เมื่อวันที่ 10 ส.ค. นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า สอศ. ร่วมกับสวนดุสิตโพล ม.ราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นนักเรียนในสังกัดอาชีวศึกษา จำนวน 1,091 คน เรื่อง “วันแม่” ในทัศนะ “เด็กอาชีวะ” พบว่าสิ่งที่เด็กอาชีวะอยากทำให้แม่มากที่สุดโดยเฉพาะใน “วันแม่” คือ การกราบและไหว้แม่ พาแม่ไปเที่ยว ไปทำบุญไหว้พระ นำพวงมาลัยหรือของที่แม่ชอบมาให้ สำหรับสถานที่ที่อยากพาแม่ไปเที่ยว ได้แก่ ไปเที่ยวทะเล ไปวัด ไปเที่ยวน้ำตก หรือพาไปที่ที่แม่อยากไป เป็นต้น
เลขาธิการ สอศ. กล่าวต่อว่า สิ่งที่เด็กอาชีวะอยากบอกกับแม่ คือ รักแม่ ขอให้แม่มีสุขภาพแข็งแรง จะตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี และอยากขอโทษในสิ่งที่เคยทำให้แม่เสียใจ โดยในวันแม่นี้ เด็กๆ อยากสารภาพกับแม่ในเรื่องการคบเพื่อนต่างเพศร้อยละ 34.89 เรื่องผลการเรียนที่ตกต่ำร้อยละ 29.77 รวมถึงเรื่องการดื่มสุรา และยาเสพติดร้อยละ 14.55 ทั้งนี้ เนื่องจากเรื่องการเรียน การคบเพื่อนต่างเพศ ยาเสพติด การดื่มสุรา การพนัน เป็นสิ่งที่แม่เป็นห่วงและเตือนพวกเขาเป็นประจำ
นอกจากนี้ เด็กอาชีวะยังได้แสดงความคิดเห็นว่า การอบรมเลี้ยงดูของแม่มีผลต่อแนวทางการใช้ชีวิตประจำวันถึงร้อยละ 86.53 เป็นการได้รับการปลูกฝังแต่สิ่งที่ดีงาม แม่เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านความอดทน เสียสละ ขณะที่มีเด็กเพียงบางส่วนกล่าวว่า การใช้ชีวิตและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเกิดจากตัวพวกเขาเอง เนื่องจากพวกเขาไม่ได้อยู่กับแม่หรือแม่ไม่มีเวลามาดูแลอบรมสั่งสอนพวกเขา อีกทั้งยังมีบุคคลอื่นที่นอกเหนือจากแม่ผู้ให้กำเนิดแล้ว แต่เด็กอาชีวะอยากเรียกบุคคลนั้นๆ ว่า “แม่” ได้แก่ ย่า ยาย อาจารย์ ผู้อุปการะเลี้ยงดู และผู้มีพระคุณ.
http://www.thairath.co.th/content/edu/362626
http://bit.ly/เพจข่าวดี
โพลชี้ นร.อาชีวะอยากขอโทษแม่ในสิ่งที่เคยทำให้เสียใจ
เลขาธิการ สอศ. กล่าวต่อว่า สิ่งที่เด็กอาชีวะอยากบอกกับแม่ คือ รักแม่ ขอให้แม่มีสุขภาพแข็งแรง จะตั้งใจเรียน เป็นเด็กดี และอยากขอโทษในสิ่งที่เคยทำให้แม่เสียใจ โดยในวันแม่นี้ เด็กๆ อยากสารภาพกับแม่ในเรื่องการคบเพื่อนต่างเพศร้อยละ 34.89 เรื่องผลการเรียนที่ตกต่ำร้อยละ 29.77 รวมถึงเรื่องการดื่มสุรา และยาเสพติดร้อยละ 14.55 ทั้งนี้ เนื่องจากเรื่องการเรียน การคบเพื่อนต่างเพศ ยาเสพติด การดื่มสุรา การพนัน เป็นสิ่งที่แม่เป็นห่วงและเตือนพวกเขาเป็นประจำ
นอกจากนี้ เด็กอาชีวะยังได้แสดงความคิดเห็นว่า การอบรมเลี้ยงดูของแม่มีผลต่อแนวทางการใช้ชีวิตประจำวันถึงร้อยละ 86.53 เป็นการได้รับการปลูกฝังแต่สิ่งที่ดีงาม แม่เป็นแบบอย่างที่ดีในด้านความอดทน เสียสละ ขณะที่มีเด็กเพียงบางส่วนกล่าวว่า การใช้ชีวิตและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเกิดจากตัวพวกเขาเอง เนื่องจากพวกเขาไม่ได้อยู่กับแม่หรือแม่ไม่มีเวลามาดูแลอบรมสั่งสอนพวกเขา อีกทั้งยังมีบุคคลอื่นที่นอกเหนือจากแม่ผู้ให้กำเนิดแล้ว แต่เด็กอาชีวะอยากเรียกบุคคลนั้นๆ ว่า “แม่” ได้แก่ ย่า ยาย อาจารย์ ผู้อุปการะเลี้ยงดู และผู้มีพระคุณ.
http://www.thairath.co.th/content/edu/362626
http://bit.ly/เพจข่าวดี