ทำไมต้องประหยัด ความยากจนครั้งสุดท้าย
มาจากระทู้นี้ ความยากจนครั้งสุดท้าย ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/30799823

หลายคนเข้าใจว่า หากอยากรวย อยากสบาย ต้องหาเงินได้มากๆ
ผมเห็นมากับตา ที่คนเงินเดือนสามหมื่นบาท แต่รวยกว่า
คนเงินเดือน แสนกว่า บาท 10 เท่า
ยกตัวอย่าง คนแรกเงินเดือน 30000 บาท เหลือออม
14000 บาท ต่อเดือน นำเงินไปลงทุนต่อ ทุกๆ เดือน
คนที่สอง เงินเดือน 100000 บาท แต่ใช้เงินไม่เหลือเลย
ผ่านไป 20 ปี คนแรกมีทรัพย์สินเกิน 100 ล้านบาท
ส่วนคนที่สอง เงินเดือนแสนกว่า เป็นหนี้ 10 ล้านแทน
นี่คือเรื่องจริงครับ ว่า ต่อให้หาเงินได้มากแค่ไหนก็ไม่รวย
หากใช้เงินหมดเกลี้ยง แบบนี้ ยากจนแน่นอน
ความร่ำรวย หรือ ยากจนเกิด จากทรัพย์สินที่เรามี และรายได้
ประจำต่อเดือนว่ามากน้อยแค่ไหนนั่นเอง
การไม่ประหยัด ทำให้ใช้จ่ายเกินตัว จนเสียนิสัย
เกิดการเสพติดหรูหรา ติดแล้วแก้ยากครับ
ตอนผมเรียนจบเภสัชใหม่ มีรายได้ จากการขายวัว
เดือนละ 30000 บาท + เงินเดือน เมื่อ 15 ปีก่อน
น่าจะรวยครับ แต่กินเหล้า +เทียวทุกคืน เงินหมดตูด
แถมติดลบอีกต่างหาก นี่คือเรื่องจริงครับ
ดังนั้น ใครไม่อยากยากจน สิ่งแรกที่ควรทำคือประหยีด
โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ ออม 15% จากรายรับทั้งหมดครับ
วิธีที่แนะนำง่ายๆ ในแต่ละเดือน ให้หักเงินออมทันที
ในวันที่เงินเดือนออกเลย แล้วใช้เงินที่เหลืออยู่ให้พอครับ
สรุป
ความประหยัด คือเกราะป้องกันความยากจน
หากใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หาเงินได้มากแค่ไหน
ไม่ประหยัดเลย ก็ยากจนแน่นอน
ประหยัด คือมีเงินออมอย่างน้อยร้อยละ 15 ของรายได้
ความสุขแบบประหยัด จากความยากจนครั้งสุดท้าย
ความสุขแบบประหยัด

ผมเองเชื่อว่าหลายคนเคยต้องจ่ายเงินมากมายในสิ่งที่ตน
เองควรมี และอยากมีเหมือนๆ คนอื่น เช่น บ้านหลังใหญ่
รถหรูราคาแพง หรือ แต่เครื่องประดับราคาแพง สินค้า
แบร์นเนม หลายรายการ ที่เปลืองเงิน มากอยู่
หลายคนต้องผ่อน บางคนต้องกู้เงินมาซื้อ ต่างๆ นานา
เคยไหมครับ ที่ซื้อสิ่งที่คิดว่าอยากได้ แล้วดีใจได้แค่ 3 วัน
วันที่ 4 ก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้มีความสุขอะไรกับมันแล้ว เฉยๆ
บางคนซื้อ รถยนต์คันละ 3 ล้านบาท ขับได้ 3 วัน ก็๋ไม่ดีใจแล้ว
เรียกว่าเสียค่าโง่ วันละ 1 ล้านบาท ก็ว่าได้ ลองคิดดูครับ
