จดหมายเปิดผนึกจากชมรมช่างภาพการเมือง
ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร
เนื่องด้วยคืนวันที่ 16 ส.ค.56 เวลาประมาณ 22.30 น. ได้เกิดเหตุการณ์คุกคามช่างภาพที่กำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณด้านล่าง อาคารรัฐสภา หลังจากที่ นายพงษ์ฤทธิ์ชา ขวัญเนตร ช่างภาพเอเอสทีวีผู้จัดการ ได้บันทึกภาพพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ ว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ในระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2557
โดยว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ ได้ใช้ไอแพดที่ได้รับแจกจากสภาอันเป็นภาษีของประชาชน เปิดดูภาพที่ไม่เหมาะสมขณะกำลังทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทย หลังจากนั้นว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภามาสอบถามว่า “ถ่ายภาพอะไร” ซึ่งนายพงษ์ฤทธิ์ชา ตอบไปว่า “ถ่ายบรรยากาศทั่วไปในห้องประชุม” ก่อนที่จะส่งภาพดังกล่าวให้ต้นสังกัด จนมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซด์เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์
แต่เหตุการณ์ยังไม่จบเพราะว่าที่ร้อยตรี
พงศ์พันธ์ พร้อมด้วยตำรวจสภา 3 นาย และผู้ติดตามอีก 1 คน ได้เข้ามาสอบถามนายพงษ์ฤทธิ์ชาว่ามาจากสังกัดใด ชื่ออะไร เป็นช่างภาพจริงหรือไม่ พร้อมกับขอดูบัตร
และพยายามบังคับให้เซ็นต์ชื่อในเอกสารซึ่งไม่ทราบว่ามีเนื้อหาอย่างไร นายพงษ์ฤทธิ์ชา จึงปฏิเสธที่จะเซ็นต์ชื่อในเอกสารดังกล่าว พร้อมกับแสดงบัตรสื่อมวลชนประจำรัฐสภาที่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่บริเวณชั้น 2
อาคารรัฐสภา 1 ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมสภาได้
ชมรมช่างภาพการเมืองเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการแทรกแซงและคุกคามการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตของสื่อมวลชนเพราะในบริเวณที่บันทึกภาพนั้นมิใช่เขตหวงห้าม แต่เป็นพื้นที่ที่สื่อมวลชนใช้ปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำอยู่แล้ว พฤติกรรมของ
ว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ ตั้งแต่การส่งตำรวจสภามาสอบถามว่า “ถ่ายภาพอะไร” จึงถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนและเจ้าตัวยังนำตำรวจพร้อมผู้ติดตามมากดดันนายพงษ์ฤทธิ์ชาอีกด้วย
แสดงให้เห็นว่าว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ทราบว่าตัวเองได้กระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมระหว่างการประชุมสภา การทำงานของสื่อมวลชนประจำรัฐสภาได้ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ที่สภากำหนดอย่างเคร่งครัด และการถ่ายภาพของนายพงษ์ฤทธิ์ชา ก็ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตในฐานะสื่อมวลชนที่ต้องนำเสนอความจริงต่อประชาชนซึ่งได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 45 ที่บัญญัติว่า
“บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณาและสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดสิทธิเสรีภาพตามวรรค 1 จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ เกียรติยศ ชื่อเสียง สิทธิในครอบครัวหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันหรือระงับความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชน”
