จากกระแสข่าวกรมควบคุมมลพิษออกมาบอกว่ามีสารปรอทเกินกว่าค่ามาตรฐาน 29 เท่า ซึ่งมีอันตรายหลายอย่างทั้งในระยะสั้น และ ระยะยาว
http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_toxic/a_tx_1_001c.asp?info_id=79
ซึ่งสวนทางกับภาครัฐ และ ปตท.
มีคนพอสมควร และทางรัฐบาล ปตท. หรือ สื่อทีวีช่องXXXX
มาออกโหนกระแส แนวเห็นใจชาวบ้านเกาะเสม็ด และ ชาวบ้านเพ ให้ออกข่าวในแง่ +++ เพื่อให้คนไปท่องเที่ยวและใช้บริการเกาะเสม็ดเหมือนเดิม
เช่น 1. ออกข่าวเชิงเห็นใจคนบ้านเพ เรื่องการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
2. รัฐบาล มาว่ายน้ำเล่นโชร์ และ บอกว่าเห็นไหมว่ายได้สบายๆ
3. ปตท.ออกมาชี้แจ้งตลอดว่า ไม่มีปัญหา จัดการได้แน่นอน (ด้วยวาจา)
4. กรรมการตรวจสอบการทำงานปตท. ก็ออกแถลงว่าปตท. ไม่ได้ผิดอะไรซักอย่าง
ซึ่งการดำเนินการสร้างภาพว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเห็นใจชาวเกาะเสม็ด และ ผู้ประกอบการณ์ หรือแม้แต่ประมงชาวบ้านเพ) แต่
ในความเห็นของผม ชาวบ้านเกาะเสม็ด หรือบ้านเพ กำลังติดกับ ปตท. กับ รัฐบาลเข้าอย่างจัง
ปตท. กับ รัฐบาล นี้ กำลัง จะอ้างว่า การท่องเที่ยวมีปัญหา ให้ออกข่าวสวยหรูไว้ก่อนเสมอ
ซึ่งคนในเกาะบางคนหลายคนก็ เร่งเห็นด้วย กับ ทางปตท. และ รัฐบาล ให้สร้าง ความสวยหรูกันเข้าไป เพียงเพราะหวังให้นักท่องเที่ยวกับมา
แท้จริงแล้ว คนเหล่านี้ ถูกกับดักของ ปตท. กับรัฐบาล มีคำถามที่น่าสนใจกับชาวเกาะเสม็ดว่า
1. คิดว่า การสร้างภาพรัฐบาล กับปตท.ว่าการจัดการน้ำมัน และสถานการณ์สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยดีแล้วอย่างนั้นอย่างนี้ ทำให้คนมั่นใจกับเข้าเกาะเสม็ดเพื่อท่องเที่ยว เป็นจำนวนมากเหมือนเดิมได้นั้นหรือ
- แท้จริงแล้วประเทศเรา มีเกาะ มีชายหาด ที่ให้เที่ยวจำนวนมาก การมีข่าวน้ำมันรั่วไปยังเกาะเสม็ด พร้อมกับงานประชาสัมพันธ์โดยไม่มีข้อมูลวิทยาศาสตร์ให้น่าเชื่อถือ
ผมว่ากลับทำให้เกิดผลตรงข้ามคือนักท่องเที่ยวไม่เชื่อในรัฐบาล สิ่งที่ทำได้ง่ายคือเขาก็แค่ เลี่ยงไปเที่ยว เกาะอื่นๆ ใกล้ๆ ครับ
ต่อให้ออกข่าวแค่ไหน คนส่วนใหญ่ เชื่อว่าเป็นการโฆษณ สร้างภาพ อย่างไม่น่าเชื่อถือของทางปตท. และ รัฐบาลเพียงเท่านั้น
"นักท่องเที่ยวจริงๆ เมื่อยังไม่มั่นใจ เพราะคิดว่า การประกาศจากทางรัฐฯ เป็นแค่การสร้างภาพ แท้จริงอันตรายก็ยังมีอยู่ไม่มาก ก็น้อย"
เขาก็เลี่ยง ที่จะไป ที่อื่นแทน
ผลที่ได้รับคือ เสม็ด ต้องมียอดคนไปน้อยลงอยู่ดี แม้ รัฐ กับ ปตท. จะพยายามโหน ประชาสัมพันธ์เท่าไรก็ตาม
ผู้ประกอบการณ์ทางเสม็ด ก็มีเงินลดลง อย่างช่วยไม่ได้
ปตท. ได้อะไร เมื่อพยายามสร้างภาพว่า ชายหาดสะอาดแล้ว คนมาเที่ยวได้ (มาเที่ยวมาน้อยไม่เกี่ยวกับปตท.)
