ต้วมเตี้ยมรันนิ่ง . . . จากใจนักวิ่งแนวหลังสู่ผู้ที่กำลังจะเริ่มต้น "วิ่งเพื่อสุขภาพ" ^_^

กระทู้สนทนา
ช่วงนี้มีเพื่อนๆ และคนรอบตัวถามผมบ่อยๆ ว่าหากจะเริ่มต้นวิ่งเพื่อสุขภาพ
ควรจะเริ่มจากตรงไหน เริ่มยังไง และอย่างไรคือวิ่งเพื่อสุขภาพ?
บ้างก็ถามว่าวิ่งทำไม วิ่งแล้วได้อะไร วิ่งๆ เนี่ยไม่เหนื่อยบ้างหรือ?

ทุกครั้งที่ผมได้ยินคำถาม ผมจะโปรยยิ้มหวานๆ พร้อมกับคำตอบแรกที่ผมมักจะตอบแทบจะในทันทีคือ

"แค่คิดจะวิ่ง คิดจะออกกำลังกาย ก็เป็นกุศลกับชีวิตแล้วครับ"

แต่สิ่งสำคัญกว่าคือความตั้งใจจริง และการเริ่มลงมือทำอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ

ผมมักจะบอกเพื่อนๆ วัยเดียวกันว่า การออกกำลังกาย หรือการวิ่งเพื่อสุขภาพ
มันไม่ใช่เทรนด์การใช้ชีวิต หรือเพียงแค่ไลฟ์สไตล์เท่านั้น  แต่มันควรจะเป็นวาระหนึ่งของชีวิต . . .  
วาระที่ควรจะบรรจุลงไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตวัยรุ่นตอนปลาย ย่างเข้าวัยกลางคนอย่างเราๆ ^_^

วันที่ความเสื่อมเริ่มมาเยือน ความโรยราเห็นเป็นรูปธรรม ริ้วรอยเริ่มปรากฏประปรายบนใบหน้า
ผมหงอกเริ่มแซมขึ้นมาให้ถอนไม่เว้นแต่ละวัน อาการปวดยอก ลุกก็โอย นั่งก็โอย ฯลฯ

เหล่านี้เป็นสัญญาณบอกความไม่เที่ยงของสังขาร
ปัจฉิมโอวาทของพระพุทธองค์ตรัสว่า . . .

"สิ่งทั้งหลายที่เกิดมาในโลกมีความเสื่อมสลายเป็นธรรมดา  
ท่านทั้งหลายจงทำหน้าที่อันเป็นประโยชน์แก่ตนและคนอื่น
ให้สำเร็จบริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด"

หากตระหนักในปัจฉิมโอวาทของพระพุทธองค์แล้ว . . .
การออกกำลังกายก็คือการดำรงตนให้เป็นประโยชน์แก่ตนเอง บรรจุเป็นวาระหนึ่งของชีวิต
เมื่อซึมซับผลของการปฏิบัติที่ได้ และขยายผลสู่คนอื่น คนในครอบครัว เพื่อนฝูง คนใกล้ชิด
หรือการถ่ายทอดสู่ผู้อื่นด้วยวิธีการต่างๆ ผ่านโลกออนไลน์
ก็ล้วนแต่เป็นการดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาทและยังประโยชน์ต่อผู้อื่นอีกส่วนหนึ่งด้วย

ความเรียงนี้เกิดขึ้นมาด้วยเหตุผลข้างต้นครับ . . .

ผมจะบอกเล่าภาพรวมเบาๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน
เน้นเรื่องความสะดวกแก่การเริ่มต้น ค่าใช้จ่ายไม่เยอะ
ไม่เน้นเรื่อง Performance หรือการวิ่งในสมรรถภาพสูงนะครับ

ว่าแล้วก็มาผูกเชือกรองเท้าออกวิ่งไปด้วยกันเลยจ้า ^_^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่