รุมค้าน‘ปู’ดึงต่างชาติ
แทรกแซงไทย
จวกปาหี่ทางการเมือง
สวนลุม-ปชป.ผนึกกำลัง
กลุ่ม40สว.ร่วมชำแหละ
2เทพพท.เดินหน้าเจรจา
สุวัจน์ตอบรับสภาปฏิรูป
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ถึงกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีแนวคิดจะเชิญนายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษและ นายโคฟี อันนัน เจ้าของรางวัล สาขาสันติภาพ อดีตเลขาธิการสหประชาชาติมาชี้แนะแนวทางปฏิรูปประเทศไทยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงกำลังคิดว่า กำลังเอาโลกมาล้อมคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ทั้งที่ความจริงเรื่องนี้เป็นข้อเสนอที่อยู่ในรายงานของสถาบันพระปกเกล้านานแล้ว โดยเสนอให้นำอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา มานั่งคุยกันเรื่องการปรองดอง แต่ข้อเสนอนี้ตกไปแล้วในชั้นพิจารณาว่าไม่สามารถบรรลุผลได้แต่ประชาชนลืมไป
“น.ส.ยิ่งลักษณ์อาศัยจังหวะที่ประชาชนลืม ไปหยิบข้อเสนอที่คนลืมมาเริ่มต้นทำใหม่ พอคนเห็นชื่อนายโทนี แบลร์กับนายโคฟี อันนัน ก็ตื่นเต้นว่าเขาเอาจริง ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้ผล เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นทั้งคู่กรณีหรือคู่ขัดแย้งกับเราเลย เวลาคุยเรื่องปรองดองต้องนำคู่ขัดแย้งมาคุยกัน รัฐบาลไปตั้งโจทก์ผิดแล้ว ไปเอาคนที่ไม่เกี่ยวข้องหรือคู่กรณีมา และเป็นอดีตผู้นำแม้จะมีชื่อเสียง แต่อยากถามว่าเชิญบุคคลที่กล่าวมาข้างต้นมา เขาจะพูดอะไรเราก็รู้ ทำไมต้องนำสมองของฝรั่งมาบอกว่าคนไทยต้องทำแบบนั้นต้องทำแบบนี้ คนไทยต้องคุยกันเองต้องพูดกันเอง แล้วทำไมองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งเป็นองค์กรใหญ่ระดับโลก แสดงความเห็นมาในนามองค์กร ระบุว่าการนิรโทษของไทยครั้งนี้จะมีปัญหา แล้วทำไมรัฐบาลไม่ฟังเพราะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ถ้าเราไปฟังอดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ โดยที่ไม่ฟังสหประชาชาติ” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
“องอาจ”ซัดรัฐบาลสร้างภาพ
ในเรื่องดังกล่าวทางนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นเรื่องรัฐบาลพยายามจะสร้างความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง เมื่อปีที่แล้วนายโคฟี อันนัน แม้แต่ นายมาร์ติ อาห์ติชาร์ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ ต่างเคยเดินทางมายังไทยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้จึง อยากให้รัฐบาลไปเปิดดูว่าเขาพูดอย่างไร เพราะเชื่อว่าบุคคลทั้ง2มีจุดยืนเหมือนเดิม อีกทั้งเห็นว่ารัฐบาลพยายามนำเอาต่างชาติมาร่วมปาหี่ทางการเมืองในประเทศมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ จะให้โอกาสรัฐบาล 2-3 วันให้ไปเปิดดูว่าเขาพูดอะไรบ้าง ถ้าไม่เปิดก็จะนำคำพูดของโคฟี อันนันและประธานาธิบดีฟินแลนด์มาให้ดู
ส่วนการมองว่าประชาธิปัตย์อยู่ในวงล้อมและถูกบีบให้โดดเดี่ยวนั้น เราอยู่บนพื้นฐานความจริงและความถูกต้อง ซึ่งอาจไม่ถูกใจในบางขณะแต่เชื่อว่าความชอบธรรมเป็นสิ่งที่ดำรงอยู่และคนส่วนมากจะเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ เพียงแค่ว่าในระยะเวลาหนึ่งอาจจะมองไม่ชัดเจน
ส่วนกรณี นายพิชัย รัตนกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาสนับสนุนเข้าร่วมเวทีสภาปฏิรูปการเมือง จะเป็นการดิสเครดิตพรรคหรือไม่ นายองอาจตอบว่าไม่เป็นการดิสเครดิต แต่เป็นสิทธิส่วนตัวของเขา
