เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบเรื่องการเมืองเท่าไหร่ เพราะฟังหรืออ่านดูแล้วบางที่มันอึดอัด มีการแบ่งฝ่าย แบ่งพรรคพวกโจมตีกันไปโจมตีกันมา บางที่ก็เห็นด้านแย่ๆ ของรัฐบาลไทย จนรู้สึกเสื่อมศรัทธากับคน... (รุ่นพ่อ รุ่นแม่ เราทั้งนั้น แต่ทำตัวให้เด็กสิ้นศรัทธา) แต่บางครั้งก็ต้องดูบ้าง เพื่อที่จะได้รู้ว่า ตรงที่เราทำงานอยู่จะมีคนชุมนุมประท้วงเมื่อไหร่ จะได้หนีตายได้ทัน (เพราะเราเกือบตายอยู่ในพิพิธภัณฑ์ฯ สนามหลวง เพราะลูกปืนตกเฉียดหัวไปแค่นิดเดียว ตอนมีชุมนุมแถวราชวิถี) วันนี้เราไปอ่านเจอข่าวนึง จากในเฟสเพื่อน เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ได้มีความพยายามในการเสนอ “ทางออกประเทศไทย” ภายหลังจาก “สังคมไทย” ต้องเผชิญวิกฤตความขัดแย้งมายาวนานกว่า 8 ปี โดย “ทางออกประเทศไทย” ที่ “นายกรัฐมนตรี” ได้นำเสนอนั้นหวังเพียงว่า “ให้ทุกฝ่ายมาหารือร่วมกัน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อที่จะนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง ร่วมกันคิดว่าเราจะวางอนาคตบ้านเมืองอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นภาระของลูกหลาน อันจะเป็นพื้นฐานของความร่วมมือในการพัฒนาชาติ สร้างความไว้วางใจ และความเปลี่ยนแปลงที่ออกจากวงจรแห่งความขัดแย้ง
โดยท่านนายกฯ ได้จัด “ เวทีปฏิรูปการเมือง ” และ เวทีวิชาการ “Uniting for the future : Learning from each other's experience ” ในวันที่ 2 กันยายน 2556 พอดิบพอดี ทำให้หลายฝ่าย เข้าใจผิดคิดว่า ทั้งสองเวทีนี้ เป็นเวทีเดียวกัน !! ทั้งที่ 2 เวทีนี้ มันคนละเวที เพียงแค่จัดขึ้นในวันเดียวกันเท่านั้น
โดยที่เวที เวทีวิชาการ “ Uniting for the future : Learning from each other's experience ” เป็นการเชิญ “ ผู้นำ ” จากนานาประเทศมา “ เล่าสู่กันฟัง” แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ประสบผลสำเร็จ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ที่มีปัญหาเกิดขึ้นคล้ายๆ กับประเทศไทย มีการทะเลาะเบาะแว้ง มีความวุ่นวายแล้วก็สามารถแก้ไขปัญหาสำเร็จ มาแลกเปลี่ยน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เรียนรู้หนทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ส่วน “ เวทีปฏิรูปการเมือง ” นั้น เป็นเวทีที่พูดคุยเกี่ยวกับหนทางสู่การ “ สร้างความปรองดอง ” ให้คนในประเทศไทยนั้นรักและสามัคคีกัน
แต่ “ แกนนำพรรคฝ่ายค้าน” และ “สมาชิกพรรคฝ่ายค้าน” ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นคัดค้าน โดยระบุว่า “ การเชิญผู้นำต่างประเทศมาเข้าร่วมด้วยนั้นก็เป็นเรื่องของการสร้างภาพลักษณ์มากกว่าเรื่องของเนื้อหาสาระ ”