ปตท. ก็ ไม่ต้องจ่ายเงินค่าชดเชย หรือ จ่ายค่าชดเชย ลดลง
ในการสร้างภาพที่ดูเหมือนว่าดี เห็นอกเห็นใจชาวเสม็ด แท้จริงแล้ว มันเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า???? เราต้องถามตัวเองเหมือนกัน
ในส่วนที่ควรดำเนินการในแนวคิดของผมเอง หรือ เท่าที่ทราบหลายๆ ประเทศก็ดำเนินการแบบนี้
1. รัฐบาลสั่งปิดเกาะ ตรวจวัดคุณภาพน้ำ ดิน ทราย ตะกอน สิ่งมีชีวิต โดยปตท. ต้องเป็นคนจ่าย ซึ่งการทำแบบนี้
แสดงถึงความจริงต่อคนที่มาท่องเที่ยวและใช้บริการอย่างแท้จริง
ผลการวิเคราะห์ที่แท้จริงมีการศึกษาผล กระทบ ให้ชัดเจนจะสร้างความมั่นใจได้มากขึ้น
การปิดเกาะ อาจจะสองหรือสามเดือน ก็แล้วแต่ อย่างน้อย ผลวิเคราะห์ให้ชัดว่า ไม่มีผล กับ คนที่มาเที่ยวจริงๆ
เมื่อดำเนินการแบบนี้ ชัดเจน รัฐสั่งเปิดเกาะเสม็ดอีกครั้ง พร้อมกับแสดงผลการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ให้ชัดเจนว่าไม่มีปัญหาแล้ว
แบบนี้ ผู้ที่มาท่องเที่ยวเขาจึงสบายใจขึ้น ที่จะมานะครับ
ซึ่งต่างกับตอนนี้ ที่นักท่องเที่ยวหรือเพื่อนๆ ผมเอง ก็ขอเลี่ยงไปเที่ยงทางใต้ หรือ เลยไปจันทรบุรี หรือ ตราด หรือ เที่ยวแค่ บางแสน พัทยา ก็ได้ บ้านเราตัวเลือกมันเยอะ
ส่วนค่าใช้จ่าย ของ คนที่อยู่ในเกาะทำไง ตอนปิดเกาะ ตรงนี้ไม่ยากเลย
แท้จริงแล้ว ประเทศเรามีกฏหมาย PPP ซึ่งหมายความว่า ใครเป็นผู้สร้างมลพิษ ต้องเป็นผู้จ่าย
ปตท. นั้นแหละ ต้องเป็นคนจ่ายเงินให้คนในเกาะเสม็ด ทั้งหมด จะกี่หมื่น กี่แสนล้านก็ต้องจ่ายไป
ซึ่งอาจจะรวมถึง ชาวบ้านเพ ด้วยซ้ำ
สรุปความคือ
การประชาสัมพันธ์แบบนี้ ยังทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจเหมือนดิม ชาวบ้านเสม็ดรายได้ลดลงอีกซักระยะใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องมีการจ่ายค่าชดเชยที่เหมาะสม
การดำเนินการแบบนี้ ผมเห็นว่าประโยชน์ส่วนใหญ่ ก็ตกอยู่กับ ปตท. ผู้ถือหุ้นปตท. และ กรรมการพลังงานที่เป็นบอร์ดปตท.ทั้งสิ้น
ที่สามารถจ่ายเงินลดลง ค่าชดเชยลดลงได้
โปรดพิจารณา
โดยชาวบ้านเสม็ด บ้านเพ เอง รับกรรมที่ไม่ได้ก่อ โดยไม่รู้ตัวก็เท่านั้
ผมว่าชาวบ้านเสม็ด บ้านเพ กำลังติดกับปตท. รัฐบาล ว่าเกาะเสม็ดมาเที่ยวได้อย่างปลอดภัย !
http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_toxic/a_tx_1_001c.asp?info_id=79
ซึ่งสวนทางกับภาครัฐ และ ปตท.
