[ขอระบาย] เหตุการณ์แย่ๆกับหมอคนหนึ่งในโรงพยาบาลย่านบางแสน

สวัสดีค่ะ เราเพิ่งอายุ 20(ยืมล็อคอินเพื่อนมานะคะ) มีปัญหาเรื่องประจำเดือนมาไม่ค่อยสม่ำเสมอ (คือราวๆ 2 เดือนมาที) และก็ปวดท้องมากๆ จึงตัดสินใจไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นของมหาวิทยาลัย (ขออนุญาตไปเอ่ยชื่อนะคะ บอกใบ้ว่าอยู่บางแสน) แต่ปรากฏว่า แพทย์ที่ตรวจเรามารยาท “ทราม” มาก จึงขอมาระบายหน่อยนะคะ T-T
เรื่องเกิดขึ้นในห้องตรวจ มีผู้เกี่ยวข้องอยู่ 4 คน คือ เรา หมอ (ผู้ชาย) นศ.แพทย์ และพยาบาล ค่ะ
(โดย นศ. แพทย์คนนี้เราเคยเจอหน้ามาก่อนแล้ว เพราะตอนนั้นไปโรงพยาบาลแบบฉุกเฉินตอนกลางคืนแล้วพี่หมอคนนี้รักษาเราเองค่ะ)

เราไปตั้งแต่เช้า อากาศดี อารมณ์ดีด้วยนะคะ ไปถึงก่อนเวลาที่นัดเสียอีก คิวรักษาของเราเป็นคิวต้นๆ ไม่คิดว่าจะมีใครมาหงุดหงิดใส่เราเหมือนกัน สักพักพยาบาลก็เรียกเข้าไปในห้อง (เสริมนิดนึงนะคะ เราไม่ได้เป็นคุณหนูไฮโซ แบบใครว่าอะไรไม่ได้ ตรงกันข้ามตัวเองปากจัดด้วยซ้ำ)

เราเดินเข้าไปถึงห้องตรวจก็ยกมือไหว้คุณหมอ แต่หมอก็มองหน้าเฉยๆ และไม่ได้รับไหว้ ถามเราว่า
“เป็นอะไรมา?”
“อ๋อ พอดีประจำเดือนมาไม่ปกติค่ะ สองเดือนมาที”
“เริ่มเป็นตั้งแต่ประมาณตอนไหน” (น้ำเสียงน่ากลัวมาก เหวี่ยงมาก)
“ก็ซักพักแล้วค่ะ นานแล้ว”
“เธอตอบไม่ตรงคำถาม” (ตรงนี้ถ้าไม่ใช่ตะคอกก็ใกล้เคียงค่ะ เราตกใจเลย แต่ก็เก็บอาการไว้)
“ชั้นถามว่าประมาณตอนไหน ตอนไหน ตอนไหน”
แล้วเขาก็ถามย้ำๆ ยืดตัวขึ้นนั่งเหมือนไม่พอใจเรา เสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นเรากลัวมากเลยค่ะ (T-T) หมอแกก็เร่งเร้าเราต่อไป ทั้งด้วยน้ำเสียงและมองหน้า (ไม่รู้ไปกินรังแตนมาจากไหน) เราก็พูดอ้ำๆอึ้งๆ ปัดมือวาดมือไปมาแบบลนๆ ก็โดนตวาดอีกว่า “เธอเลิกทำมืออย่างนี้ได้ไหม เห็นแล้วมันรำคาญ เวลาเธอสำภาษณ์งาน เห็นคนทำแบบนี้ชอบไหม”  เราฟังเข้าก็แทบร้องไห้ตรงนั้นเลยเหมือนกันค่ะ จากอารมณ์ดีๆมาตอนแรก ตอนนี้เครียดเลย จนสักพักหมอก็ถามเราต่อ
“ประจำเดือนเริ่มมาตั้งแต่ตอนไหน?”
“ประมาณ ป.6 ย่างเข้า ม.1 ค่ะ”

“อายุเท่าไร?” (น้ำเสียงเหวี่ยงมาก)
“15 ค่ะ” (แต่จริงๆ 12 – 13 ค่ะ แต่ด้วยอารมณ์ลนมากจนตอบผิดตอบถูก)
“ห๊ะ!? ม.1 อายุ 15 บ้านแกเหรอ?”
ถึงตรงนี้เราอึ้งแล้วค่ะ เงิบเลย อ่อ เขาน่าจะไม่แมนน่ะคะ เสียงสูงปรี๊ดๆเลย (แต่เราก็อาจจะผิดก็ได้)
เรานั่งคิดในใจ ว่าเราพูดไรออกไปวะเนี่ย เราพูดอะไรผิดหรือเปล่า? แต่เราก็คิดว่าทำไมเขาถึงพูดจาแบบนี้กับเราด้วย ไม่เข้าใจเลย เราก็เป็นคนนะ โธ่!