หลายคน ไม่เคยถามใจตัวเองเลยว่า จริงๆ แล้วเราชอบอะไร
เรามึความสุขกับอะไร เราอยากได้อะไร อะไรที่เราต้องการ
คุณต้องถามหัวใจของคุณเอง ครับ ต้องเงียบเพื่อฟังเสียงหัวใจ
ของตนเอง เพื่อรู้สึกในสิ่งที่ตนเองต้องการ ว่ามันคืออะไร
ผมเองไม่เคยอยากได้รถราคาเกิน 2 ล้านบาท เพราะผมคิดว่า
ราคารถ จะตกลงเรื่อยๆ ผมไม่รู้สึกปลื้ม หรือ
ชอบอะไรรถแพงๆ Benz BMW Ferrari อะไรแนวๆ นี้
ไม่เคยอยู่ในใจผมเลยสักนิด โชคดีจรืงๆ เลย
ชีวิตผมก็ไม่
ต้องลำบากหาเงินทำงานหนัก เหมือนคนอื่น ได้อยู่กับลูก
และภรรยาทุกๆวัน ได้นอนอยู่บ้าน พาลูกเรียนพิเศษ
ได้นอนเล่นกับลูกชายทุกวัน เพราะเราชัดเจนกับตัวเอง
แล้วว่า ความสุขเราคืออะไร ส่วนต่อมาก็คือบ้าน
ผมอยากได้บ้านมีสวนหย่อมสวย มีสระน้ำ สนามหญ้า
มีแปลงดอกไม้ สวนผัก สวนสมุนไพร อยากได้แบบนี้
ต้องจัดเต็มบ้าน และที่ดิน 50 ไร่ ครับ ราคาไม่แพง
เพราะอยู่ในชนบท อากาศดี เซาะกราวไปนิดนึง แต่
ไม่กันดารมาก นี่คือบ้านสวนที่ผมต้องการ ชัดเจน
ในสิ่งที่ตัวเองต้องการและมีความสุขกับมัน
และนี่ คือ ความสุขแบบประหยัด และยังมีอะไรอีกมากครับ
ถามตัวเอง ก่อนใช้เงินเปลือง
อยากได้ ไอโฟน 5 ไหม
**ไม่นะ ซื่อ nokia 310 3090 บาท
อยากได้ ipad mini ไหม
**อยากมาก ซื้อ 11200 บาท
อยากได้รถ Accord ไหม
** ไม่มันแพง อยากได้รถติด CNG
อยากไปทัวร์ยุโรปไหม
** ไม่ อยากไปเกาหลี ตกปลามากกว่า หนาวๆ ชอบๆ
ไปดูหนังที่เมเจอร์ 160 บาท
ไปแฟรี่ 70 บาท ก็สนุกเท่ากันน่ะ
เสื้อผ้าราคาแพง 1500 ขึ้น
เอาแถวคลองถมตัว 120 บาทก็พอ
ไปกินเหล้ากับเพื่อนดีกว่าคืนนี้ 2000 บาท
ไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วยตอนเย็นดีกว่า ค่าน้ำมัน 10 บาท
หากทำแบบนี้ แล้วเราพอใจ ความสุข เท่ากัน
เราเลือกแบบประหยัดสิครับ ลองคิดดู
ชีวิต
คุณมีทางเลือกเสมอ จะเลือกแบบไหน
อยู่ที่คุณครับ Up to you
เมื่อเงินไม่ใช่คำตอบของชีวิต
สมัยก่อนผมคิดว่า การมีเงินเยอะๆ ถึงมีความสุข
หากผมเป็นเศรษฐีร้อยล้าน ชีวิตคงมีความสุขมาก
แต่พอผมเรียนจบมา ได้ทำงานในชนบท กันดาร
ได้ไปคลุกคลีกับชาวบ้าน คนรากหญ้า ได้เข้าใจเขา
ได้ช้วยเหลือ ดูแล เยียวยา เป็นเพื่อนกับ พวกเขา
ชีวิตผม กลับมีความสุขอย่างน่าประหลาด
มีความสุขมากกว่าไป ดื่มสุรากับคนรู้ใจเสียอีก
แบบที่เขาเรียกว่า ความสุขที่ได้ทำความดี
เหมือนว่า เป็นงานที่หล่อเลี้ยงชีวิต