กลุ่ม40สว.ลั่นไม่ร่วมเวทีปฎิรูป
ขณะที่ในส่วนของกลุ่ม 40 สว. นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. เห็นว่าการรัฐบาลจะดึงนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ มาร่วมหาแนวทางแก้ปัญหาขัดแย้ง ก็เป็นแค่การสร้างภาพของรัฐบาลว่าได้รับการยอมรับของบุคคลระดับโลก ไม่ได้ตอบโจทย์ปัญหาประเทศโดยแท้จริง ส่วนที่ประธานวุฒิสภา จะนำเข้าหารือในวิปวุฒิสภาสัปดาห์หน้าก็เป็นความพยายามของประธานวุฒิสภ แต่กลุ่ม 40 ส.ว.ได้หารือกัน ขอปฏิเสธเด็ดขาดที่จะเข้าร่วมในเวทีนี้ อย่านำไปอ้าง เพราะไม่ใช่มติของวุฒิสภา จนกว่ารัฐบาลจะยอมถอนร่างนิรโทษกรรมทุกฉบับ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ ออกไปก่อนเราจึงจะพิจารณาอีกทีว่าจะเข้าร่วมหรือไม่
“แก้วสรร”ย้ำไม่นิรโทษมือเผา
ขณะที่นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)กล่าวถึงมีชื่อเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าเนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โทรศัพท์มาทาบทาม ขอให้ไปช่วยเหลือ เพราะคงเห็นว่าตนเข้าใจข้อแตกต่างกฎหมายและสามารถอธิบายให้สภาฟังได้ ส่วนตัวเห็นด้วย กับหลักคิดของพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มผู้เสียหายโดยจะแปรญัตติในชั้นคณะกรรมาธิการ ส่วนของแกนนำและการวางเพลิง เพราะไม่ใช่ความผิดทางความผิด แต่เป็นคดีทางอาชญากรรม จึงไม่ควรนิรโทษกรรมทั้งสิ้น พร้อมไม่กังวล หากรัฐบาลมีการสอดไส้เนื้อหาอื่นเข้ามาในชั้นกรรมาธิการ เพราะต้องเจอกันในสภาอยู่แล้ว และเชื่อว่าในสถานการณ์ขณะนี้ ขั้นตอนกรรมาธิการคงมีโอกาสใช้เหตุใช้ผลได้น้อยเพราะพวกเสียงข้างมากคงลากไป ไฮไลท์น่าจะอยู่ที่การลงคะแนนในวาระที่ 3 มากกว่า
กปท.โวยปูจูยปากต่างชาติ
ในวันเดียวกัน ที่สวนลุมพินี นายไทกร พลสุวรรณ เสนาธิการร่วม กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ(กปท.)แถลงข่าวประจำวันว่าคณะเสนาธิการร่วมกปท.วิตกกังวลว่ารัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังจะดึงต่างประเทศให้มาแทรกแซงกิจการภายในของไทย เช่น การเชิญอดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และอดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติเข้ามาเป็นผู้ชี้นำแนวทางในการสร้างความปรองดองให้กับประเทศ ซึ่ง กปท.เห็นว่าบุคคลทั้งสองยังไม่มีข้อมูลและรายละเอียดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศไทยดีเพียงพอ การเสนอแนวความคิดของบุคคลทั้งสองนั้น เพื่อจะให้คนไทยทั้งประเทศเห็นด้วย จึงเป็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ในการดึงต่างประเทศเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทย
และคณะเสนาธิการร่วมมีความกังวัลและวิตก ต่อการกำหนดยื่นแปรญัตติร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ภาย7วันอาจจะมีการสอดไส้ในการเสนอเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายเพื่อที่จะนิรโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯพร้อมพวก เราจึงขอเสนอว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ควรเปิดให้ตัวแทนของภาคประชาชนทุกภาคส่วนเข้าไปร่วมนั่งฟังการแปรญัตติในวาระที่สองของกฎหมายฉบับนี้เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่มี ส.ส.เสนอกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ล้างผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมพวก ที่ก่ออาชญากรรมทางการเมือง เมื่อปี 53
