คำพูดต่างๆ ดังนี้ พลั่งพลูออกจากปากของหญิงสาวคนหนึ่งที่พูดกับเราเสมอมา
"พี่เป็นทั้งพ่อ พี่ เพื่อน และแฟน ของ... พี่อย่าทิ้ง...ไปน่ะ
ตอนนี้ครอบครัว...ประสบปัญหา พี่รับได้ไหม รับกับแม่...ได้ไหม
....ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อน มีพี่คนเดียวเท่านั้น ที่...ต้องการ
....จะรักพี่คนเดียวและตลอดไป"
แต่สุดท้ายคำพูดดังกล่าวก็เป็นเพียงการพูดในขณะที่เค้ามีใจให้กับเราเท่านั้น เพราะตอนที่เค้าหมดใจกับเราเพราะมีคนใหม่ คำพูดพวกนี้ที่ตนเองเป็นผู้พูดกลับลืมไปเสียหมด
ผมขอโพสสรุปเหตุการณ์ที่ทำให้เราทั้งคู่ต้องแยกทางกันก่อน ซึ่งผมได้เคยโพสไว้ในห้อง Blueplanet ซึ่งถ้าท่านใดอยากอ่านความเห็นของเพื่อนในห้องบลูสามารถอ่านได้ที่
http://pantip.com/topic/30728336
และต่อไปจะทยอยเล่าจุดเริ่มต้นเมื่อ 7 ปีก่อนให้ฟังในครั้งต่อไปครับ
7 ปีที่ผ่านมาเราทั้งคู่จองตั๋วเครื่องบินเที่ยว ตปท. กันปีละ 3-4 ครั้ง ส่วนในประเทศเราไม่ไปแล้วเพราะเราไปด้วยกันในช่วง3ปีแรกเราเที่ยวกันจนเกือบหมด ก็การจองไปเที่ยวต่างประเทศ ก็จองแบบล่วงหน้าเพราะคิดว่าอย่างไรก็ไปเที่ยวได้เพราะพยายามจองไปช่วงวันหยุด วันเปิดจองก็นั่งจองตั้งแต่ 5 ทุ่ม กว่าจะจองได้ก็เกือบดี 2 ทุกครั้งแต่ก็คุ้มกับราคาถูก
ทริปที่จะถึงนี้ก็เช่นกัน 20-23 ก.ค.56 เราทั้งคู่จองไปฮ่องกง ด้วยราคาไปกลับที่รวมทุกอย่างไม่ถึง 5000 บาท การวาแผนช๊อปปิ้งประจำปีได้เริ่มหมดว่าจะซื้ออะไรบ้าง จะไปทานเป็ดเหมือนทุกครั้งที่ไปมา เหลือแต่เพียงวันที่เดินทางเท่านั้น
แต่เมื่อคืนวันที่ 14 ก.ค. ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเหมือนฟ้าผ่ามาที่กลางใจ เธอคนนั้นได้ทำลายความใว้ใจที่มีมา ไม่เคยคิดถึงวันหลังๆ ที่เราผ่านพ้นมา เพียงคำถามและคำตอบไม่กี่ประโยค
"...อยู่ไหน พี่กลับถึงคอนโดแล้วโทรมาบอก ไม่เห็นรับ"
"อ๋อ มือถือชาร์ต์ไว้ที่บ้าน เดินไปคุยที่บ้านยายมาจ้า ตอนนี้อยู่บ้านแล้ว"
ลางสังหรณ์์ใจ มีมาตั้งหลายวันแล้วว่าเธอเปลี่ยนไป เลยลองดูจากสัญญาณมือถือแล้วก็พบว่าเธอไม่ได้อยู่บ้าน แต่กลับอยู่ร้านอาหารริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
"บอกมาว่าอยู่ไหน อย่าคิดน่ะว่าไม่รู้"
จึงได้รับคำตอบว่า "มาทานอาหารกับ...หนุ่มคนใหม่"
"ไม่เป็นไร พี่ไม่กวนแล้วทานให้อร่อยน่ะ....ทริปวันเสาร์ที่จะไปฮ่องกงด้วยกัน อย่าไปเลยน่ะ พี่ไปคนเดียวได้"