มีคนพอสมควร และทางรัฐบาล ปตท. หรือ สื่อทีวีช่องXXXX
มาออกโหนกระแส แนวเห็นใจชาวบ้านเกาะเสม็ด และ ชาวบ้านเพ ให้ออกข่าวในแง่ +++ เพื่อให้คนไปท่องเที่ยวและใช้บริการเกาะเสม็ดเหมือนเดิม
เช่น 1. ออกข่าวเชิงเห็นใจคนบ้านเพ เรื่องการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
2. รัฐบาล มาว่ายน้ำเล่นโชร์ และ บอกว่าเห็นไหมว่ายได้สบายๆ
3. ปตท.ออกมาชี้แจ้งตลอดว่า ไม่มีปัญหา จัดการได้แน่นอน (ด้วยวาจา)
4. กรรมการตรวจสอบการทำงานปตท. ก็ออกแถลงว่าปตท. ไม่ได้ผิดอะไรซักอย่าง
ซึ่งการดำเนินการสร้างภาพว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความเห็นใจชาวเกาะเสม็ด และ ผู้ประกอบการณ์ หรือแม้แต่ประมงชาวบ้านเพ) แต่
ในความเห็นของผม ชาวบ้านเกาะเสม็ด หรือบ้านเพ กำลังติดกับ ปตท. กับ รัฐบาลเข้าอย่างจัง
ปตท. กับ รัฐบาล นี้ กำลัง จะอ้างว่า การท่องเที่ยวมีปัญหา ให้ออกข่าวสวยหรูไว้ก่อนเสมอ
ซึ่งคนในเกาะบางคนหลายคนก็ เร่งเห็นด้วย กับ ทางปตท. และ รัฐบาล ให้สร้าง ความสวยหรูกันเข้าไป เพียงเพราะหวังให้นักท่องเที่ยวกับมา
แท้จริงแล้ว คนเหล่านี้ ถูกกับดักของ ปตท. กับรัฐบาล มีคำถามที่น่าสนใจกับชาวเกาะเสม็ดว่า
1. คิดว่า การสร้างภาพรัฐบาล กับปตท.ว่าการจัดการน้ำมัน และสถานการณ์สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยดีแล้วอย่างนั้นอย่างนี้ ทำให้คนมั่นใจกับเข้าเกาะเสม็ดเพื่อท่องเที่ยว เป็นจำนวนมากเหมือนเดิมได้นั้นหรือ
- แท้จริงแล้วประเทศเรา มีเกาะ มีชายหาด ที่ให้เที่ยวจำนวนมาก การมีข่าวน้ำมันรั่วไปยังเกาะเสม็ด พร้อมกับงานประชาสัมพันธ์โดยไม่มีข้อมูลวิทยาศาสตร์ให้น่าเชื่อถือ
ผมว่ากลับทำให้เกิดผลตรงข้ามคือนักท่องเที่ยวไม่เชื่อในรัฐบาล สิ่งที่ทำได้ง่ายคือเขาก็แค่ เลี่ยงไปเที่ยว เกาะอื่นๆ ใกล้ๆ ครับ
ต่อให้ออกข่าวแค่ไหน คนส่วนใหญ่ เชื่อว่าเป็นการโฆษณ สร้างภาพ อย่างไม่น่าเชื่อถือของทางปตท. และ รัฐบาลเพียงเท่านั้น
"นักท่องเที่ยวจริงๆ เมื่อยังไม่มั่นใจ เพราะคิดว่า การประกาศจากทางรัฐฯ เป็นแค่การสร้างภาพ แท้จริงอันตรายก็ยังมีอยู่ไม่มาก ก็น้อย"
เขาก็เลี่ยง ที่จะไป ที่อื่นแทน
ผลที่ได้รับคือ เสม็ด ต้องมียอดคนไปน้อยลงอยู่ดี แม้ รัฐ กับ ปตท. จะพยายามโหน ประชาสัมพันธ์เท่าไรก็ตาม
ผู้ประกอบการณ์ทางเสม็ด ก็มีเงินลดลง อย่างช่วยไม่ได้
ปตท. ได้อะไร เมื่อพยายามสร้างภาพว่า ชายหาดสะอาดแล้ว คนมาเที่ยวได้ (มาเที่ยวมาน้อยไม่เกี่ยวกับปตท.)