พท.โวต่างชาติยอมรับ
ขณะที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวชื่นชมแนวคิด นายกรัฐมนตรีจะเชิญ 2 อดีตผู้นำต่างชาติ เข้าร่วมเวทีปฎิรูปประเทศไทยขณะนี้ได้ตอบรับอย่างไม่เป็นทางการมาแล้วว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ทุกคนให้ความร่วมมือทั้งต่างประเทศและในประเทศรวมถึง นายพิชัย รัตตกุล อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้ความร่วมมือ น่าแปลกใจ จุดยืนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.ที่ยืนกรานไม่เข้าร่วมสภาปฎิรูปการเมือง พร้อมสร้างเงื่อนไขด้วยการให้ถอนกฎหมายที่เกี่ยวกับนิรโทษกรรมทั้งหมดออกจาก สภา ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน
จารุพงศ์หนุนยิ่งลักษณ์สุดตัว
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะเชิญนายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร และนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เข้าร่วมเวทีปฏิรูปประเทศไทย ว่า เป็นมิติใหม่ในยุคโลกไร้พรมแดนที่ทุกประเทศมีความเชื่อมโยงกันและทุกประเทศจะได้รับผลกระทบหากเกิดความไม่สงบสันติในทุกภูมิภาคของโลก ซึ่งความไม่สงบในประเทศไทย ก็มีความห่วงใยจากนานาชาติที่จับตามอง เพราะไทยไม่สามารถเกิดความปรองดองมาแล้ว 6-7ปี ดังนั้น การที่ไทยจะปฏิรูปประเทศ ต้องมองทั่วโลกด้วย เพราะเวทีปฏิรูปประเทศไทย จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นด้านการค้าการลงทุนในสายตาต่างประเทศได้ การเชิญผู้นำประเทศและบุคคลที่มีศักยภาพเข้าร่วมเวทีดังกล่าว ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯและหวังว่าคนที่จะมาเป็นนายกฯไทยในอนาคตจะมีใจกว้างเช่นนี้ เพื่อให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า
มั่นใจปฎิรูปจะเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ นายจารุพงศ์ มั่นใจว่าเวทีปฏิรูปประเทศไทย จะเป็นรูปธรรม เพราะที่ผ่านมาจากการที่รัฐบาลได้เปิดเวที 108 เวที แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำงานในด้านที่จะนำไปสู่ความปรองดองถึง3ชุด มีความเห็นตรงกันว่าประเทศจะสงบได้ต้องพูดคุยและอยากเห็นประเทศไปสู่ความปรองดองจึงอยากให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมเวทีปฏิรูปประเทศไทย โดยเฉพาะฝ่ายค้านพร้อมฝากสื่อมวลชนให้อธิบายต่อฝ่ายค้านให้เข้าใจกระบวนการและเข้าร่วมเวทีปฏิรูปประเทศด้วย
“สุวัจน์”ร่วมสภาปฎิรูปการเมือง
ส่วนความคืบหน้าในการเดินสายของรัฐบาลเชิญแกนนำการเมืองเข้าร่วมสภาปฎิรูปประเทศไทย เวลา15.00น.ที่บ้านราชวิถี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและนายวราเทพ รัตนากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกฯในฐานะแกนนำพรรคชาติพัฒนา(ชทพ.)เพื่อเชิญเข้าร่วมสภาปฏิรูปการเมืองแก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ใช้เวลาหารือ30นาที โดยนายสุวัจน์ ได้ขอบคุณและตอบรับยินดีที่จะเข้าร่วม แนวทางที่รัฐบาลเชิญผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์เข้าให้ข้อคิด เพื่อนำไปสู่ทางออก เป็นสิ่งที่ดี เชื่อว่าทุกฝ่ายอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปได้ เป็นแนวทางที่ดีมาก หากทุกฝ่ายจะให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์ให้บ้านเมืองมีทางออก ข้อสรุปที่จะได้จะนำไปสู่การแก้ไขความขัดแย้ง เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเมืองในประเทศได้แ ละเชื่อแนวทางการปฏิรูปจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นของประเทศไทยได้มาก
