อรุณสวัสดิ์...ยามเช้าวันเสาร์ที่แสนจะขี้เกียจ
สวัสดีครับเพื่อนเพื่อน หยุดสุดสัปดาห์นี้ใครมีนัดไปเที่ยวไหนบ้าง อย่าลืมมาเล่าเรื่องราวให้ฟังกันบ้างนะครับ สำหรับวันนี้เป็นอีกหนึ่งอาทิตย์ที่"ผม"ไม่มีโปรแกรมเดินทางท่องเที่ยว รู้สึกแปลกแปลกเล็กน้อยเพราะส่วนใหญ่พอถึงเสาร์-อาทิตย์จะต้องพยายามหาทางออกจากบ้าน(ไม่รู้ว่าอยู่บ้านแล้วมัน...แน่นอก..ยังงัยบอกไม่ถูก) อย่างว่าแหละครับก็เมื่อถือคติ"ชีวิตคือการเดินทางและค้นหา"ก็ต้องใช้เวลาที่มีอยู่ไปกับความชอบและความพอใจในสิ่งนั้น
สำหรับวันนี้มารีวิวเพิ่มเติมสำหรับทริปเที่ยวหน้าฝนที่ได้ไปกันมาเมื่อประมาณต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จังหวัดที่ไปคือ"เพชรบูรณ์" ขึ้นชื่อว่าเพชรบูรณ์แล้ว แหล่งท่องเที่ยวที่ hothit ขึ้นหน้าขึ้นตาของที่นี่ก็ไม่พ้น"เขาค้อ"และ"ภูทับเบิก" หลังจากวันแรกที่เดินทางไปถึง"เขาค้อ" หาที่ซุกหัวนอน จากนั้นก็ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ตามรีวิวครั้งที่แล้ว (
http://pantip.com/topic/30842720)
ตื่นขึ้นมาในวันใหม่ วันที่ 2 ของการเดินทาง ความหวังเล็กน้อยว่าจะได้ยล"ทะเลหมอก"อันแสนสวยที่ใครต่อใครเคยเห็นและชื่นชมก็หายแว๊บไปกับตา เมื่อเปิดหน้าต่างแล้วมองลอดช่องกระจกเล็กเล็ก กวาดสายตาไปเบื้องหน้ามองซ้ายแลขวาหา"ทะเลหมอก" สิ่งที่พบเห็นมีเพียงวิวสวยสวยแต่ไร้ซึ่งสิ่งที่คาดหวัง
ยังไม่ละความพยายาม ด้วยความคิดที่ว่า "เขาค้อ"มันมีหลายหุบ หุบที่เบื้องหน้าเราไม่มีทะเลหมอก มันอาจจะไปโผล่ที่หุบอื่นใกล้ใกล้ก็ได้ ร่างกายไวเท่าความคิด หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน น้ำไม่ต้องอาบ หยิบกุญแจรถแล้วก็แอบคุณผู้หญิงและเพื่อนอีกคนไปตามหาความฝัน (จริงจริงแล้วไม่กล้าปลุก กลัวโดนเอ็ด..หุหุ) จุดหมายแรกคือ "หอสมุดนานาชาติ เขาค้อ" ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 2-3 กิโลเมตร เคยได้ยินจากเพื่อนเพื่อนหลายคนบอกว่าที่"หอสมุดฯ"เป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามแห่งหนึ่งของ"เขาค้อ" หลังจากขับรถมาได้ไม่ถึง 5 นาทีก็มายืนอยู่ตรงหน้า"พระบรมธาตุเจดีย์" ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ข้างข้างอาคารหอสมุดฯ
แต่วันนี้ช่างเป็นวันที่น่าผิดหวังสำหรับตัวเองเป็นอย่างยิ่ง "ไร้ซึ่งสิ่งที่ตามหา" อีกทั้งจะขอชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยสวย ลูกกลมกลมแทนก็ยังดีก็หามีไม่ หอสมุดฯ ยามเช้าวันนี้ช่างเงียบเหงาจนเปล่าเปลี่ยวมากมาย ผมเดินไปรอบรอบบริเวณเห็นเพียงผืนป่าสีเขียวและหมอกฟุ้งฟุ้งจางจาง