จึง “น่าเป็นห่วง” เป็นอย่างยิ่งว่า การนำเสนอของ “ พรรคฝ่ายค้าน ” ที่โยงทั้ง “สองเวที” ที่เป็น “คนละเวที” ให้เป็น “เวทีเดียวกัน” นั้น เป็น “ ความเข้าใจผิด ” หรือ เป็น “ ความพยายามเข้าใจผิด ” กันแน่ !!! เพราะได้มีการให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ “ เหมารวมสองเวทีที่แตกต่างกัน ” ให้ประชาชนเกิดความสับสน ว่า “ เวทีปฏิรูปการเมือง ” และ “ เวทีเล่าสู่กันฟัง หรือ Uniting for Future” เป็น “ เวทีเดียวกัน ” เพราะถ้าเป็น “ความพยายามเข้าใจผิด ” มันจะกลายเป็นการ “ ปิดกั้นทางความคิด ” ไม่รับฟังความคิดเห็นและข้อมูลของผู้อื่น
แต่สำหรับเรา ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เกิดมาบนผืนแผ่นดินนี้ ถ้าสิ่งไหนทำแล้วดีต่อประเทศ เราคิดว่าก็สมควรทำ เพราะเราจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ จะได้ไม่ต้องมาหนีตาย เพราะคนในประเทศต้องมารบราฆ่าฟันกันเอง พวกคุณที่นั่งๆ อยู่ในสภาเคยคิดไม๊ว่า เด็กๆ อย่างเราต้องได้รับผลกระทบต่อความรุนแรงที่พวกผู้ใหญ่สร้างขึ้นมากมายแค่ไหน ทุกครั้งที่มีการชุมนุมประท้วง เราต้องหนีตายทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด อย่าคัดค้านเพราะว่าตัวเองไม่ได้ประโยชน์ พวกที่นั่งในสภาควรทำอะไรเพื่อคนในประเทศบ้าง ก่อนที่อะไร อะไร จะสายเกิดว่าที่จะแก้ไขได้
กรุณา !!! ทำอะไร เพื่อคนในประเทศไทยบ้างเถอะ ไม่ใช่มัวแต่คัดค้าน และบิดเบือนความเป็นจริง ในสิ่งที่มันไม่ใช่ความจริง
เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบเรื่องการเมืองเท่าไหร่ เพราะฟังหรืออ่านดูแล้วบางที่มันอึดอัด มีการแบ่งฝ่าย แบ่งพรรคพวกโจมตีกันไปโจมตีกันมา บางที่ก็เห็นด้านแย่ๆ ของรัฐบาลไทย จนรู้สึกเสื่อมศรัทธากับคน... (รุ่นพ่อ รุ่นแม่ เราทั้งนั้น แต่ทำตัวให้เด็กสิ้นศรัทธา) แต่บางครั้งก็ต้องดูบ้าง เพื่อที่จะได้รู้ว่า ตรงที่เราทำงานอยู่จะมีคนชุมนุมประท้วงเมื่อไหร่ จะได้หนีตายได้ทัน (เพราะเราเกือบตายอยู่ในพิพิธภัณฑ์ฯ สนามหลวง เพราะลูกปืนตกเฉียดหัวไปแค่นิดเดียว ตอนมีชุมนุมแถวราชวิถี) วันนี้เราไปอ่านเจอข่าวนึง จากในเฟสเพื่อน เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ได้มีความพยายามในการเสนอ “ทางออกประเทศไทย” ภายหลังจาก “สังคมไทย” ต้องเผชิญวิกฤตความขัดแย้งมายาวนานกว่า 8 ปี โดย “ทางออกประเทศไทย” ที่ “นายกรัฐมนตรี” ได้นำเสนอนั้นหวังเพียงว่า “ให้ทุกฝ่ายมาหารือร่วมกัน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อที่จะนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง ร่วมกันคิดว่าเราจะวางอนาคตบ้านเมืองอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นภาระของลูกหลาน อันจะเป็นพื้นฐานของความร่วมมือในการพัฒนาชาติ สร้างความไว้วางใจ และความเปลี่ยนแปลงที่ออกจากวงจรแห่งความขัดแย้ง