ความกระหาย อยากร่ำรวย เลยค่อยๆ
หายไป ทีละน้อย พออายุใกล้ 30 ปี
การอยากมีภรรยา มีครอบครัว
เป็นสิ่งที่ผมต้องการ แทนการ อยากมีเงินเยอะๆ ครับ
ผมเองก็ได้คำตอบแล้วว่า อยากได้อะไรชีวิตนี้
1 ครอบครัวอบอุ่น
2 สุขภาพดี
3 การเงินมั่นคง
4 เปลี่ยนประวัติศาสตร์วงการเภสัชกรรมไทย
(โอเวอร์ไป หรือเปล่านี่ ข้อ 4)
ซึ่งความฝันทั้ง 4 ข้อ ไม่ต้องใช้เงินมากมาย
เมื่อ รู้ สิ่งที่ตนอยากได้ 4 ข้อ แล้ว
ผมก็เริ่มลุยเลยว่า ต้องทำอะไรบ้าง
ทำอย่างไร ความฝันทั้ง 4 ข้อ จะเป็นจริง
ทำให้ผมไม่จมปลักกับเรื่องเงินเลยครับ
ชีวิตง่ายขึ้นในทันทีครับ
สิ่งที่ต้องทำเพื่ิอครอบครัวอบอุ่น
1 อยู่ด้วยกัน บ้านเดียวกัน
2 ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น พาลูกไปว่ายน้ำ
3 นัดเที่ยว จัดเต็มทั้งครอบครัว ทุกปี
4 พยายามตั้งใจฟัง กันและกัน
5 จ้องจับถูก ไม่คอยจับผิด
6 ทำสิ่งดีๆ ให้กัน
7 รู้จักยืดหยุ่นให้แก่กัน ให้อภัย
มีข้อ 2 และ 3 เท่านั้นที่ต้องใช้เงิน และไม่เปลืองด้วย
สุขภาพดี
1 ออกกำลังกายทุกวันที่สันเขื่อน
2 ลดแป้ง งดน้ำตาล
3 เพิ่มผัก เส้นใย และผลไม้
4 ตรวจสุขภาพทุกปี
5 ลดเค็ม ลดสีรา งดเหล่าเข้าพรรษา
6 เล่นกล้าม
7 ใช้ยาตามความจำเป็น
ข้อที่ใช้เงิน มีแค่ ข้อ 3 และ 6 เท่านั้นไม่เปลืองเลย
การเงินมั่นคง
1 มีงานประจำ รับราชการ
2 ออมร้อยละ 15
3 เงินสำรองฉุกเฉิน 6 เท่าของรายจ่าย
4 ประกันชีวิต ตายแล้วได้ สัก 2 ล้านบาท
5 บ้านและที่ดินปลอดหนี้
ผมทำได้แล้ว เหลือหนี้ไม่มากครับ
เปลี่ยนประวัติศาสตร์วงการเภสัชกรรมไทย
อันนี้เป็นเรื่องภายในครับ ....
เทคนิค คิดก่อนซื้อ 3 รอบ และการควบคุมตัวเอง
เคยไหมครับ ที่เราซื้อของแพงๆ มาแล้วพบว่า
มันไม่จำเป็นสักนิดเดียว ผมเองก็เคยเหมือนกันครับ
ที่มีก็ได้แก่ จอ LCD projector ราคาแพง
และคอมพิวเตอร์จอสัมผัส ราคา 30000 up
หลายครั้งเราซื้อของ ตามอารมณ์อยากได้ ไม่มีเหตุผล
ทำให้ชีวิตติดลบ มีหนี้สิน ชีวิตยากจนมากมาย เพราะ
ซื้อตามอา่รมณ์ ไม่คิดหน้า คิดหลังให้ดี ใจร้อนเกินไป
เทคนิค การคิดก่อนซื้อ 3 รอบ ช่วยท่านได้ โดย
จะต้องตั้งกติกากับตัวเอง ว่าหากจะซื้ออะไร อยากได้
ต้องสืบค่นหาข้อมูลเพิ่มก่อน ข้อดี ข้อเสีย ราคา
และดูว่า เราจำเป็นต้องมีมันหรือไม่ คิดรอบแรกสรุปก่อน
ทอดเวลาไว้สัก 3 วัน แล้วคิดอีกรอบว่าจำเป็นไหม
โดยในรอบที่ 2 ให้คิดว่าไม่ซื้อได้ไหม ???