แล้วหา"น้องหมอก"ต่อที่ไหนดีล่ะ นั่นแหละคือ"ปัญหา" จะกลับไปที่พักก็กลัวเสียหน้า โดนเยาะเย้ยถากถาง หาว่าแอบไปแล้วยังไม่มีอะไรติดไม้ติดมือมาอีก หลังจากขับรถเอื่อยเอื่อยลงจาก"หอสมุดนานาชาติ เขาค้อ" พลันสายตาก็ไปเห็นป้ายถนนทางเข้า"ฐานอิทธิ" ความคิดก็เลยโลดแล่นกลับมามีความหวังอีกครั้ง เพราะ"ฐานอิทธิ"ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชัน สามารถมองวิวได้ 360 องศา(ข่าว) ยังงัยยังงัยก็ต้องเห็น"น้องหมอก"สักองศาหนึ่งล่ะครับ ว่าแล้วก็ขับรถเข้าถนนที่มุ่งขึ้นฐาน เป็นถนนลาดยางอย่างดี ไต่ระดับความสูงความชันพอประมาณ และที่สำคัญเส้นทางขึ้นและลง"ฐานอิทธิ" เป็นเส้นทางวันเวย์ ขึ้นทางและลงอีกทาง สร้างความสะดวกสบายและปลอดภัยในการขับขี่ด้วยครับ
หลังจากที่บึ่งรถคู่ชีพขึ้นมาได้ประมาณ 10 นาทีกับระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร ก็มาถึงยัง"ฐานอิทธิ"ครับ ที่นี่มีลานจอดรถอยู่กว้างขวางแต่เช้าเช้าแบบนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเยือน บรรยากาศก็เลยสงบเงียบ บวกกับหมอกบางบางที่ลอยปกคลุมอยู่ด้านบนเขายิ่งทำให้บรรยากาศวังเวงมากยิ่งขึ้น
ด้านหน้าของ"ฐานอิทธิ" จะมีจุดชมวิวที่ทำขึ้นเป็นระเบียงไม้ไผ่ ยื่นออกไปนอกพื้นดิน
ส่วนด้านข้างของฐานฯ ก็เป็น"ศาลาประดิษฐานพระบรมรูปจำลองขององค์พระนเรศวรมหาราช"
แล้วสิ่งที่ตามหาล่ะ "ทะเลหมอก"ก็ยังคงไร้ร่องรอยอยู่ดี มาถึงตอนนี้เริ่มทำใจไว้บ้างแล้วว่าคงไม่มีโอกาสประสบพบพักตร์กัน เนื่องด้วยท้องฟ้าไม่เอื้ออำนวย เมฆฝนเริ่มปกคลุม ลมก็แรงขึ้นเรื่อยเรื่อย พัดหมอกให้ลอยคลุ้งไปทั่วแทนที่จะจับตัวกันเป็นก้อน
เมื่อไม่มีอะไรให้ค้นหาก็กลับที่พักไปเผชิญกับปัญหาด้านล่างดีกว่า(ไม่รู้ตอนนี้คุณผู้หญิงจะตื่นหรือยัง ถ้ายังก็โชคดีไปแต่ถ้าตื่นแล้วก็รอโดนลงดาบได้เลย..ฮือฮือ) พอขับรถมาถึงที่พักก็พอดีเห็นคุณผู้หญิงกับเพื่อนกำลังออกไปกินอาหารเช้ากันก็เลยทำเนียนขอตัวไปอาบน้ำก่อน ก่อนที่จะโดนด่า...555 ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์พยายามอาบน้ำแต่งตัวช้าช้า(เผื่อคุณผู้หญิงอิ่มอร่อยกับอาหารเช้าแล้วลืมเรื่องแอบหนีไปคนเดียวของผมได้)
หลังจากแต่งตัวเสร็จก็ออกไปสมทบกันที่ห้องอาหาร อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ง่ายง่าย มีชา-กาแฟ ขนมปังปิ้ง ข้าวต้มเครื่อง และผลไม้ ก็พอกินได้ สังเกตหน้าคุณผู้หญิงหน้าตาเริ่มปกติก็เริ่มใจชื้น เห็นเค้าพูดเรื่องอะไรกันก็พยายามสอดแทรกทำตัวให้กลมกลืน แล้วทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี...สวดยอด
กินอาหารกันเสร็จก็ได้เวลาไปเก็บสัมภาระ ระหว่างเดินขึ้นห้องก็ถ่ายรูปคุณผู้หญิงตามมุมต่างๆ เป็นการไถ่โทษ