ปตท. ก็ ไม่ต้องจ่ายเงินค่าชดเชย หรือ จ่ายค่าชดเชย ลดลง
ในการสร้างภาพที่ดูเหมือนว่าดี เห็นอกเห็นใจชาวเสม็ด แท้จริงแล้ว มันเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า???? เราต้องถามตัวเองเหมือนกัน
ในส่วนที่ควรดำเนินการในแนวคิดของผมเอง หรือ เท่าที่ทราบหลายๆ ประเทศก็ดำเนินการแบบนี้
1. รัฐบาลสั่งปิดเกาะ ตรวจวัดคุณภาพน้ำ ดิน ทราย ตะกอน สิ่งมีชีวิต โดยปตท. ต้องเป็นคนจ่าย ซึ่งการทำแบบนี้
แสดงถึงความจริงต่อคนที่มาท่องเที่ยวและใช้บริการอย่างแท้จริง
ผลการวิเคราะห์ที่แท้จริงมีการศึกษาผล กระทบ ให้ชัดเจนจะสร้างความมั่นใจได้มากขึ้น
การปิดเกาะ อาจจะสองหรือสามเดือน ก็แล้วแต่ อย่างน้อย ผลวิเคราะห์ให้ชัดว่า ไม่มีผล กับ คนที่มาเที่ยวจริงๆ
เมื่อดำเนินการแบบนี้ ชัดเจน รัฐสั่งเปิดเกาะเสม็ดอีกครั้ง พร้อมกับแสดงผลการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ให้ชัดเจนว่าไม่มีปัญหาแล้ว
แบบนี้ ผู้ที่มาท่องเที่ยวเขาจึงสบายใจขึ้น ที่จะมานะครับ
ซึ่งต่างกับตอนนี้ ที่นักท่องเที่ยวหรือเพื่อนๆ ผมเอง ก็ขอเลี่ยงไปเที่ยงทางใต้ หรือ เลยไปจันทรบุรี หรือ ตราด หรือ เที่ยวแค่ บางแสน พัทยา ก็ได้ บ้านเราตัวเลือกมันเยอะ
ส่วนค่าใช้จ่าย ของ คนที่อยู่ในเกาะทำไง ตอนปิดเกาะ ตรงนี้ไม่ยากเลย
แท้จริงแล้ว ประเทศเรามีกฏหมาย PPP ซึ่งหมายความว่า ใครเป็นผู้สร้างมลพิษ ต้องเป็นผู้จ่าย
ปตท. นั้นแหละ ต้องเป็นคนจ่ายเงินให้คนในเกาะเสม็ด ทั้งหมด จะกี่หมื่น กี่แสนล้านก็ต้องจ่ายไป
ซึ่งอาจจะรวมถึง ชาวบ้านเพ ด้วยซ้ำ
สรุปความคือ
การประชาสัมพันธ์แบบนี้ ยังทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจเหมือนดิม ชาวบ้านเสม็ดรายได้ลดลงอีกซักระยะใหญ่ โดยไม่จำเป็นต้องมีการจ่ายค่าชดเชยที่เหมาะสม
การดำเนินการแบบนี้ ผมเห็นว่าประโยชน์ส่วนใหญ่ ก็ตกอยู่กับ ปตท. ผู้ถือหุ้นปตท. และ กรรมการพลังงานที่เป็นบอร์ดปตท.ทั้งสิ้น
ที่สามารถจ่ายเงินลดลง ค่าชดเชยลดลงได้
โปรดพิจารณา
โดยชาวบ้านเสม็ด บ้านเพ เอง รับกรรมที่ไม่ได้ก่อ โดยไม่รู้ตัวก็เท่านั้