ด้วยการมองหา
ความเป็นไปได้ที่เราจะไม่ซื้อ หากยังจะซื้ออยู่ รออีก 5วัน
แล้วคิดรอบที่ 3 ในประเด็นต่อไปนี้
1 มันจำเป็นไหม
2 ราคาสมเหตุผลหรือไม่
3 ข้อดี ข้อเสียคืออะไร
4 ไม่ซื้อมันจะได้ไหม
หากคิดรอบที่ 3 แล้วยังต้องซื้ออยู่ ก็ตามสบายครับ
แสดงว่าคิดมาดีแล้ว อารมณ์อยากได้ ใน 8 วันน่าจะจางแล้ว
ไม่ใช่ คิด อยากซื้อ ปุ๊บ มีอารมณ์ซื้อ ทันที แบบนี้ยากจนแน่นอน
การควบคุมตัวเองในการใช้จ่าย
1 ใช้วิธีหักเงินฝากตั้งแต่ต้นเดือน ควรออมอย่างน้อย 10% ของรายได้
แต่ผมคิดว่า ออม 15% กำลังดีครับ ยกตัวหากคุณมีเงินเดือน
เดือนละ 20000 บาท ต้องออมเดือนละ 3000 บาท จึงถือว่าผ่าน
2 การจำกัดเงินที่พกใส่กระเป๋า เช่นไม่พกเงินไปเกิน 500 บาท
แต่อาจมี ATM ไปด้วยเป็นต้น
3 การบันทึกรายจ่ายทุกวัน จะช่วยเตือนสติเราได้ดี ต้องทำทุกวัน
การเขียนจะทำให้เราชัดเจนว่าเงินเราไปไหนหมด
4 ไม่เดินไปใก้ลสถานที่ต้องเสียเงิน ผมก็ไม่เดินไปใกล้ผับ หรือ
คาเฟ่ ไม่ไปร้านหนังสือ หรือ เดินตลาด หรือ ห้างสรรพสินค้า โดยไม่
จำเป็นให้ใช้เวลา อยู่ในสถานที่ ที่ไม่เสียเงิน
คลิปที่น่าสนใจเรื่องชีวิตที่ดี

5 หาอะไรดีๆ มาทำ และเป็นกิจกรรมที่ไม่เสียเงิน อาทิเช่น
ล้างรถ วิ่งออกกำลังกาย อ่านหนังสือในบ้าน ฝึกฝนภาษาอังกฤษ
อ่านเอกสารวิชาการในสาขาอาชีพของคุณ เป็นต้น
6 ท่องคาถาประหยัดก่อนนอน 10 รอบทุกคืน
ไม่ซื้อของที่อยากได้
ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น
ประหยัดวันนี้ สบายวันนี้
7 เริ่มลงมือตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงโดยเดือนแรก
อาจจะมีเป้าหมาย ลดรายจ่าย 1000 บาท ทดลอง
ทำมันอย่างจริง และทำให้สนุก
ความยากจน ครั้งสุดท้าย ตอน บัตรเครดิตนรก

บัตรเคดิตร เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก หากใช้ไม่เป็น เพราะ???
