝากชีวิตให้กับคนเหล่านี้เลยสักนิด
ปล.คุณหมอที่เรากับพ่อรอครึ่งค่อนวัน ยังไม่แม้แต่เข้าห้องตรวจเลยค่ะ แล้วจะให้พวกเรารอ รอ รอใครมาตรวจกันคะ...