[CR] THE STORY ABOUT "Khaokho & Phutubberk" Part 2
สวัสดีครับเพื่อนเพื่อน หยุดสุดสัปดาห์นี้ใครมีนัดไปเที่ยวไหนบ้าง อย่าลืมมาเล่าเรื่องราวให้ฟังกันบ้างนะครับ สำหรับวันนี้เป็นอีกหนึ่งอาทิตย์ที่"ผม"ไม่มีโปรแกรมเดินทางท่องเที่ยว รู้สึกแปลกแปลกเล็กน้อยเพราะส่วนใหญ่พอถึงเสาร์-อาทิตย์จะต้องพยายามหาทางออกจากบ้าน(ไม่รู้ว่าอยู่บ้านแล้วมัน...แน่นอก..ยังงัยบอกไม่ถูก) อย่างว่าแหละครับก็เมื่อถือคติ"ชีวิตคือการเดินทางและค้นหา"ก็ต้องใช้เวลาที่มีอยู่ไปกับความชอบและความพอใจในสิ่งนั้น
สำหรับวันนี้มารีวิวเพิ่มเติมสำหรับทริปเที่ยวหน้าฝนที่ได้ไปกันมาเมื่อประมาณต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จังหวัดที่ไปคือ"เพชรบูรณ์" ขึ้นชื่อว่าเพชรบูรณ์แล้ว แหล่งท่องเที่ยวที่ hothit ขึ้นหน้าขึ้นตาของที่นี่ก็ไม่พ้น"เขาค้อ"และ"ภูทับเบิก" หลังจากวันแรกที่เดินทางไปถึง"เขาค้อ" หาที่ซุกหัวนอน จากนั้นก็ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ตามรีวิวครั้งที่แล้ว (http://pantip.com/topic/30842720)
ตื่นขึ้นมาในวันใหม่ วันที่ 2 ของการเดินทาง ความหวังเล็กน้อยว่าจะได้ยล"ทะเลหมอก"อันแสนสวยที่ใครต่อใครเคยเห็นและชื่นชมก็หายแว๊บไปกับตา เมื่อเปิดหน้าต่างแล้วมองลอดช่องกระจกเล็กเล็ก กวาดสายตาไปเบื้องหน้ามองซ้ายแลขวาหา"ทะเลหมอก" สิ่งที่พบเห็นมีเพียงวิวสวยสวยแต่ไร้ซึ่งสิ่งที่คาดหวัง
ยังไม่ละความพยายาม ด้วยความคิดที่ว่า "เขาค้อ"มันมีหลายหุบ หุบที่เบื้องหน้าเราไม่มีทะเลหมอก มันอาจจะไปโผล่ที่หุบอื่นใกล้ใกล้ก็ได้ ร่างกายไวเท่าความคิด หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน น้ำไม่ต้องอาบ หยิบกุญแจรถแล้วก็แอบคุณผู้หญิงและเพื่อนอีกคนไปตามหาความฝัน (จริงจริงแล้วไม่กล้าปลุก กลัวโดนเอ็ด..หุหุ) จุดหมายแรกคือ "หอสมุดนานาชาติ เขาค้อ" ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 2-3 กิโลเมตร เคยได้ยินจากเพื่อนเพื่อนหลายคนบอกว่าที่"หอสมุดฯ"เป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามแห่งหนึ่งของ"เขาค้อ" หลังจากขับรถมาได้ไม่ถึง 5 นาทีก็มายืนอยู่ตรงหน้า"พระบรมธาตุเจดีย์" ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ข้างข้างอาคารหอสมุดฯ
แต่วันนี้ช่างเป็นวันที่น่าผิดหวังสำหรับตัวเองเป็นอย่างยิ่ง "ไร้ซึ่งสิ่งที่ตามหา" อีกทั้งจะขอชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยสวย ลูกกลมกลมแทนก็ยังดีก็หามีไม่ หอสมุดฯ ยามเช้าวันนี้ช่างเงียบเหงาจนเปล่าเปลี่ยวมากมาย ผมเดินไปรอบรอบบริเวณเห็นเพียงผืนป่าสีเขียวและหมอกฟุ้งฟุ้งจางจาง