การบันทึกภาพไม่เหมาะสมของว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ ในขณะกำลังดูภาพโป๊ในไอแพด ย่อมอยู่ในวิสัยที่สื่อมวลชนต้องเปิดโปงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบเป็นการทั่วไป
ว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ จึงไม่มีสิทธิละเมิด หรือคุกคามการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตของนายพงษ์ฤทธิ์ชา
ด้วยเหตุนี้ชมรมช่างภาพการเมืองจึงใคร่ขอความกรุณาจากนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุคุกคามเสรีภาพของสื่อมวลชนในรัฐสภาซึ่งเป็นสถานที่แสดงออกซึ่งประชาธิปไตยอีกต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
ฉลาด จันทร์เดช
ประธานชมรมช่างภาพการเมือง
--------------------
เราเป็นผู้ที่ตั้งกระทู้เปิดประเด็นหาความจริงเรื่องนี้เป็นคนแรกในราชดำเนิน
และได้เคยตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า เรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่
และได้ตั้งข้อสงสัยเอาไว้ว่า เหตุใดเมื่อมีการเผยแพร่ข่าวนี้ครั้งแรก
ต้นสังกัด คือ ASTV จึงไม่เปิดเผยโฉมหน้า หรือ ชื่อ หรือแม้แต่ชื่อพรรค ของ ส.ส.ฉาวรายนี้
ทุกอย่างคลุมเครือ และทำเอาพวกที่ออกตัวแรงเงิบกันไปหลายกระทู้
มีประเด็นโต๊ะหินอ่อน นาฬิกาสองเรือน และขอบแว่นตาไม่ใช่นาฬิกาซะหน่อย คิคิ
วันนี้คงตาสว่าง ได้ความจริงกันหมดแล้ว
และการออกมายอมรับแบบแกนๆ ไม่ใช่แมนๆ ว่าใช้ไอแพดไม่เป็นแต่ซูมเป็น
แถมทางพรรคก็แถแทนสีข้างถลอก ก็คงเป็นคำตอบได้แล้วว่า ...%%#@$%$%^@
ทีนี้นอกจากผิดในประเด็นเอาไอแพดฟรีจากภาษีประชาชนไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
ยังจะไปล่วงล้ำ คุกคามสื่อ อีกกระทงนึง
เรามาลุ้นกันว่า...สมศักดิ์ฆ้อนปลอมจะมีท่าทีเยี่ยงไร
**จดหมายเปิดผนึกจากประธานชมรมช่างภาพการเมือง ถึง ฆ้อนปลอมดูไบ : สส.เพื่อไทยคุกคามสื่อ?? (by แก้ม)
จดหมายเปิดผนึกจากชมรมช่างภาพการเมือง
ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร
เนื่องด้วยคืนวันที่ 16 ส.ค.56 เวลาประมาณ 22.30 น. ได้เกิดเหตุการณ์คุกคามช่างภาพที่กำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณด้านล่าง อาคารรัฐสภา หลังจากที่ นายพงษ์ฤทธิ์ชา ขวัญเนตร ช่างภาพเอเอสทีวีผู้จัดการ ได้บันทึกภาพพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ ว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ในระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2557
โดยว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ ได้ใช้ไอแพดที่ได้รับแจกจากสภาอันเป็นภาษีของประชาชน เปิดดูภาพที่ไม่เหมาะสมขณะกำลังทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทย หลังจากนั้นว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภามาสอบถามว่า “ถ่ายภาพอะไร” ซึ่งนายพงษ์ฤทธิ์ชา ตอบไปว่า “ถ่ายบรรยากาศทั่วไปในห้องประชุม” ก่อนที่จะส่งภาพดังกล่าวให้ต้นสังกัด จนมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซด์เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์
แต่เหตุการณ์ยังไม่จบเพราะว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ พร้อมด้วยตำรวจสภา 3 นาย และผู้ติดตามอีก 1 คน ได้เข้ามาสอบถามนายพงษ์ฤทธิ์ชาว่ามาจากสังกัดใด ชื่ออะไร เป็นช่างภาพจริงหรือไม่ พร้อมกับขอดูบัตร และพยายามบังคับให้เซ็นต์ชื่อในเอกสารซึ่งไม่ทราบว่ามีเนื้อหาอย่างไร นายพงษ์ฤทธิ์ชา จึงปฏิเสธที่จะเซ็นต์ชื่อในเอกสารดังกล่าว พร้อมกับแสดงบัตรสื่อมวลชนประจำรัฐสภาที่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่บริเวณชั้น 2
