
แม้นมิได้เป็นดอกลดาหอม
ก็จงยอมเป็นเพียงลดาขาว
แม้นมิได้เป็นจันทร์อันสกาว
จงเป็นดาวดวงแจ่มแอร่มตา
แม้นมิได้เป็นหงส์ทะนงศักดิ์
ก็จงรักเป็นโนรีที่หรรษา
แม้นมิได้เป็นน้ำแม่คงคา
จงเป็นธาราน้ำใสที่ไหลเย็น
แม้นมิได้เป็นมหานภาลัย
จงพอใจจอมปลวกที่แลเห็น
แม้นมิได้เป็นวันพระจันทร์เพ็ญ
ก็จงเป็นวันแรมที่แจ่มจาง
กลอนบทนี้มาจากการอ่านนิยายเล่มหนึ่งจำไม่ได้ว่าใครแต่ง
ท่องได้ขึ้นใจ มีความหมายว่า จงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่
ไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนใคร เป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุด
(ไม่ต้องไปเปรียบเทียบใคร)
พี่ตู่สวยมาก สวยในแบบของพี่ เป็นดวงดาวที่มีแสงสว่างในตัวเอง
หลายวันมานี้เป็นบ้าอะไรไม่รู้ เฝือกไปเสียใจแทนพี่กับลูกสาว

แต่เมื่อวานเห็นพี่ยังยิ้มได้อย่างทรนง โอ้โห หายห่วง
ต้องอย่างนี้สิ พี่ตู่


I who have nothing นันทิดา แก้วบัวสาย
แม้นมิได้เป็นดอกลดาหอม
ก็จงยอมเป็นเพียงลดาขาว
แม้นมิได้เป็นจันทร์อันสกาว
จงเป็นดาวดวงแจ่มแอร่มตา
แม้นมิได้เป็นหงส์ทะนงศักดิ์
ก็จงรักเป็นโนรีที่หรรษา
แม้นมิได้เป็นน้ำแม่คงคา
จงเป็นธาราน้ำใสที่ไหลเย็น
แม้นมิได้เป็นมหานภาลัย
จงพอใจจอมปลวกที่แลเห็น
แม้นมิได้เป็นวันพระจันทร์เพ็ญ
ก็จงเป็นวันแรมที่แจ่มจาง
กลอนบทนี้มาจากการอ่านนิยายเล่มหนึ่งจำไม่ได้ว่าใครแต่ง
ท่องได้ขึ้นใจ มีความหมายว่า จงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่
ไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนใคร เป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุด
(ไม่ต้องไปเปรียบเทียบใคร)
พี่ตู่สวยมาก สวยในแบบของพี่ เป็นดวงดาวที่มีแสงสว่างในตัวเอง
หลายวันมานี้เป็นบ้าอะไรไม่รู้ เฝือกไปเสียใจแทนพี่กับลูกสาว
แต่เมื่อวานเห็นพี่ยังยิ้มได้อย่างทรนง โอ้โห หายห่วง
ต้องอย่างนี้สิ พี่ตู่