พ่อแม่สมัยนี้ทุ่มเทให้ลูกมากไปไหม

นั่งนึกมาสักสองสามวันแล้วว่าจะตั้งกระทู้นี้ดีไหม บอกตรงๆ ค่ะกลัวโดนด่าว่าไม่รักลูก  แต่มันก็ยังติดใจไม่หาย นั่งคิดถึงเรื่องนี้อยู่เรื่อย ก็เอาเถอะนะคะ ถือซะว่ามาแลกเปลี่ยนความเห็นกัน เห็นด้วยหรือเห็นต่างได้ทั้งนั้น

เราเห็นกระทู้บ่อยเรื่องการให้เงินพ่อแม่ บางคนก็ว่าต้องให้ บางคนก็ว่าแล้วแต่ลูก พ่อแม่ควรมีเงินเก็บเอง แล้วเราก็มาติดใจที่ความเห็นหนึ่ง เขาบอกประมาณว่า ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงเด็กสมัยนี้มาก เป็นหลายล้านบาท ยากมากที่พ่อแม่จะสามารถเก็บเงินเลี้ยงตัวเองได้ตอนแก่ ก็ต้องพึ่งลูก ซึ่งเรามานั่งนึกก็จริง ถ้านับค่าเทอมสมัยนี้ ซึ่งเห็นตัวเลขแล้วตกใจมากมาย ค่าแป๊ะเจี๊ยะ ค่าเรียนดนตรี เต้น ศิลปะ เรียนพิเศษ ฯลฯ มันก็คงจะเป็นหลายล้านจริง  มีคุณแม่คนหนึ่งมาตั้งกระทู้เรื่องนี้เหมือนกันบอกว่าตอนเรียนก็ต้องกู้เงินมาให้ลูกเรียน ไม่ให้ลูกกู้ กยศ. เพราะไม่อยากให้ลูกมีหนี้ติดตัว ซึ่งเราก็เข้าใจอยู่ว่าเพราะรักลูกมากจึงทำแบบนี้  

แต่ที่นี้เราก็มานั่งนึกว่าการที่ทุ่มเทเรื่องการเงินให้ลูกมาก จนไม่มีเงินเก็บเลยหรือเป็นหนี้นั้นเป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่  พอดีตอนนี้เราอยู่ต่างประเทศ พอเริ่มท้องก็เริ่มศึกษาเรื่องการแบ่งสรรการเงิน การเก็บเงินให้ลูกรวมถึงเก็บเงินไว้ตอนเกษียรณ ก็ฟังรายการวิทยุที่มีคนเขาเขียนมาถามว่าควรจะแบ่งสรรเงินเพื่อการศึกษาลูกยังไง ในที่นี้เขาหมายถึง college fund ซึ่งเอาไว้ใช้ตอนเข้ามหาวิทยาลัย เด็กที่นี่บางคนพ่อแม่จ่ายให้บ้าง บางคนก็กู้ยืมเอาถ้าพ่อแม่ไม่มีเงินส่วนนี้ให้  เขาตอบว่า 1)ต้องมีเงินเก็บฉุกเฉินส่วนหนึง เผื่อตกงานหรือไม่สบาย  2)เงินเก็บเกษียรณ 3)เหลือจากนั้นเอาเข้า college fund เขาให้เหตุผลว่าการศึกษาลูกสำคัญก็จริง แต่ต้องเอาตัวเองให้รอดก่อนจะได้ไม่ต้องเป็นภาระลูกตอนแก่ อีกอย่างเขาก็คิดว่าเด็กสามารถกู้ยืมได้ ซึ่งจะเสียดอกเบี้ยต่ำ จ่ายคืนได้ในระยะยาว

เข้าใจว่าสภาพสังคมไม่เหมือนกัน คือ สังคมไทยจะมีค่านิยมว่ามีเท่าไหร่ควรจะต้องให้ลูกหมดเพื่อให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่มันทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาว่า ทุกวันนี้พ่อแม่ทุ่มเทเรื่องการเงินให้ลูกเกินกว่าฐานะตัวเองหรือเปล่า ไม่นับกรณีครอบครัวไม่มีปัญหาเรื่องการเงินนะคะ ถ้าส่งเสียกันไหวโดยที่ยังมีเงินเก็บไม่เป็นหนี้ก็ตามสบายค่ะ หลักๆ มันก็คงจะเป็นเรื่องค่าเทอมมหาโหด ถ้าส่งลูกไปโรงเรียนมีชื้อเสียง แล้วชักหน้าไม่ถึงหลัง ไม่มีเงินเก็บ หรือพ่อแม่ต้องทำงานจนไม่เคยได้เจอหน้าลูก ควรจะส่งไปโรงเรียนอื่นดีกว่าไหม บางทีเราชอบคิดบ่อยๆ ว่าโรงเรียนสมัยนี้ตั้งค่าเทอมสูงไปไหมหรือว่าผู้ปกครองยอมจ่ายก็เลยตั้งแบบนี้ได้  แล้วก็คงจะมีค่าจิปาถะอะไรอย่างอื่นอีกซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะลูกยังเล็กอยู่  

ส่วนตัวคิดว่าเลี้ยงลูกให้ดีเหมาะสมตามฐานะ (ไม่ใช่ให้อดอยากอัตคัตอะไรนะคะ) แล้วก็มีเงินเก็บไว้บ้างอีกหน่อยจะได้ไม่ต้องเป็นภาระเขาตอนเราแก่ดีกว่าไหม ประมาณว่าแทนที่ต้องใช้เงิน 5 ล้านเลี้ยงลูก ลดมาเป็นซัก 3 ล้านแล้วเก็บไว้สัก 2 ล้านได้ไหม

ออกตัวก่อนว่าเราคิดแบบนี้ ส่วนหนึ่งเพราะเราไม่เชื่อว่าเด็กต้องเรียนโรงเรียนมีชื่อเสียง ต้องเรียนพิเศษ ถึงจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ เราว่ามันอยู่ที่ตัวเด็กเอง พื้นฐานครอบครัวว่าดูแลเอาใจใส่กันดีไหม  เคยมีงานวิจัยออกมาว่า รร.ที่มี่ชื่อเสียงนั้น ส่วนมากได้เด็กดีมีคุณภาพเข้าไปตั้งแต่แรกแล้ว จึงทำให้เด็กออกมาดี เขาสุ่มเด็กสองกลุ่มที่ดูแล้วว่าความสามารถพื้นฐานเทียบเท่ากัน กลุ่มหนึ่งเข้าโรงเรียนมีชื่อเสียง อีกกลุ่มเข้าโรงเรียนธรรมดา ออกมาในระยะยาว ทั้งสองกลุ่มนี้ประสบความสำเร็จเทียบเท่ากัน ส่วนตัวเราคิดว่าโรงเรียนเป็นแค่ส่วนเล็กมาก การที่คนหนึ่งเรียนเก่งทำข้อสอบเก่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตเสมอไป ความฉลาดและพื้นฐานนิสัยของเด็กซึ่งมาจากครอบครัวสำคัญกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่