ตอนแรกผมก็คิดน่ะว่า ถ้าเค้าแค่โทรศัพท์คุยกันลองคบหากัน ผมก็ไม่ว่า คิดว่าหลังกลับจากทริปนี้ค่อยคุยกันอย่างจริงจัง ว่าจะเอาอย่างไรกันต่อไป แต่ที่อดทนไม่ไหวต้องระเบิดออกมาน่ะวันนั้นเพราะโกหกเรา และออกไปทานข้าวกันข้างนอกกับคนที่รู้จักกันไม่นาน (หรือนานไม่รู้ แต่เวลาคุยกันเริ่มรู้ว่าเปลี่ยนๆไปประมาณ 1 อาทิตย์) เช็คดูกลับถึงบ้านเที่ยงคืนกว่า เป็นสิ่งที่รับไม่ได้จริงๆครับ
สรุปส่งท้ายก่อนจะเดินทางไม่ได้นอนคุยถึงสว่าง ก็ตัดสินใจให้เค้าร่วมเดินทางด้วยเนื่องจากเค้าบอกว่ารับ preorder และรับเงินจากลูกค้าแล้ว ถ้าไม่ไปจะเสียหายได้ ผมก็บอกว่าถ้าไป
และในวันที่ไปโดยมีเค้าร่วมเดินทางไปด้วยทำให้เรารู้ซึ่งถึงความเจ็บปวดที่สุดที่เราเคยได้รับมาจากคนที่เรารักและคิดว่าจะสร้างอนาคตให้เค้า เพราะตลอด 3 คืน 4 วันที่ไปด้วยกัน พักห้องเดียวกันแต่แยกเตียง น้องเค้าซื้อซิมฮ่องกงมาและคุยไลน์และโทรคุยกันทั้งๆที่เรานอนอยู่เตียงข้างๆ คงคิดว่าเราหลับแล้วแต่อยากจะบอกให้รู้ว่าเราแค่หลับตาแต่ทุกสิ่งที่เธอทำเรารับรู้หมด และในการไปฮ่องกงครั้งนี้เราต้องเป็นผู้รุดบัตรเครดิตให้กับเธอก่อนเพราะเธอรับเงินลูกค้าที่มัดจำแค่ 10% ส่วนที่เหลือเค้าไม่มีเงินซื้อเราจึงต้องรูดบัตรให้ก่อนเป็นจำนวนเงินเกือบ 3 หมื่นบาท
แต่หลังจากกลับมาเธอให้เงินมาแล้วคงขาดอีกประมาณ 5000 บาทที่เราจะส่งข้อความให้เธอโอนเงินมาพร้อมกับค่าผ่อนไอโฟนอีก 2 งวดสุดท้าย
พี่เป็นทั้งพ่อ เพื่อน พี่และแฟน แต่สุดท้ายน้องก็ทิ้งพี่ไป
"พี่เป็นทั้งพ่อ พี่ เพื่อน และแฟน ของ... พี่อย่าทิ้ง...ไปน่ะ
ตอนนี้ครอบครัว...ประสบปัญหา พี่รับได้ไหม รับกับแม่...ได้ไหม
....ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อน มีพี่คนเดียวเท่านั้น ที่...ต้องการ
....จะรักพี่คนเดียวและตลอดไป"
แต่สุดท้ายคำพูดดังกล่าวก็เป็นเพียงการพูดในขณะที่เค้ามีใจให้กับเราเท่านั้น เพราะตอนที่เค้าหมดใจกับเราเพราะมีคนใหม่ คำพูดพวกนี้ที่ตนเองเป็นผู้พูดกลับลืมไปเสียหมด
ผมขอโพสสรุปเหตุการณ์ที่ทำให้เราทั้งคู่ต้องแยกทางกันก่อน ซึ่งผมได้เคยโพสไว้ในห้อง Blueplanet ซึ่งถ้าท่านใดอยากอ่านความเห็นของเพื่อนในห้องบลูสามารถอ่านได้ที่ http://pantip.com/topic/30728336
และต่อไปจะทยอยเล่าจุดเริ่มต้นเมื่อ 7 ปีก่อนให้ฟังในครั้งต่อไปครับ
7 ปีที่ผ่านมาเราทั้งคู่จองตั๋วเครื่องบินเที่ยว ตปท. กันปีละ 3-4 ครั้ง ส่วนในประเทศเราไม่ไปแล้วเพราะเราไปด้วยกันในช่วง3ปีแรกเราเที่ยวกันจนเกือบหมด ก็การจองไปเที่ยวต่างประเทศ ก็จองแบบล่วงหน้าเพราะคิดว่าอย่างไรก็ไปเที่ยวได้เพราะพยายามจองไปช่วงวันหยุด วันเปิดจองก็นั่งจองตั้งแต่ 5 ทุ่ม กว่าจะจองได้ก็เกือบดี 2 ทุกครั้งแต่ก็คุ้มกับราคาถูก