โดยท่านนายกฯ ได้จัด “ เวทีปฏิรูปการเมือง ” และ เวทีวิชาการ “Uniting for the future : Learning from each other's experience ” ในวันที่ 2 กันยายน 2556 พอดิบพอดี ทำให้หลายฝ่าย เข้าใจผิดคิดว่า ทั้งสองเวทีนี้ เป็นเวทีเดียวกัน !! ทั้งที่ 2 เวทีนี้ มันคนละเวที เพียงแค่จัดขึ้นในวันเดียวกันเท่านั้น
โดยที่เวที เวทีวิชาการ “ Uniting for the future : Learning from each other's experience ” เป็นการเชิญ “ ผู้นำ ” จากนานาประเทศมา “ เล่าสู่กันฟัง” แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ประสบผลสำเร็จ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ที่มีปัญหาเกิดขึ้นคล้ายๆ กับประเทศไทย มีการทะเลาะเบาะแว้ง มีความวุ่นวายแล้วก็สามารถแก้ไขปัญหาสำเร็จ มาแลกเปลี่ยน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เรียนรู้หนทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน
ส่วน “ เวทีปฏิรูปการเมือง ” นั้น เป็นเวทีที่พูดคุยเกี่ยวกับหนทางสู่การ “ สร้างความปรองดอง ” ให้คนในประเทศไทยนั้นรักและสามัคคีกัน
แต่ “ แกนนำพรรคฝ่ายค้าน” และ “สมาชิกพรรคฝ่ายค้าน” ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นคัดค้าน โดยระบุว่า “ การเชิญผู้นำต่างประเทศมาเข้าร่วมด้วยนั้นก็เป็นเรื่องของการสร้างภาพลักษณ์มากกว่าเรื่องของเนื้อหาสาระ ”
จึง “น่าเป็นห่วง” เป็นอย่างยิ่งว่า การนำเสนอของ “ พรรคฝ่ายค้าน ” ที่โยงทั้ง “สองเวที” ที่เป็น “คนละเวที” ให้เป็น “เวทีเดียวกัน” นั้น เป็น “ ความเข้าใจผิด ” หรือ เป็น “ ความพยายามเข้าใจผิด ” กันแน่ !!! เพราะได้มีการให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่ “ เหมารวมสองเวทีที่แตกต่างกัน ” ให้ประชาชนเกิดความสับสน ว่า “ เวทีปฏิรูปการเมือง ” และ “ เวทีเล่าสู่กันฟัง หรือ Uniting for Future” เป็น “ เวทีเดียวกัน ” เพราะถ้าเป็น “ความพยายามเข้าใจผิด ” มันจะกลายเป็นการ “ ปิดกั้นทางความคิด ” ไม่รับฟังความคิดเห็นและข้อมูลของผู้อื่น
แต่สำหรับเรา ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เกิดมาบนผืนแผ่นดินนี้ ถ้าสิ่งไหนทำแล้วดีต่อประเทศ เราคิดว่าก็สมควรทำ เพราะเราจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ จะได้ไม่ต้องมาหนีตาย เพราะคนในประเทศต้องมารบราฆ่าฟันกันเอง พวกคุณที่นั่งๆ อยู่ในสภาเคยคิดไม๊ว่า เด็กๆ อย่างเราต้องได้รับผลกระทบต่อความรุนแรงที่พวกผู้ใหญ่สร้างขึ้นมากมายแค่ไหน ทุกครั้งที่มีการชุมนุมประท้วง เราต้องหนีตายทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด อย่าคัดค้านเพราะว่าตัวเองไม่ได้ประโยชน์ พวกที่นั่งในสภาควรทำอะไรเพื่อคนในประเทศบ้าง ก่อนที่อะไร อะไร จะสายเกิดว่าที่จะแก้ไขได้