หลงรักหนังเรื่อง The Hours

The Hours (2002)



Genre: Drama

Director: Stephen Daldry
Novel: Michael Cunningham
Screenplay: David Hare

ความรู้สึกแรกหลังดูจบคือ "ผมพลาดหนังเรื่องนี้ไปได้อย่างไรตั้งนาน" คือคิดว่าน่าจะผ่านตาหนังดี ๆ ในช่วงปี 2000 เกือบหมดแล้ว ไม่คิดว่าจะตกหล่น The Hours ที่ได้เข้าชิง 9 ออสการ์ในปี 2003

The Hours สร้างจากนิยายชนะเลิศรางวัลพูลิตเซอร์ปี 1999 เป็นเรื่องของผู้หญิงสามยุคที่มีความเกี่ยวข้องกับนิยายเรื่อง "Mrs. Dalloway" ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง นิยาย "Mrs. Dalloway" เป็นเรื่องของผู้หญิงที่ชีวิตไม่มีความสุขแต่เธอกลับชอบจัดงานรื่นเริงเพื่อให้คนรอบตัวมีความสุข นิยามเล่มนี้มีจริงครับ เขียนโดยเวอร์จิเนีย วูล์ฟซึ่งคนเขียนนิยาย The Hours ก็หยิบมาเป็นหนึ่งในตัวละครสะท้อนค่านิยมยุค 20-40

เวอร์จิเนีย วูล์ฟ (Nicole Kidman) ตัวละครนี้อ้างอิงจากนักเขียนหญิงชื่อดังในยุค 1920-1940 ผลงานของเธอส่วนมากจะมีเกี่ยวข้องกับการเรียกร้องสิทธิสตรีจึงถูกยกย่องเป็นนักเขียนสมัยใหม่สำหรับช่วงเวลานั้น เธอเป็นคนเขียนนิยายเรื่อง "Mrs. Dalloway" ซึ่งเหมือนเธอเขียนจินตนาการในสิ่งที่เธอไม่สามารถทำได้ เธอยังเคยพยายามฆ่าตัวตายถึงสองครั้งเนื่องจากอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทำให้อารมณ์เธอแปรปรวน เธอเชื่อว่าการตายจะทำให้คนที่มีชีวิตอยู่เห็นคุณค่ามากขึ้น

ลอร่า บราวน์ (Julianne Moore) ตัวละครหญิงในยุค 1950 เธอมีครอบครัวตามแบบฉบับ American Dream ยุคนั้นแต่เธอกลับรู้สึกไม่มีความสุขทั้งที่ชีวิตเธอก็ดูสมบูรณ์แบบ มีสามีที่ดีมั่นคง มีลูกที่น่ารักดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่น (นึกถึงครอบครัวใน Revolutionary Road ของแซม เมนเดสครับ เรื่องนี้ก็ว่าด้วยครอบครัวในอุดมคติของคนอเมริกันยุคนั้น ฝ่ายชายทำงาน ฝ่ายหญิงเป็นแม่บ้าน มีลูกมีครอบครัวที่อบอุ่น) เหตุการณ์ของเธอเริ่มในงานวันเกิดสามีซึ่งเธออยู่บ้านทำเค้กสำหรับเลี้ยงฉลองกับลูก แต่นิยาย "Mrs. Dalloway" ทำให้ความคิดบางอย่างของเธอชัดเจนยิ่งขึ้น

คลาริสซ่า วอห์น (Meryl Streep) ตัวละครหญิงในยุคปัจจุบัน (ปี 2001 ในหนัง) เธอใช้ชีวิตได้อิสระ มีริชาร์ด (Ed Harris) แฟนเก่าเป็นเกย์และป่วยเป็นเอดส์ ตัวเธอเองก็เปิดเผยชัดเจนว่าเป็นเลสเบี้ยน เหตุการณ์ของเธออยู่ในวันที่เธอวุ่นวายกับการจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ฉลองที่ริชาร์ดชนะรางวัลจากการเขียนนิยาย เธอไม่เคยอ่าน "Mrs. Dalloway" แต่ริชาร์ดเป็นคนเรียกเธอว่าดัลโลเวย์เพราะเธอมีความคล้ายคลึงกับตัวละครดังกล่าว