“เวทีนี้ไม่ใช่ นำคู่ขัดแย้งมาเจรจาแต่เป็นการนำผู้รู้แก้ปัญหามาวางระบบการเมืองและการแก้ไขปัญหา การที่รัฐบาลเป็นผู้ริเริ่มเป็นหลักประกันให้บรรลุสู่เป้าหมาย”อดีตรองนายกฯย้ำ
คาดถกสภาปฎิรูปนัดแรก16ส.ค.นี้
ด้าน นายวราเทพ กล่าวว่าคาดว่าจะเปิดเวทีสภาปฎิรูปครั้งแรกได้ หลังวันที่14-15 ส.ค.เสร็จสิ้นพิจารณา พรบ.งบประมาณปี 2557 แล้ว ก็เป็นไปได้ว่าวันที่16ส.ค.จะเริ่มหารือสภาปฎิรูปได้ ทั้งขาดเพียงประชาธิปัตย์(ปชป.)ที่ยังไม่ยืนยัน และภาคประชาชน ขาดเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)และวันที่13ส.ค.เวลา07.30น.ตนและนายพงศ์เทพจะเดินทางไปเชิญ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯเข้าร่วม ที่คอนโดริมน้ำริเวอร์ไลน์ ย่านนนทบุรี
ลังเลเชิญนักโทษ”ทักษิณ”
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า การประสานไปยังทุกกลุ่มรวมถึง พธม. แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ หากตอบรับมาก็พร้อมที่จะไปเชิญด้วยตนเอง ส่วนภาคเอกชนก็มี 3 สมาคม อาทิ สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทยจะเชิญเข้าร่วมพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ทั้งนายพงศ์เทพ และ นายวราเทพ ต่างหลีกเลี่ยงคำถามที่จะตอบประเด็นการจะเชิญพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเข้าร่วม โดยแต่ละคนต่างติดขัดในเรื่องส่วนตัวแต่หากเจ้าตัวไม่สามารถมาร่วมก็สามารถส่งความคิดมาในช
http://www.naewna.com/politic/63800
รุมค้าน‘ปู’ดึงต่างชาติ แทรกแซงไทย จวกปาหี่ทางการเมือง
แทรกแซงไทย
จวกปาหี่ทางการเมือง
สวนลุม-ปชป.ผนึกกำลัง
กลุ่ม40สว.ร่วมชำแหละ
2เทพพท.เดินหน้าเจรจา
สุวัจน์ตอบรับสภาปฏิรูป
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ถึงกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีแนวคิดจะเชิญนายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษและ นายโคฟี อันนัน เจ้าของรางวัล สาขาสันติภาพ อดีตเลขาธิการสหประชาชาติมาชี้แนะแนวทางปฏิรูปประเทศไทยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงกำลังคิดว่า กำลังเอาโลกมาล้อมคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ทั้งที่ความจริงเรื่องนี้เป็นข้อเสนอที่อยู่ในรายงานของสถาบันพระปกเกล้านานแล้ว โดยเสนอให้นำอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา มานั่งคุยกันเรื่องการปรองดอง แต่ข้อเสนอนี้ตกไปแล้วในชั้นพิจารณาว่าไม่สามารถบรรลุผลได้แต่ประชาชนลืมไป
“น.ส.ยิ่งลักษณ์อาศัยจังหวะที่ประชาชนลืม ไปหยิบข้อเสนอที่คนลืมมาเริ่มต้นทำใหม่ พอคนเห็นชื่อนายโทนี แบลร์กับนายโคฟี อันนัน ก็ตื่นเต้นว่าเขาเอาจริง ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้ผล เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นทั้งคู่กรณีหรือคู่ขัดแย้งกับเราเลย เวลาคุยเรื่องปรองดองต้องนำคู่ขัดแย้งมาคุยกัน รัฐบาลไปตั้งโจทก์ผิดแล้ว ไปเอาคนที่ไม่เกี่ยวข้องหรือคู่กรณีมา และเป็นอดีตผู้นำแม้จะมีชื่อเสียง แต่อยากถามว่าเชิญบุคคลที่กล่าวมาข้างต้นมา เขาจะพูดอะไรเราก็รู้ ทำไมต้องนำสมองของฝรั่งมาบอกว่าคนไทยต้องทำแบบนั้นต้องทำแบบนี้ คนไทยต้องคุยกันเองต้องพูดกันเอง แล้วทำไมองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งเป็นองค์กรใหญ่ระดับโลก แสดงความเห็นมาในนามองค์กร ระบุว่าการนิรโทษของไทยครั้งนี้จะมีปัญหา แล้วทำไมรัฐบาลไม่ฟังเพราะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ถ้าเราไปฟังอดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ โดยที่ไม่ฟังสหประชาชาติ” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
