เรารักษาความสะอาดรถเรา แต่พอคนมาอาศัยรถหาว่าเราเรื่องมาก

ยืมล็อคอินนะคะ

เรื่องของเรื่องคือเราค่อนรักหวงรถ รักษาความสะอาดมาก เพื่อนๆรู้กันหมด (เนื่องจากอยู่คอนโดล้างรถทีต้องไปคาร์แคร์)
เช่นก่อนขึ้นรถจะมีกล่องใส่รองเท้า แล้วเปลี่ยนเป็นสลิปเปอร์ ไม่กินขนมในรถเลย กลัวสกปรกและมีกลิ่น
ปกติเพื่อนๆในกลุ่มเราจะมีรถเป็นของตัวเองไม่ก็คอนโดอยู่ใกล้รถไฟฟ้า เวลาเลิกงานจึงแยกย้ายกันกลับ
แต่พอมาล่าสุดมีพนักงานย้ายมาอยู่แผนกเราได้อาทิตย์นึง ก็เหมือนอยากสนิทกับกลุ่มเรา เราก็ไม่ได้ว่าอะไร
คุยกันเรื่อยเปื่อย แล้วเย็นวันนั้นเค้าก็ชวนกลุ่มเราไปทานบุฟเฟ่ต์ พอขากลับเขาขอติดรถเรามาด้วยเพราะ
ที่พักเค้าอยู่เกือบทางผ่านเรากลับคอนโด คือต้องเลี้ยวไปอีกแยกหนึ่ง
พอจะขึ้นรถ เราบอกว่าเปลี่ยนรองเท้าก่อนนะ เค้าก็ทำหน้างงๆ แล้วก็ไม่เปลี่ยนเปิดประตูนั่งหลังรถเฉย
เราเงิบเลยค่ะ ความรู้สึกเหมือนเป็นคนขับรถ
พอเราติงว่ามานั่งข้างหน้าสิ เค้าบอกว่าไม่เห็นเป็นไรเลย (คนแบบนี้ก็มี) แล้วก็ไม่ย้าย
เราคิดว่าเออช่างมันครั้งเดียวเอง สักพักเค้าหยิบกล้วยฉาบขึ้นมากินสบายใจเฉิบ
เราเงิบครั้งที่สองเลยบอกว่า เดี๋ยวค่อยกินได้มั๊ย เดี๋ยวหกเลอะรถ เค้าบอกว่า เค้ากินระวังไม่หกหรอก
โอ้ยยย อยากจะบ้าตาย
พอมาถึงแยกเราเลยจอดให้เค้าลง (ก่อนมาเค้าเป็นคนบอกเองว่าเดี๋ยวลงตรงนี้แล้วเดินไปเอง)
เค้าถามว่าจอดทำไมอ่ะ เลยไปส่งหน่อยสิ นิดเดียวเอง พอไปส่งจริงๆ นิดเดียวมากกกกกค่ะ
เลยมาหลายไฟแดงทีเดียว ตอนนั้นเราสกัดกลั้นอารมณ์มากๆ
พอถึงแล้วเค้าก็สะบัดตูดพร้อมทิ้งถุงกล้วยทอดไว้เป็นของดูต่างหน้า แต่ยังดีที่ยังขอบคุณกัน

พอวันรุ่งขึ้นเค้าจะขอติดรถกลับอีก เราก็พูดไปตรงๆนะว่า
'ไม่เอาแล้ว บอกให้นั่งหน้าก็ไม่มา ไม่ใช่คนขับรถนะ แถมยังทิ้งขยะในรถอีก'
เค้าตอกกลับมาว่า เรื่องมาก เสียงดังด้วยนะคะ
ตอนนั้นเราโมโหมากกก เพื่อนต้องบอกให้ใจเย็นๆ

รถก็รถเรา ผ่อนทุกเดือนก็เงินเรา ค่าน้ำมันค่าดูแลรักษาก็เงินเรา
พูดแล้วยังโมโหอยู่เลยค่ะ