นอกจากนิยาย "Mrs. Dalloway" จะเป็นตัวเชื่อมโยงให้เห็นทั้งสามคนชัดเจนแล้ว ประเด็นเรื่องการเปิดเผยรสนิยมทางเพศก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สะท้อนค่านิยมตามยุคสมัยได้ดี ในยุคของเวอร์จิเนียผมยังไม่แน่ใจว่าเธอเป็นเลสเบี้ยนหรือไม่ เช่นเดียวกับลอร่า บราวน์ที่ปลดปล่อยความต้องการแต่ก็ยังไม่ได้เปิดเผยเหมือนอย่างในยุคปัจจุบันอย่างคลาริสซ่า

ความเหมือนกันอีกอย่างของการเชื่อมโยงยุคสมัยก็คือตัวละครลอร่าและคลาริสซ่ากำลังพัวพันกับการจัดงานเลี้ยงเหมือนกับดัลโลเวย์ในนิยาย และที่เหมือนกันอีกอย่างก็คือเธอจัดงานเลี้ยงเพื่อให้ผู้อื่นมีความสุขทั้งที่ตัวเองก็กำลังมีความทุกข์ปิดบังอยู่

บทหนัง The Hours สำหรับผมแล้วถือว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ

หนังใช้วิธีเล่าเรื่องด้วยการตัดสลับไปมาระหว่างสามยุคสมัย แต่ไม่โดดออกจากกันและดูเข้าใจง่ายครับ เพราะตัวละครก็แตกต่างกัน สภาพแวดล้อมก็ต่างกัน ไม่งงแน่นอนครับ และด้วยการตัดต่อและการกำกับภาพที่ยอดเยี่ยมทำให้ฉากธรรมดาของแต่ละคนมันเชื่อมหากันได้อย่างแนบเนียน

งานด้านเทคนิคของ The Hours เรียกว่าสมบูรณ์แบบมาก ๆ ตั้งแต่การตัดต่อที่โคตรยอดเยี่ยม ช่วงต้นเรื่องจะเห็นคุณภาพของการตัดต่อเลยครับ ดนตรีประกอบโดย Philip Glass สุดแสนจะสมบูรณ์แบบ ประทับใจสองอย่างนี้มากครับ

อีกความยอดเยี่ยมของหนังคงหนีไม่พ้นการแสดงครับ ยอดเยี่ยมทุกคนจริง ๆ ตั้งแต่นิโคล คิดแมนกับบทที่ทำให้เธอคว้าออสการ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม การแสดงของความไม่แน่นอนทางอารมณ์ เธอทำได้ดีมาก ๆ ทั้งแววตา น้ำเสียงไม่ว่าจะเป็นตอนสงบหรือตอนฉุนเฉียว แต่ในหนังผมกลับชอบการแสดงของจูลีแอนน์ มัวร์มากกว่าแฮะ เธอเข้าชิงออสการ์นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากบทนี้ ผมชอบการแสดงของเธอเพราะมันต้องทำหน้านิ่ง ๆ เก็บความต้องการไว้ภายในใจตลอดเวลา ซึ่งผมว่าเธอทำได้เยี่ยมมาก ๆ ส่วนเมอรีล สตรีปก็เยี่ยมครับ การแสดงที่เป็นธรรมชาติแต่เมื่อถึงฉากต้องใช้อารมณ์ก็สมราคานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน และที่ขาดไม่ได้คือเอ็ด แฮริสกับการแสดงที่น่าจดจำแม้โผล่มาแค่ช่วงสั้น ๆ

หนังยอดเยี่ยมอีกเรื่องของยุค 2000 ครับ เสียดายที่หนังเข้าชิง 9 รางวัลออสการ์แต่ได้มาแค่หนึ่งเดียวจากนิโคล คิดแมน ในสายตาผมคิดว่าบทภาพยนตร์ดัดแปลงน่าจะได้มากกว่า The Pianist นะ

9.5/10
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่