ขอบคุณพี่ย้งกับครูบิว

ขอบคุณพี่ย้งกับครูบิวที่ช่วยชี้แจงและเป็นกระจกให้เต้ยได้อย่างดีเยี่ยม เคลียร์ ตรงประเด็น กระชับ ชัดเจน จนเต้ยแถต่อไม่ได้ หวังว่าเต้ยคงคิดได้สักที ชอบที่พี่ย้งบอกว่า เต้ยต้องยอมรับว่ารู้สึกnegativeต่อเพื่อน นี่แหละประเด็นสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องราวมากมาย เพราะเต้ย attitude ติดลบ เช่นเรื่องบีม เต้ยก้อไปคุยกับคนอื่นในทางnegative กับเบลที่รู้สึกไม่ค่อยดีกับบีมอยู่แล้ว เลยยิ่งเป็นการสุมไฟให้เบลอคติกับบีมเข้าไปอีก ในความคิดเรา เรื่องเบลบีมเนี่ยเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เคลียร์ง่ายๆ แต่ไม่ได้ถูกเคลียร์ เรานึกอยู่ว่าบีมเองอาจจะรุ่มร่ามกับเบลมากไปจนเบลอึดอัด จนต้องบอกว่า ลูกมีพ่อมีแม่ แต๊ะอั๋งอยู่ได้ (ประมาณนี้มั๊ย) แต่ก็เอ๊ะ การที่เบลถีบ ใข้ขากับบีมนี่ก็ไม่เหมาะนะ ถ้าเป็นผู้ชายบางคนไปถีบเค้าเนี่ยเผลอๆอาจโดนก้านคอกลับมาได้ (แนะนำให้เบลลองกะตองดูก็ได้นะ) จริงๆเรื่องนี้นี่ควรทำความเข้าใจกับเบลบีมด้วยเหมือนกัน เพราะตอนนี้เชื่อว่าเบลยังมีอคติกับบีมอยู่ ควรชี้ให้เบลเห็นว่าตัวเองก็ทำไม่ดีกับบีมเหมือนกัน และเคลียร์กันไปสักที พูดกันตรงๆไม่ต้องอ้อมไปอ้อมมา บรรยากาศจะได้เลิกมาคุสักที
  ปีนี้เหมือนการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เด็กทำผิดควรจะบอกในทันที ไม่ใช่รอให้ปัญหามันสุมๆแล้วเอาความผิดมารวมทีเดียว บางทีเด็กก็อาจหลงลืมไปแล้วว่าทำอะไร พูดอะไรไป อีกประเด็นคือ เราว่าครูใหญ่ทำการไม่มากพอ เชื่อเลยว่าไม่ได้ดูเด็กๆมากพอ และวิเคราะห์เด็กออกมาเป็นรายบุคคลไม่ได้
  อีกคนที่ขอชื่นชมคือนัน นี่ดิ ตรงจริง นิสัยแมนจริง เพื่อนผิดก็เตือน พูดกันตรงๆ นี่ดิรักเพื่อนห่วงเพื่อนจริง ส่วนหงหยกเมื่อวานเราค่อนข้างงงว่าเฮ้ย เข้าข้างเต้ยขนาดนั้นเลย...อย่างนี้มันน่าจะเป็นการรักเพื่อนแบบผิดๆ คล้ายๆพ่อแม่รังแกฉันเลย
   สุดท้าย เราคิดว่าน่าจะมีการจับทำคลาสอย่างของครูเงาะนะ  ให้เด็กๆได้กระเทาะกำแพงของตัวเองออกมา เพราะมันก็เป็นอุปสรรคที่ทำให้เด็กพัฒนาต่อไปไม่ได้ อย่างเต้ย ถ้าไม่รีบบำบัด ตอนออกมาเจอโลกความเป็นจริงข้างนอกนี่ได้ชักอีก ล้านแปดรอบแน่นอน