นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้าน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นถึง
ข้อเสนอเรื่องการจัดเวทีหารือแนวทางปฏิรูปการเมืองเพื่อหาทางออกให้สังคมของรัฐบาล
ว่าก็คงจะเกิดผลคล้ายคลึงกันกับการพูดคุยหารือระหว่างหน่วยงานของรัฐกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ในปัญหา
ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือพูดกันไป ก็เผาไป และยิงกันไป
ไม่ว่าจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองพูดโดยสุจริตใจ หรือพูดไปโดยมีแง่เงื่อนทางการเมืองเป็นตัวกำหนดอยู่ก็ตาม
แต่คำพูดของนายอภิสิทธิ์แสดงความไม่เชื่อถือแนวทางในการแก้ปัญหาของรัฐบาลออกมาชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางการเมืองหรือปัญหาชายแดนภาคใต้
ประเด็นว่าความไม่เชื่อถือนี้เกิดขึ้นเพราะ "ไม่คิดว่า" กระบวนการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจะสำเร็จ
หรือเกิดขึ้นเพราะ "ไม่ต้องการ" ให้กระบวนการแก้ไขปัญหานี้ประสบความสำเร็จ
เพราะถ้าเป็นประการแรก หากเห็นว่าแนว ทางหรือวิธีการที่ดำเนินอยู่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้
กับสังคมได้ ผู้นำฝ่ายค้านก็สามารถเสนอแนวทางหรือวิธีการที่เห็นว่าดีกว่าขึ้นมาเทียบเคียงได้
ด้านหนึ่งเพื่อให้ปัญหาในสังคมยุติหรือทุเลาลง อีกด้านหนึ่งก็เพื่อแสดงให้สังคมได้เปรียบเทียบ
ว่าข้อเสนอหรือทางเลือกใดจะเป็นประโยชน์ จะเป็นไปได้ในสังคมมากกว่ากัน
เป็นการทำงานในฐานะผู้นำฝ่ายค้านให้ครบถ้วนสมบูรณ์
แต่หากท่าทีดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะเหตุผลประการหลัง อนาคตของการเมืองและสังคมไทย
ก็คงยังอึมครึม
ประการหนึ่ง เพราะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญ และมีบทบาท
เกี่ยวข้องกับปัญหาการเมืองจำนวนมากในปัจจุบัน
สังคมส่วนหนึ่งย่อมคาดหวังว่าเมื่อเป็นผู้ผูกแล้ว ก็จะต้องเป็นผู้ลงมือแก้ด้วยตนเองด้วย
ประการหนึ่ง ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านหรือผู้นำพรรคการเมืองใหญ่ และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ย่อม
สร้างความคาดหวังให้กับคนจำนวนไม่น้อย ว่าจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่ดำรงอยู่หรือไม่
หากไม่กระโดดมาอยู่ซีกที่เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา
ก็แสดงว่ายังยืนอยู่บนฝั่งที่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอยู่ต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM05qQTNNekF6TUE9PQ==§ionid=
เก็บตกมาฝากเพื่อน ทั้ง คนชอบ และ ไม่ชอบ มาร์ค คิดยังไงกับบทความนี้
เมื่อวาน ดูรายการ The Daily Dose อีตาหม่อมปลื้ม ก็พูดถึงเรื่องนี้ สภาปฏิรูปการเมือง
ที่ฝ่ายค้านปฏิเสธ มันเหมือนกับ ไม่อยากให้สำเร็จ กลัวอะไรหรือ ??????
อยากได้ คำตอบเหมือนกัน

ผู้นำการเมือง บทบรรณาธิการ ข่าวสดออนไลน์
ข้อเสนอเรื่องการจัดเวทีหารือแนวทางปฏิรูปการเมืองเพื่อหาทางออกให้สังคมของรัฐบาล
ว่าก็คงจะเกิดผลคล้ายคลึงกันกับการพูดคุยหารือระหว่างหน่วยงานของรัฐกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ในปัญหา
ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือพูดกันไป ก็เผาไป และยิงกันไป
ไม่ว่าจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองพูดโดยสุจริตใจ หรือพูดไปโดยมีแง่เงื่อนทางการเมืองเป็นตัวกำหนดอยู่ก็ตาม
แต่คำพูดของนายอภิสิทธิ์แสดงความไม่เชื่อถือแนวทางในการแก้ปัญหาของรัฐบาลออกมาชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางการเมืองหรือปัญหาชายแดนภาคใต้
ประเด็นว่าความไม่เชื่อถือนี้เกิดขึ้นเพราะ "ไม่คิดว่า" กระบวนการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจะสำเร็จ
หรือเกิดขึ้นเพราะ "ไม่ต้องการ" ให้กระบวนการแก้ไขปัญหานี้ประสบความสำเร็จ
เพราะถ้าเป็นประการแรก หากเห็นว่าแนว ทางหรือวิธีการที่ดำเนินอยู่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้
กับสังคมได้ ผู้นำฝ่ายค้านก็สามารถเสนอแนวทางหรือวิธีการที่เห็นว่าดีกว่าขึ้นมาเทียบเคียงได้
ด้านหนึ่งเพื่อให้ปัญหาในสังคมยุติหรือทุเลาลง อีกด้านหนึ่งก็เพื่อแสดงให้สังคมได้เปรียบเทียบ
ว่าข้อเสนอหรือทางเลือกใดจะเป็นประโยชน์ จะเป็นไปได้ในสังคมมากกว่ากัน
เป็นการทำงานในฐานะผู้นำฝ่ายค้านให้ครบถ้วนสมบูรณ์
แต่หากท่าทีดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะเหตุผลประการหลัง อนาคตของการเมืองและสังคมไทย
ก็คงยังอึมครึม
ประการหนึ่ง เพราะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญ และมีบทบาท
เกี่ยวข้องกับปัญหาการเมืองจำนวนมากในปัจจุบัน
สังคมส่วนหนึ่งย่อมคาดหวังว่าเมื่อเป็นผู้ผูกแล้ว ก็จะต้องเป็นผู้ลงมือแก้ด้วยตนเองด้วย
ประการหนึ่ง ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านหรือผู้นำพรรคการเมืองใหญ่ และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ย่อม
สร้างความคาดหวังให้กับคนจำนวนไม่น้อย ว่าจะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่ดำรงอยู่หรือไม่
หากไม่กระโดดมาอยู่ซีกที่เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา
ก็แสดงว่ายังยืนอยู่บนฝั่งที่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอยู่ต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM05qQTNNekF6TUE9PQ==§ionid=
เก็บตกมาฝากเพื่อน ทั้ง คนชอบ และ ไม่ชอบ มาร์ค คิดยังไงกับบทความนี้
เมื่อวาน ดูรายการ The Daily Dose อีตาหม่อมปลื้ม ก็พูดถึงเรื่องนี้ สภาปฏิรูปการเมือง
ที่ฝ่ายค้านปฏิเสธ มันเหมือนกับ ไม่อยากให้สำเร็จ กลัวอะไรหรือ ??????
อยากได้ คำตอบเหมือนกัน