จริงเหรอ? ไอ้ติ่งVV กกท.ย้ำอย่าฝืนแหกกฎฟีฟ่าพัง

กกท.ชี้ที่ประชุมใหญ่สมาคมฟุตบอลฯ มีมติรับร่างธรรมนูญใหม่ไปแล้ว แค่เว้นข้อบังคับข้อที่ 21เท่านั้น ยืนยันแนวทางของ กกท.จะยึดตามกรอบที่วางเอาไว้คือ กระบวนการสู่การเลือกตั้ง สมพรไชยสงคราม ผู้อำนวยการกองนิติการ ติงอย่าได้ทำลายวงการให้แย่ลงไปอีก ถ้าฟีฟ่าสั่งแบนขึ้นมาจะเสียหายกับประเทศชาติได้ แนะการใช้กฎหมายควรใช้อย่างสุจริตและอย่าใช้ให้มันเกินส่วนจนเป็นผลเสียมากกว่าผลด




         ยังคงไม่จบง่ายๆ สำหรับกระบวนการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แม้ว่าจะมีการรับรองร่างธรรมนูญฉบับใหม่ไปแล้วในวันประชุมใหญ่พิเศษ แต่ในส่วนของฝ่ายคัดค้านที่ขอสงวนสิทธิ์ในข้อ 21 เอาไว้ ก็มีการประกาศที่จะไม่เห็นด้วย และจะเดินหน้าจัดการเลือกตั้งกันเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในวันที่ 24 ส.ค.นี้

         ทั้งนี้ทางสมาคมฟุตบอลฯ ได้มีการส่งหนังสือเชิญสโมสรสมาชิกเข้าประชุมอีกครั้งในวันที่ 23ส.ค. ตามเงื่อนไขเวลาที่จะขอหารือร่วมกัน 2 สัปดาห์เพื่อแก้ไขเรื่องที่มาของจำนวนเสียง 30 เสียงจากลีกภูมิภาค และจะทำการรับรองในข้อบังคับข้อที่ 21 ต่อไป

         โดยที่ผ่านมาสโมสรสมาชิกที่ไม่เห็นด้วยกับร่างธรรมนูญใหม่มีการมองว่ายังไม่ได้รับรองร่างข้อบังคับทั้งฉบับ เพราะมีการสงวนสิทธิ์ไว้อีกข้อ ขณะที่ "บังยี"วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้กล่าวชัดเจนในรายการ ตอบโจทย์ ทางไทยพีบีเอสว่าในที่ประชุมมีการโหวตรับร่างไปแล้ว เพียงแต่เว้นข้อ 21 เอาไว้ ซึ่งทางการกีฬาแห่งประเทศไทย และผู้แทนฟีฟ่าที่อยู่ในที่ประชุมก็ได้รับทราบไปหมดแล้ว

         ด้วยความเห็นที่ต่างกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายสมพร ไชยสงคราม ผู้อำนวยการกองนิติการการกีฬาแห่งประเทศไทย ถึงประเด็นนี้ ซึ่งก็ได้เปิดเผยว่าที่ประชุมใหญ่มีการโหวตรับร่างไปเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะเหลือในส่วนของข้อบังคับข้อที่ 21 ก็เป็นเพียงการแก้ไขตามที่ได้ตกลงกับทางฟีฟ่าเท่านั้น

         "มาถึงวันนี้ กกท.โดยท่านผู้ว่าฯ ได้ยืนยันชัดเจนว่าจะเดินตามกรอบที่วางเอาไว้แต่แรกเท่านั้น ซึ่งแต่เดิมถ้าลงมติไม่ผ่านก็ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 15 วัน แต่เมื่อมีการลงมติรับร่างก็ให้กระบวนการต่างๆเป็นไปตามกรอบที่กำหนดไว้ โดยต้องดูว่าสมาคมฟุตบอลฯ มีการไปจดทะเบียนหรือยัง และกรมการปกครองรับจดทะเบียนหรือไม่ ถ้าดำเนินการเรียบร้อยก็เข้าสู่การเลือกตั้งต่อไป ขอยืนยันว่า กกท.จะยึดแนวทางตามกรอบเท่านั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น"

         ผู้อำนวยการกองนิติการ กกท. ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า มาถึงวันนี้แล้วกระบวนการเลือกตั้งควรจะเดินหน้าไป อย่าทำให้มันเสียหายอีกเลย ถ้าฟีฟ่าลงโทษแบนขึ้นมามันจะเป็นผลเสียกับวงการกีฬาของชาติได้ จะทำอะไรก็ขอให้คิดหน้าคิดหลังให้ดี การใช้กฎหมายมันต้องใช้อย่างสุจริต และอย่าให้เกินส่วนจนมากไป สิทธิหน้าที่มีแค่ไหนก็กระทำแค่นั้น อย่าให้มันเกินเลยมากไปมันจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/130816_001.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่