“องอาจ”ซัดรัฐบาลสร้างภาพ
ในเรื่องดังกล่าวทางนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นเรื่องรัฐบาลพยายามจะสร้างความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปการเมือง เมื่อปีที่แล้วนายโคฟี อันนัน แม้แต่ นายมาร์ติ อาห์ติชาร์ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ ต่างเคยเดินทางมายังไทยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้จึง อยากให้รัฐบาลไปเปิดดูว่าเขาพูดอย่างไร เพราะเชื่อว่าบุคคลทั้ง2มีจุดยืนเหมือนเดิม อีกทั้งเห็นว่ารัฐบาลพยายามนำเอาต่างชาติมาร่วมปาหี่ทางการเมืองในประเทศมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ จะให้โอกาสรัฐบาล 2-3 วันให้ไปเปิดดูว่าเขาพูดอะไรบ้าง ถ้าไม่เปิดก็จะนำคำพูดของโคฟี อันนันและประธานาธิบดีฟินแลนด์มาให้ดู
ส่วนการมองว่าประชาธิปัตย์อยู่ในวงล้อมและถูกบีบให้โดดเดี่ยวนั้น เราอยู่บนพื้นฐานความจริงและความถูกต้อง ซึ่งอาจไม่ถูกใจในบางขณะแต่เชื่อว่าความชอบธรรมเป็นสิ่งที่ดำรงอยู่และคนส่วนมากจะเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ เพียงแค่ว่าในระยะเวลาหนึ่งอาจจะมองไม่ชัดเจน
ส่วนกรณี นายพิชัย รัตนกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาสนับสนุนเข้าร่วมเวทีสภาปฏิรูปการเมือง จะเป็นการดิสเครดิตพรรคหรือไม่ นายองอาจตอบว่าไม่เป็นการดิสเครดิต แต่เป็นสิทธิส่วนตัวของเขา
กลุ่ม40สว.ลั่นไม่ร่วมเวทีปฎิรูป
ขณะที่ในส่วนของกลุ่ม 40 สว. นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. เห็นว่าการรัฐบาลจะดึงนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ มาร่วมหาแนวทางแก้ปัญหาขัดแย้ง ก็เป็นแค่การสร้างภาพของรัฐบาลว่าได้รับการยอมรับของบุคคลระดับโลก ไม่ได้ตอบโจทย์ปัญหาประเทศโดยแท้จริง ส่วนที่ประธานวุฒิสภา จะนำเข้าหารือในวิปวุฒิสภาสัปดาห์หน้าก็เป็นความพยายามของประธานวุฒิสภ แต่กลุ่ม 40 ส.ว.ได้หารือกัน ขอปฏิเสธเด็ดขาดที่จะเข้าร่วมในเวทีนี้ อย่านำไปอ้าง เพราะไม่ใช่มติของวุฒิสภา จนกว่ารัฐบาลจะยอมถอนร่างนิรโทษกรรมทุกฉบับ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ ออกไปก่อนเราจึงจะพิจารณาอีกทีว่าจะเข้าร่วมหรือไม่
“แก้วสรร”ย้ำไม่นิรโทษมือเผา
ขณะที่นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)กล่าวถึงมีชื่อเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าเนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โทรศัพท์มาทาบทาม ขอให้ไปช่วยเหลือ เพราะคงเห็นว่าตนเข้าใจข้อแตกต่างกฎหมายและสามารถอธิบายให้สภาฟังได้ ส่วนตัวเห็นด้วย กับหลักคิดของพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มผู้เสียหายโดยจะแปรญัตติในชั้นคณะกรรมาธิการ ส่วนของแกนนำและการวางเพลิง เพราะไม่ใช่ความผิดทางความผิด แต่เป็นคดีทางอาชญากรรม จึงไม่ควรนิรโทษกรรมทั้งสิ้น พร้อมไม่กังวล หากรัฐบาลมีการสอดไส้เนื้อหาอื่นเข้ามาในชั้นกรรมาธิการ เพราะต้องเจอกันในสภาอยู่แล้ว และเชื่อว่าในสถานการณ์ขณะนี้ ขั้นตอนกรรมาธิการคงมีโอกาสใช้เหตุใช้ผลได้น้อยเพราะพวกเสียงข้างมากคงลากไป ไฮไลท์น่าจะอยู่ที่การลงคะแนนในวาระที่ 3 มากกว่า
