ช่วงต้นปี-กลางปีที่ผ่านมา มีปัญหาเกี่ยวกับเหล็กเยอะมากครับ ประคองให้ขาดทุนให้น้อยที่สุดได้นี่ถือว่าดีมากแล้ว

มาดูปัญหาใหญ่ๆที่เกิดขึ้นกันครับ

การผูกขาดอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือในประเทศจีน
อู่ต่อเรือในจีนมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องก็จริง แต่ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับอู่ต่อเรือในจีน 3 ใน 4 คือบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการซื้อวัตถุดิบและการจัดหาเงินทุนให้สำหรับลูกค้า ซึ่งบริษัทจากต่างประเทศมักจะไม่ได้รับการสนับสนุน

ราคาเหล็กโลกตกต่ำ
ช่วงต้นปีจนถึงกลางปีอุตสาหกรรมเหล็กมีการแข่งขันกันสูงมากทำให้ราคาเหล็กร่วงลงจนถึงขั้นวิกฤต มีบริษัทย่อยหลายบริษัทที่ต้องยอมขายขาดทุนและทยอยปิดตัวไป

การนำเข้าเหล็กจากจีน
ถึงแม้ประเทศไทยจะมีมาตรการ Safeguard เหล็ก ขึ้นภาษีเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ก็ยังมีการนำเข้ามาอยู่ดี การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นนี้ได้ทำความเสียหายให้กับผู้ผลิตภายในประเทศ ทั้งในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดของสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงของระดับการขายและระดับผลผลิตเหล็ก รวมไปถึงการจ้างงานในอุตสาหกรรมนี้ อีกทั้งมาตรการ Safeguard เหล็ก จะหมดอายุการคุ้มครองในไตรมาสที่ 4 ปี 2556 นี้

วิกฤตหนี้ยุโรป
ราคาเหล็กในยุโรปยังคงตกต่ำบวกกับปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินที่ยังเรื้อรัง ทำให้อุตสาหกรรมเหล็กยังคงชลอตัว
ซึ่งการปรับขึ้นของราคาเหล็กในช่วงเดือนที่ผ่านมา น่าจะไม่ยั่งยืน ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ยังคงตกต่ำ

แล้ว GJS จะมีกำไรตอนไหน?
ไม่ใช่ปีนี้แน่ครับ ปีนี้แค่ประคองให้ผ่านพ้นไปได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว จากงบขาดทุนที่ผมตั้งเป้าไว้ว่า
น่าจะขาดทุนมากกว่านั้นด้วยซ้ำ ถือว่าเริ่มทำได้ดีครับ ในช่วงที่บริษัทอื่นขาดทุนย่อยยับขนาดนี้นะครับ
Quality Steel by Quality People จริงๆ ขอบ่อก

สุขอยู่ที่ใด