จากนั้น นศ.แพทย์ ก็เดินเข้ามาค่ะ หยิบเก้าอี้มานั่ง เราก็เหวอนิดๆ เพราะจำหน้าได้ว่าเคยรักษาเรา ในใจตอนนั้นวุ่นวายไปหมดค่ะ คิดเองเออเองไปมากมาย เป็นต้นว่า นศ.แพทย์คนนี้จะเคยไม่พอใจอะไรเราหรือเปล่า เลยเอาไปบอกหมอ อะไรทำนองนั้น เขาเข้ามาก็นั่งมองนั่งฟัง หมอพูด ฟังอย่างตั้งใจมาก มองหน้าเราที มองหน้าหมอที สลับไปมา

“ถามเราอายุเท่าไร เรียนปีอะไร ทำไมถึงมาหาหมอ” หมอถามเราต่อไป
เราแอบหงุดเล็กๆเหมือนกันว่าทำไมเพิ่งมาถาม  ในใจนี่อึดอัดมาก รู้สึกเหมือนเป็นนักโทษ กำลังโดนสอบสวน แต่ไม่รู้เราคิดไปเองหรือเปล่านะคะ พอนศ.แพทย์คนนั้นมานั่งปุ๊บ หมอก็เปลี่ยนวิธีการพูดไปเลย แบบว่าเต็มไปด้วย medical jargons (พูดกับเรานะนั่น) จนเรามึน ฟังหมอไม่รู้เรื่องเลยค่ะ บอกตรงๆ น้ำตาปริ่มแล้ว อยากกลับบ้านมาก

“เรียนจบแล้วทำงานแล้ว ค่อยมารักษาก็ได้นะ ยังทัน” จู่ๆหมอก็พูดขึ้นมาอย่างนี้น่ะค่ะ เรารู้สึกว่าน้ำเสียงเขาเหมือนเหยียดๆเรานิดๆด้วย ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าเพราะอะไร “จริงๆไม่ได้เป็นอะไรหรอกไม่ได้ผิดปกติอะไร ผิดปกติตรงไหน ก็แค่พอถึงวัยที่มีครอบครัวอาจมีลูกยากแค่นั้นเอง อย่างเธออะนะยังมีวุฒิภาวะดูและตัวเองไม่ได้หรอก”
เราโดนเข้าแบบนี้ก็มึนตึบค่ะ เหมือนนักมวยโดนชกน็อคอย่างไรอย่างนั้น อะไรกัน? มีลูกยาก? แปลว่าอะไร?  ทำไม?
นศ.แพทย์ก็หันมองหน้าเรานิ่งๆ แต่เราตอนนั้นอยากจะกรี๊ด แล้วเดินออกเลยค่ะ
แล้วสิ่งที่ทำให้เราอึ้งยิ่งกว่าก็คือ หมอหันไปบอกพยาบาลค่ะ ว่า

“ไม่ต้องตรวจหรอก  ตรวจไปก็ไม่ได้เป็นไร”
พยาบาลก็จดๆๆ แล้วหมอแกก็พูดเรื่องการกินยารักษา บอกว่าถ้าจะรักษากันจริงๆก็ต้องกินยากันเป็นปีๆ เราก็ฟัง (ด้วยความตกใจ)  ไม่พูดอะไร สักพัก หมอก็ถามเราว่า “จะรักษาไหม? ตัดสินใจให้ดีนะ มันใช้เวลานานตรงกินยา” เราก็เงียบ (รวบรวมสติในการคิด) แต่หมอก็โพล่งขึ้นมาเสียเราสะดุ้ง “ไวๆสิ คนอื่นรอคิวรักษาอยู่เยอะนะ!”
เขาคงกลัวเสียเวลา แต่ก็แหม ไม่เสียเวลาได้ไง หมอพ่น jargons ออกมาตั้งนาน ไม่สนใจเลยว่าคนไข้อย่างเราจะฟังรู้เรื่องไหม แล้วยังจะมาขึ้นเสียงเอาขึ้นเสียงเอา คาดคั้นจนเราต้องตอบไปว่า

“รักษาค่ะ”
พอเราตอบปุ๊บ แกก็โพล่งขึ้นมาอีก เหมือนไปกินอะไรผิดสำแดงมา  แกบอกเราว่า “ไม่ต้องรักษาหรอก” แล้วก็ตามด้วยเหตุผลเดิมๆ ว่ามันใช้เวลานาน เธอไม่มีวุฒิภาวะ ฯลฯ
เราหันหน้าไปมองพยาบาล เราอยากบอกว่า พี่พยาบาลทำหน้าเห็นใจเรามาก ยิ้มเจื่อนๆ ตอนนั้นพี่พยาบาลเหมือนแม่พระในยามยากของเราเลยค่ะ ต้องขอบคุณมาก ไม่ได้ยิ้มพี่ หนูคงทนไม่ไหวจริงๆแล้วตอนนั้น
สุดท้าย เราก็ถอนหายใจ ตอบปฏิเสธหมอไปว่าเราไม่รักษาก็ได้ (จริงๆ หมอพูดด้วยหางเสียงแหลมๆด้วยว่า “รักษาก็ด๊ายยยนะ” แต่เราว่าถึงจะตอบไปก็คงโดนแย้งอีก)
เราเดินออกมาร้องไห้เลย หน้าชา เหมือนโดนตบหน้า ไม่รู้คนอื่นเป็นแบบนี้ไหม โทรไปหาเพื่อน ด้วยความตกใจ เพื่อนก็ปลอบ (และด่าหมอไปหลายคำ) จากอารมณ์ดีๆ ก็แย่ไปทั้งวัน ช่วงสอบด้วย อึ้งมากค่ะ  ต่อหน้า นศ.แพทย์ อีก น่าจะถือความเป็นอาจารย์พูดแบบดีๆกับคนไข้บ้าง ไม่คิดบ้างเหรอคนฟังจะรู้สึกไง เรากลัวจนเหวอเลยค่ะ ไม่ได้เตรียมใจไว้ว่าจะเจออะไรแบบนี้ แล้วก็คิดว่าไม่น่าจะมีหมอที่ไหนพูดจาอย่างนี้ ไม่เคยเจอแบบนี้จริงๆค่ะ
เท่านี้แหละค่ะ เราขอระบายหน่อยนะ ขอบคุณมากค่ะ T-T

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่