อาคารรัฐสภา 1 ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมสภาได้
ชมรมช่างภาพการเมืองเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการแทรกแซงและคุกคามการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตของสื่อมวลชนเพราะในบริเวณที่บันทึกภาพนั้นมิใช่เขตหวงห้าม แต่เป็นพื้นที่ที่สื่อมวลชนใช้ปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำอยู่แล้ว พฤติกรรมของว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ ตั้งแต่การส่งตำรวจสภามาสอบถามว่า “ถ่ายภาพอะไร” จึงถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนและเจ้าตัวยังนำตำรวจพร้อมผู้ติดตามมากดดันนายพงษ์ฤทธิ์ชาอีกด้วย
แสดงให้เห็นว่าว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ทราบว่าตัวเองได้กระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมระหว่างการประชุมสภา การทำงานของสื่อมวลชนประจำรัฐสภาได้ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ที่สภากำหนดอย่างเคร่งครัด และการถ่ายภาพของนายพงษ์ฤทธิ์ชา ก็ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตในฐานะสื่อมวลชนที่ต้องนำเสนอความจริงต่อประชาชนซึ่งได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 45 ที่บัญญัติว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณาและสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดสิทธิเสรีภาพตามวรรค 1 จะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ เกียรติยศ ชื่อเสียง สิทธิในครอบครัวหรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันหรือระงับความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชน”
การบันทึกภาพไม่เหมาะสมของว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ ในขณะกำลังดูภาพโป๊ในไอแพด ย่อมอยู่ในวิสัยที่สื่อมวลชนต้องเปิดโปงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบเป็นการทั่วไป ว่าที่ร้อยตรีพงศ์พันธ์ จึงไม่มีสิทธิละเมิด หรือคุกคามการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตของนายพงษ์ฤทธิ์ชา
ด้วยเหตุนี้ชมรมช่างภาพการเมืองจึงใคร่ขอความกรุณาจากนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุคุกคามเสรีภาพของสื่อมวลชนในรัฐสภาซึ่งเป็นสถานที่แสดงออกซึ่งประชาธิปไตยอีกต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
ฉลาด จันทร์เดช
ประธานชมรมช่างภาพการเมือง
--------------------
เราเป็นผู้ที่ตั้งกระทู้เปิดประเด็นหาความจริงเรื่องนี้เป็นคนแรกในราชดำเนิน
และได้เคยตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่า เรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่
และได้ตั้งข้อสงสัยเอาไว้ว่า เหตุใดเมื่อมีการเผยแพร่ข่าวนี้ครั้งแรก
ต้นสังกัด คือ ASTV จึงไม่เปิดเผยโฉมหน้า หรือ ชื่อ หรือแม้แต่ชื่อพรรค ของ ส.ส.ฉาวรายนี้
ทุกอย่างคลุมเครือ และทำเอาพวกที่ออกตัวแรงเงิบกันไปหลายกระทู้
มีประเด็นโต๊ะหินอ่อน นาฬิกาสองเรือน และขอบแว่นตาไม่ใช่นาฬิกาซะหน่อย คิคิ
วันนี้คงตาสว่าง ได้ความจริงกันหมดแล้ว
และการออกมายอมรับแบบแกนๆ ไม่ใช่แมนๆ ว่าใช้ไอแพดไม่เป็นแต่ซูมเป็น
แถมทางพรรคก็แถแทนสีข้างถลอก ก็คงเป็นคำตอบได้แล้วว่า ...%%#@$%$%^@
ทีนี้นอกจากผิดในประเด็นเอาไอแพดฟรีจากภาษีประชาชนไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม
ยังจะไปล่วงล้ำ คุกคามสื่อ อีกกระทงนึง
เรามาลุ้นกันว่า...สมศักดิ์ฆ้อนปลอมจะมีท่าทีเยี่ยงไร