งานทรมาน กับ งานในฝัน โดย วินทร์ เลียววาริณ

เมื่อครั้งที่ผมใช้ชีวิตมนุษย์สำนักงาน ผมมักเริ่มทำงานตอนเจ็ดโมงเช้า วันใดที่ไปทำงานเลย "เวลาปกติ" ของผม บางคนมองหน้าผมและถาม "ทำไมวันนี้มาสาย?" ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาเริ่มงาน!

นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมรำคาญเท่ากับคำถาม "ทำงานมากไปทำไม เดี๋ยวขาดทุน..."

ในสัญญาว่าจ้างงานส่วนใหญ่มักมีประโยค เข้าทำงาน 08.00 น. เลิกงาน 17.00 น. วันเสาร์ 08.00-12.00 น. เป็นต้น

บางทีโลกนี้เต็มไปด้วยคนรักษาสัญญา ดังนั้น หลายคนจึงเห็นว่าทำงานมากเกินเวลาเป็นการขาดทุน

"เงินเดือนนิดเดียว เอางานอะไรมากมาย"

"เจ้านายโคตรเอาเปรียบเลย"

"ใช้งานเป็นวัวเป็นควาย"

แน่นอนเราควรแยกแยะเจ้านายดีกับเจ้านายเอาเปรียบให้ออก แต่ก็ควรแยกแยะความแตกต่างระหว่าง งาน (job) กับ งาน (career) ด้วยเช่นกัน

job เป็นงานที่เราสักแต่ทำๆ ไปเพื่อรับค่าตอบแทนเป็นเงิน เป็นงานทรมาน ส่วน career เป็นงานในฝัน รับค่าตอบแทนเป็นเงิน และ/หรือความสุข

งานทรมานมักไม่มีอนาคต เพราะคนทำไม่ใส่หัวใจเข้าไปในงาน

งานในฝันเกิดขึ้นได้ยาก หากเห็นงานที่ทำเป็นงานทรมาน หรือเป็นฐานชั่วคราวสำหรับกระโดดไปสู่ที่ทำงานใหม่

ที่น่าขัดแย้งคือ บางคนรู้สึกว่างานที่ตนทำเป็นงานทรมาน ขณะที่บางคนกลับเห็นงานเดียวกันนั้นเป็นงานในฝัน

คนส่วนมากฝันอยากได้งานในฝัน แต่ไม่ยอมลงทุนแรงและหัวใจ

พวกเขาอาจลืมไปว่า งานไม่ใช่โปรแกรมหนัง ฉายจบแล้วจบเลย งานในฝันคือ ความต่อเนื่อง บ่อยครั้งมันไม่หยุดแม้เลยกำหนดเวลาทำงานไปแล้ว

งานทุกชิ้นที่เราทำ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ทับถมกันเป็นประสบการณ์ ยิ่งทำมาก ประสบการณ์ยิ่งเข้มข้น ตรึงแน่นในวิญญาณของคุณ ไม่มีใครแย่งเอาประสบการณ์ไปจากคุณได้

คนที่ชักกระบี่ขึ้นมาฟันวันละสองสามกวัก เพราะกลัวเมื่อย ไม่มีวันเป็นจอมกระบี่ได้

ทำงานไป มองนาฬิกาไป ก็คงต้องทำงานไป มองนาฬิกาไปตลอดชีวิต

คนที่คิดต้องชั่ง-ตวง-วัดทุกงานที่ทำยากนักที่จะ เปลี่ยนงานทรมานเป็นงานในฝันได้

เพียงแค่กลัวว่าจะขาดทุน ก็ขาดทุนแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่