
นสพ. South China Morning Post ได้รายงานข่าวว่า เช่างเสื้อชุดกี่เพ้ากำลังจะล้มหายตายจากไปจากเกาะฮ่องกง
จากการสัมภาษณ์ช่างเสื้อกี่เพ้าคนสุดท้ายของเกาะฮ่องกง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านชุดกี่เพ้าสืบทอดมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่านเซิงหว่าน ร้านนี้เปิดขึ้นตั้งแต่ 1920 ปัจจุบันอายุ 63 ปีแล้ว
เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่าปี 1940-1960 เป็นยุคทองของกี่เพ้าที่ผู้หญิงจีนเกือบทุกคนนิยมใส่ในชีวิตประจำวัน เช่น ใส่ไปทำงาน ไปตลาด ใส่อยู่บ้าน
แต่หลังจากปี 1970 คนจีนก็เริ่มนิยมที่จะแต่งตัวตามแบบฝรั่งมากขึ้น ความนิยมในชุดก็น้อยลงไป กี่เพ้าเลยลดบทบาทเหลือเพียงวาระสำคัญๆ เท่านั้น
แต่ที่สำคัญคือ วิธีการทำกี่เพ้านี้ต้องทำด้วยมือ โดยเฉพาะการปักลวดลาย ซึ่งปัจจุบันหาช่างปักฝีมือดีได้น้อยมาก บนเกาะฮ่องกงมีช่างปักฝีมือดีเหลือไม่ถึง 10 คน และที่นี่ (ร้านนี้) จ้างไว้ 3 คน
สำหรับคนรุ่นใหม่ๆ ก็ไม่อยากสืบทอด เพราะรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องมาทนฝึกฝนปักผ้าเป็นเวลานาน
สำหรับราคาตัดอยู่ที่ 20,000-200,000 บาทต่อหนึ่งชุด โดยมักใช้ผ้ากำมะหยี่ ลูกไม้และดิ้นเงินดิ้นทองเป็นอุปกรณ์หลัก
“ชุดจีนกับชุดแบบฝรั่งนั้น เน้นความงามของสรีระผู้หญิงที่แตกต่างกัน ชุดแบบฝรั่งจะเน้นความงามที่อวดเรือนร่างของผู้หญิง ในขณะที่กี่เพ้าจะเน้นว่า ความงามของผู้หญิงเป็นสิ่งลึกลับ เหมือนกับหีบสมบัติที่รอวันเปิด”
CR: South China Morning Post
ข่าวจีน: หรือกี่เพ้าจะหมดจากฮ่องกง
นสพ. South China Morning Post ได้รายงานข่าวว่า เช่างเสื้อชุดกี่เพ้ากำลังจะล้มหายตายจากไปจากเกาะฮ่องกง
จากการสัมภาษณ์ช่างเสื้อกี่เพ้าคนสุดท้ายของเกาะฮ่องกง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านชุดกี่เพ้าสืบทอดมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่านเซิงหว่าน ร้านนี้เปิดขึ้นตั้งแต่ 1920 ปัจจุบันอายุ 63 ปีแล้ว
เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่าปี 1940-1960 เป็นยุคทองของกี่เพ้าที่ผู้หญิงจีนเกือบทุกคนนิยมใส่ในชีวิตประจำวัน เช่น ใส่ไปทำงาน ไปตลาด ใส่อยู่บ้าน
แต่หลังจากปี 1970 คนจีนก็เริ่มนิยมที่จะแต่งตัวตามแบบฝรั่งมากขึ้น ความนิยมในชุดก็น้อยลงไป กี่เพ้าเลยลดบทบาทเหลือเพียงวาระสำคัญๆ เท่านั้น
แต่ที่สำคัญคือ วิธีการทำกี่เพ้านี้ต้องทำด้วยมือ โดยเฉพาะการปักลวดลาย ซึ่งปัจจุบันหาช่างปักฝีมือดีได้น้อยมาก บนเกาะฮ่องกงมีช่างปักฝีมือดีเหลือไม่ถึง 10 คน และที่นี่ (ร้านนี้) จ้างไว้ 3 คน
สำหรับคนรุ่นใหม่ๆ ก็ไม่อยากสืบทอด เพราะรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องมาทนฝึกฝนปักผ้าเป็นเวลานาน
สำหรับราคาตัดอยู่ที่ 20,000-200,000 บาทต่อหนึ่งชุด โดยมักใช้ผ้ากำมะหยี่ ลูกไม้และดิ้นเงินดิ้นทองเป็นอุปกรณ์หลัก
“ชุดจีนกับชุดแบบฝรั่งนั้น เน้นความงามของสรีระผู้หญิงที่แตกต่างกัน ชุดแบบฝรั่งจะเน้นความงามที่อวดเรือนร่างของผู้หญิง ในขณะที่กี่เพ้าจะเน้นว่า ความงามของผู้หญิงเป็นสิ่งลึกลับ เหมือนกับหีบสมบัติที่รอวันเปิด”
CR: South China Morning Post