ทริปที่จะถึงนี้ก็เช่นกัน 20-23 ก.ค.56 เราทั้งคู่จองไปฮ่องกง ด้วยราคาไปกลับที่รวมทุกอย่างไม่ถึง 5000 บาท การวาแผนช๊อปปิ้งประจำปีได้เริ่มหมดว่าจะซื้ออะไรบ้าง จะไปทานเป็ดเหมือนทุกครั้งที่ไปมา เหลือแต่เพียงวันที่เดินทางเท่านั้น
แต่เมื่อคืนวันที่ 14 ก.ค. ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเหมือนฟ้าผ่ามาที่กลางใจ เธอคนนั้นได้ทำลายความใว้ใจที่มีมา ไม่เคยคิดถึงวันหลังๆ ที่เราผ่านพ้นมา เพียงคำถามและคำตอบไม่กี่ประโยค
"...อยู่ไหน พี่กลับถึงคอนโดแล้วโทรมาบอก ไม่เห็นรับ"
"อ๋อ มือถือชาร์ต์ไว้ที่บ้าน เดินไปคุยที่บ้านยายมาจ้า ตอนนี้อยู่บ้านแล้ว"
ลางสังหรณ์์ใจ มีมาตั้งหลายวันแล้วว่าเธอเปลี่ยนไป เลยลองดูจากสัญญาณมือถือแล้วก็พบว่าเธอไม่ได้อยู่บ้าน แต่กลับอยู่ร้านอาหารริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
"บอกมาว่าอยู่ไหน อย่าคิดน่ะว่าไม่รู้"
จึงได้รับคำตอบว่า "มาทานอาหารกับ...หนุ่มคนใหม่"
"ไม่เป็นไร พี่ไม่กวนแล้วทานให้อร่อยน่ะ....ทริปวันเสาร์ที่จะไปฮ่องกงด้วยกัน อย่าไปเลยน่ะ พี่ไปคนเดียวได้"
ตอนแรกผมก็คิดน่ะว่า ถ้าเค้าแค่โทรศัพท์คุยกันลองคบหากัน ผมก็ไม่ว่า คิดว่าหลังกลับจากทริปนี้ค่อยคุยกันอย่างจริงจัง ว่าจะเอาอย่างไรกันต่อไป แต่ที่อดทนไม่ไหวต้องระเบิดออกมาน่ะวันนั้นเพราะโกหกเรา และออกไปทานข้าวกันข้างนอกกับคนที่รู้จักกันไม่นาน (หรือนานไม่รู้ แต่เวลาคุยกันเริ่มรู้ว่าเปลี่ยนๆไปประมาณ 1 อาทิตย์) เช็คดูกลับถึงบ้านเที่ยงคืนกว่า เป็นสิ่งที่รับไม่ได้จริงๆครับ
สรุปส่งท้ายก่อนจะเดินทางไม่ได้นอนคุยถึงสว่าง ก็ตัดสินใจให้เค้าร่วมเดินทางด้วยเนื่องจากเค้าบอกว่ารับ preorder และรับเงินจากลูกค้าแล้ว ถ้าไม่ไปจะเสียหายได้ ผมก็บอกว่าถ้าไป
และในวันที่ไปโดยมีเค้าร่วมเดินทางไปด้วยทำให้เรารู้ซึ่งถึงความเจ็บปวดที่สุดที่เราเคยได้รับมาจากคนที่เรารักและคิดว่าจะสร้างอนาคตให้เค้า เพราะตลอด 3 คืน 4 วันที่ไปด้วยกัน พักห้องเดียวกันแต่แยกเตียง น้องเค้าซื้อซิมฮ่องกงมาและคุยไลน์และโทรคุยกันทั้งๆที่เรานอนอยู่เตียงข้างๆ คงคิดว่าเราหลับแล้วแต่อยากจะบอกให้รู้ว่าเราแค่หลับตาแต่ทุกสิ่งที่เธอทำเรารับรู้หมด และในการไปฮ่องกงครั้งนี้เราต้องเป็นผู้รุดบัตรเครดิตให้กับเธอก่อนเพราะเธอรับเงินลูกค้าที่มัดจำแค่ 10% ส่วนที่เหลือเค้าไม่มีเงินซื้อเราจึงต้องรูดบัตรให้ก่อนเป็นจำนวนเงินเกือบ 3 หมื่นบาท
แต่หลังจากกลับมาเธอให้เงินมาแล้วคงขาดอีกประมาณ 5000 บาทที่เราจะส่งข้อความให้เธอโอนเงินมาพร้อมกับค่าผ่อนไอโฟนอีก 2 งวดสุดท้าย