กปท.โวยปูจูยปากต่างชาติ
ในวันเดียวกัน ที่สวนลุมพินี นายไทกร พลสุวรรณ เสนาธิการร่วม กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ(กปท.)แถลงข่าวประจำวันว่าคณะเสนาธิการร่วมกปท.วิตกกังวลว่ารัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กำลังจะดึงต่างประเทศให้มาแทรกแซงกิจการภายในของไทย เช่น การเชิญอดีตนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และอดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติเข้ามาเป็นผู้ชี้นำแนวทางในการสร้างความปรองดองให้กับประเทศ ซึ่ง กปท.เห็นว่าบุคคลทั้งสองยังไม่มีข้อมูลและรายละเอียดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในประเทศไทยดีเพียงพอ การเสนอแนวความคิดของบุคคลทั้งสองนั้น เพื่อจะให้คนไทยทั้งประเทศเห็นด้วย จึงเป็นข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ในการดึงต่างประเทศเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทย
และคณะเสนาธิการร่วมมีความกังวัลและวิตก ต่อการกำหนดยื่นแปรญัตติร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ภาย7วันอาจจะมีการสอดไส้ในการเสนอเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายเพื่อที่จะนิรโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯพร้อมพวก เราจึงขอเสนอว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ควรเปิดให้ตัวแทนของภาคประชาชนทุกภาคส่วนเข้าไปร่วมนั่งฟังการแปรญัตติในวาระที่สองของกฎหมายฉบับนี้เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่มี ส.ส.เสนอกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ล้างผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมพวก ที่ก่ออาชญากรรมทางการเมือง เมื่อปี 53
พท.โวต่างชาติยอมรับ
ขณะที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวชื่นชมแนวคิด นายกรัฐมนตรีจะเชิญ 2 อดีตผู้นำต่างชาติ เข้าร่วมเวทีปฎิรูปประเทศไทยขณะนี้ได้ตอบรับอย่างไม่เป็นทางการมาแล้วว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ทุกคนให้ความร่วมมือทั้งต่างประเทศและในประเทศรวมถึง นายพิชัย รัตตกุล อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้ความร่วมมือ น่าแปลกใจ จุดยืนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.ที่ยืนกรานไม่เข้าร่วมสภาปฎิรูปการเมือง พร้อมสร้างเงื่อนไขด้วยการให้ถอนกฎหมายที่เกี่ยวกับนิรโทษกรรมทั้งหมดออกจาก สภา ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน
จารุพงศ์หนุนยิ่งลักษณ์สุดตัว
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะเชิญนายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร และนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เข้าร่วมเวทีปฏิรูปประเทศไทย ว่า เป็นมิติใหม่ในยุคโลกไร้พรมแดนที่ทุกประเทศมีความเชื่อมโยงกันและทุกประเทศจะได้รับผลกระทบหากเกิดความไม่สงบสันติในทุกภูมิภาคของโลก ซึ่งความไม่สงบในประเทศไทย ก็มีความห่วงใยจากนานาชาติที่จับตามอง เพราะไทยไม่สามารถเกิดความปรองดองมาแล้ว 6-7ปี ดังนั้น การที่ไทยจะปฏิรูปประเทศ ต้องมองทั่วโลกด้วย เพราะเวทีปฏิรูปประเทศไทย จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นด้านการค้าการลงทุนในสายตาต่างประเทศได้ การเชิญผู้นำประเทศและบุคคลที่มีศักยภาพเข้าร่วมเวทีดังกล่าว ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯและหวังว่าคนที่จะมาเป็นนายกฯไทยในอนาคตจะมีใจกว้างเช่นนี้ เพื่อให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า
มั่นใจปฎิรูปจะเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ นายจารุพงศ์ มั่นใจว่าเวทีปฏิรูปประเทศไทย จะเป็นรูปธรรม เพราะที่ผ่านมาจากการที่รัฐบาลได้เปิดเวที 108 เวที แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำงานในด้านที่จะนำไปสู่ความปรองดองถึง3ชุด มีความเห็นตรงกันว่าประเทศจะสงบได้ต้องพูดคุยและอยากเห็นประเทศไปสู่ความปรองดองจึงอยากให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมเวทีปฏิรูปประเทศไทย โดยเฉพาะฝ่ายค้านพร้อมฝากสื่อมวลชนให้อธิบายต่อฝ่ายค้านให้เข้าใจกระบวนการและเข้าร่วมเวทีปฏิรูปประเทศด้วย
“สุวัจน์”ร่วมสภาปฎิรูปการเมือง
ส่วนความคืบหน้าในการเดินสายของรัฐบาลเชิญแกนนำการเมืองเข้าร่วมสภาปฎิรูปประเทศไทย เวลา15.00น.ที่บ้านราชวิถี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและนายวราเทพ รัตนากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกฯในฐานะแกนนำพรรคชาติพัฒนา(ชทพ.)เพื่อเชิญเข้าร่วมสภาปฏิรูปการเมืองแก้ปัญหาความขัดแย้งของประเทศ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ใช้เวลาหารือ30นาที โดยนายสุวัจน์ ได้ขอบคุณและตอบรับยินดีที่จะเข้าร่วม แนวทางที่รัฐบาลเชิญผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์เข้าให้ข้อคิด เพื่อนำไปสู่ทางออก เป็นสิ่งที่ดี เชื่อว่าทุกฝ่ายอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปได้ เป็นแนวทางที่ดีมาก หากทุกฝ่ายจะให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์ให้บ้านเมืองมีทางออก ข้อสรุปที่จะได้จะนำไปสู่การแก้ไขความขัดแย้ง เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเมืองในประเทศได้แ ละเชื่อแนวทางการปฏิรูปจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นของประเทศไทยได้มาก
“เวทีนี้ไม่ใช่ นำคู่ขัดแย้งมาเจรจาแต่เป็นการนำผู้รู้แก้ปัญหามาวางระบบการเมืองและการแก้ไขปัญหา การที่รัฐบาลเป็นผู้ริเริ่มเป็นหลักประกันให้บรรลุสู่เป้าหมาย”อดีตรองนายกฯย้ำ
คาดถกสภาปฎิรูปนัดแรก16ส.ค.นี้
ด้าน นายวราเทพ กล่าวว่าคาดว่าจะเปิดเวทีสภาปฎิรูปครั้งแรกได้ หลังวันที่14-15 ส.ค.เสร็จสิ้นพิจารณา พรบ.งบประมาณปี 2557 แล้ว ก็เป็นไปได้ว่าวันที่16ส.ค.จะเริ่มหารือสภาปฎิรูปได้ ทั้งขาดเพียงประชาธิปัตย์(ปชป.)ที่ยังไม่ยืนยัน และภาคประชาชน ขาดเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)และวันที่13ส.ค.เวลา07.30น.ตนและนายพงศ์เทพจะเดินทางไปเชิญ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯเข้าร่วม ที่คอนโดริมน้ำริเวอร์ไลน์ ย่านนนทบุรี
ลังเลเชิญนักโทษ”ทักษิณ”
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า การประสานไปยังทุกกลุ่มรวมถึง พธม. แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ หากตอบรับมาก็พร้อมที่จะไปเชิญด้วยตนเอง ส่วนภาคเอกชนก็มี 3 สมาคม อาทิ สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทยจะเชิญเข้าร่วมพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ทั้งนายพงศ์เทพ และ นายวราเทพ ต่างหลีกเลี่ยงคำถามที่จะตอบประเด็นการจะเชิญพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเข้าร่วม โดยแต่ละคนต่างติดขัดในเรื่องส่วนตัวแต่หากเจ้าตัวไม่สามารถมาร่วมก็สามารถส่งความคิดมาในช
http://www.naewna.com/politic/63800