แล้วหา"น้องหมอก"ต่อที่ไหนดีล่ะ นั่นแหละคือ"ปัญหา" จะกลับไปที่พักก็กลัวเสียหน้า โดนเยาะเย้ยถากถาง หาว่าแอบไปแล้วยังไม่มีอะไรติดไม้ติดมือมาอีก หลังจากขับรถเอื่อยเอื่อยลงจาก"หอสมุดนานาชาติ เขาค้อ" พลันสายตาก็ไปเห็นป้ายถนนทางเข้า"ฐานอิทธิ" ความคิดก็เลยโลดแล่นกลับมามีความหวังอีกครั้ง เพราะ"ฐานอิทธิ"ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงชัน สามารถมองวิวได้ 360 องศา(ข่าว) ยังงัยยังงัยก็ต้องเห็น"น้องหมอก"สักองศาหนึ่งล่ะครับ ว่าแล้วก็ขับรถเข้าถนนที่มุ่งขึ้นฐาน เป็นถนนลาดยางอย่างดี ไต่ระดับความสูงความชันพอประมาณ และที่สำคัญเส้นทางขึ้นและลง"ฐานอิทธิ" เป็นเส้นทางวันเวย์ ขึ้นทางและลงอีกทาง สร้างความสะดวกสบายและปลอดภัยในการขับขี่ด้วยครับ
หลังจากที่บึ่งรถคู่ชีพขึ้นมาได้ประมาณ 10 นาทีกับระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร ก็มาถึงยัง"ฐานอิทธิ"ครับ ที่นี่มีลานจอดรถอยู่กว้างขวางแต่เช้าเช้าแบบนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเยือน บรรยากาศก็เลยสงบเงียบ บวกกับหมอกบางบางที่ลอยปกคลุมอยู่ด้านบนเขายิ่งทำให้บรรยากาศวังเวงมากยิ่งขึ้น
ด้านหน้าของ"ฐานอิทธิ" จะมีจุดชมวิวที่ทำขึ้นเป็นระเบียงไม้ไผ่ ยื่นออกไปนอกพื้นดิน
ส่วนด้านข้างของฐานฯ ก็เป็น"ศาลาประดิษฐานพระบรมรูปจำลองขององค์พระนเรศวรมหาราช"
แล้วสิ่งที่ตามหาล่ะ "ทะเลหมอก"ก็ยังคงไร้ร่องรอยอยู่ดี มาถึงตอนนี้เริ่มทำใจไว้บ้างแล้วว่าคงไม่มีโอกาสประสบพบพักตร์กัน เนื่องด้วยท้องฟ้าไม่เอื้ออำนวย เมฆฝนเริ่มปกคลุม ลมก็แรงขึ้นเรื่อยเรื่อย พัดหมอกให้ลอยคลุ้งไปทั่วแทนที่จะจับตัวกันเป็นก้อน
เมื่อไม่มีอะไรให้ค้นหาก็กลับที่พักไปเผชิญกับปัญหาด้านล่างดีกว่า(ไม่รู้ตอนนี้คุณผู้หญิงจะตื่นหรือยัง ถ้ายังก็โชคดีไปแต่ถ้าตื่นแล้วก็รอโดนลงดาบได้เลย..ฮือฮือ) พอขับรถมาถึงที่พักก็พอดีเห็นคุณผู้หญิงกับเพื่อนกำลังออกไปกินอาหารเช้ากันก็เลยทำเนียนขอตัวไปอาบน้ำก่อน ก่อนที่จะโดนด่า...555 ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์พยายามอาบน้ำแต่งตัวช้าช้า(เผื่อคุณผู้หญิงอิ่มอร่อยกับอาหารเช้าแล้วลืมเรื่องแอบหนีไปคนเดียวของผมได้)
หลังจากแต่งตัวเสร็จก็ออกไปสมทบกันที่ห้องอาหาร อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ง่ายง่าย มีชา-กาแฟ ขนมปังปิ้ง ข้าวต้มเครื่อง และผลไม้ ก็พอกินได้ สังเกตหน้าคุณผู้หญิงหน้าตาเริ่มปกติก็เริ่มใจชื้น เห็นเค้าพูดเรื่องอะไรกันก็พยายามสอดแทรกทำตัวให้กลมกลืน แล้วทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี...สวดยอด
กินอาหารกันเสร็จก็ได้เวลาไปเก็บสัมภาระ ระหว่างเดินขึ้นห้องก็ถ่ายรูปคุณผู้หญิงตามมุมต่างๆ เป็นการไถ่โทษ