ดอกเบี้ยมหาโหด และค่าปรับยิบย่อย น่าเกลียดมาก คือตัวปัญหา
จากบัตรเคริตรที่ทำให้เราจนลง อย่างรวดเร็ว ด้วยสาเหตุคือ
1 ดอกเบี้ยสูง
2 ค่าปรับแพง
3 เสียเงินได้สะดวกรวดเร็ว
4 อาจถูกฉ่อโกงได้
5 ทำให้ใช้จ่ายเกินตัว
6 ค่าธรรมเนียมรายปี
แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีข้อดีของบัตรเครดิตรอยู่
1 การซื้อ ที่สะดวก
2 ความคุ้มครองต่างๆ
3 รางวัล ของแถมต่างๆ
4 มีรายการสรุป
5 เป็นแหล่งเงินฉุกเฉิน
แต่อย่างไรก็ตามบัตรเคดิตรมันเอาเปรียบเราได้ เ่ช่น
ค่าธรรมเนียมรายปีแพง ดอกเบี้ยโหด
ค่าปรับ ค่าทวงถามมีตลอด งง มาก
การมีพวกมาตื๋อขายประกันทางโทรศัพท์บ่อยมาก
จ่ายเงินขาดไป 3 สตางค์ ค่าปรับ 450 บาท
ต้องจ่ายหนี้ก่อนเงินเดือนออก 3 วัน จะเอาเงินมาจากไหน
ทางแก้
1 ปิดบัตรเครดิตรให้หมดเหลือแค่ใบเดียวเท่านั้น
2 กู้เงินสหกรณ์มาปิดหนี้บัตรเครดิตร
3 ขอประนอมหนี้ บัตรเครดิตร หากไม้ไหวจริงๆ

เมื่อก่อนผมเคยมีหนี้บัตรเครดิตร 3 ใบ รวม หนี้ 150000 บาท
ต้องจ่ายหนี้เดือนละ 16000 บาท ตายครับตายสนิท
ผมหารายได้เสริม มาใช้หนี้เพิ่ม และกูสหกรณ์ มาปิดหนี้ทั้งหมดจบครับ
ข้อมูลควรรู้
ดอกเบี้ยบัตรเครดิต ร้อยละ 18 ต่อปี
ดอกเบี้ยสหกรณ์ออมทรัพย์ร้อยละ 7 ต่อปี
หนี้บัตรเครดิตร ต้องผ่อนคืนใน 10 งวด
หนี้สหกรณ์ แบ่งจ่ายได้นานถึง 240 งวด
ทดสอบ ความสนใจ รอคะแนน ครบ 35+ ก่อน เขียนกระทู้ถัดไป
อ่านกระทู้ถัดไป คลิก
http://pantip.com/topic/30834867
ความยากจนครั้งสุดท้าย ตอนที่ 2
ทำไมต้องประหยัด ความยากจนครั้งสุดท้าย
มาจากระทู้นี้ ความยากจนครั้งสุดท้าย ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/30799823
หลายคนเข้าใจว่า หากอยากรวย อยากสบาย ต้องหาเงินได้มากๆ
ผมเห็นมากับตา ที่คนเงินเดือนสามหมื่นบาท แต่รวยกว่า
คนเงินเดือน แสนกว่า บาท 10 เท่า
ยกตัวอย่าง คนแรกเงินเดือน 30000 บาท เหลือออม
14000 บาท ต่อเดือน นำเงินไปลงทุนต่อ ทุกๆ เดือน
คนที่สอง เงินเดือน 100000 บาท แต่ใช้เงินไม่เหลือเลย
ผ่านไป 20 ปี คนแรกมีทรัพย์สินเกิน 100 ล้านบาท
ส่วนคนที่สอง เงินเดือนแสนกว่า เป็นหนี้ 10 ล้านแทน
นี่คือเรื่องจริงครับ ว่า ต่อให้หาเงินได้มากแค่ไหนก็ไม่รวย
หากใช้เงินหมดเกลี้ยง แบบนี้ ยากจนแน่นอน
ความร่ำรวย หรือ ยากจนเกิด จากทรัพย์สินที่เรามี และรายได้
ประจำต่อเดือนว่ามากน้อยแค่ไหนนั่นเอง
การไม่ประหยัด ทำให้ใช้จ่ายเกินตัว จนเสียนิสัย
เกิดการเสพติดหรูหรา ติดแล้วแก้ยากครับ
ตอนผมเรียนจบเภสัชใหม่ มีรายได้ จากการขายวัว
เดือนละ 30000 บาท + เงินเดือน เมื่อ 15 ปีก่อน
น่าจะรวยครับ แต่กินเหล้า +เทียวทุกคืน เงินหมดตูด
แถมติดลบอีกต่างหาก นี่คือเรื่องจริงครับ
ดังนั้น ใครไม่อยากยากจน สิ่งแรกที่ควรทำคือประหยีด
โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ ออม 15% จากรายรับทั้งหมดครับ
วิธีที่แนะนำง่ายๆ ในแต่ละเดือน ให้หักเงินออมทันที
ในวันที่เงินเดือนออกเลย แล้วใช้เงินที่เหลืออยู่ให้พอครับ
สรุป
ความประหยัด คือเกราะป้องกันความยากจน
หากใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หาเงินได้มากแค่ไหน
ไม่ประหยัดเลย ก็ยากจนแน่นอน
ประหยัด คือมีเงินออมอย่างน้อยร้อยละ 15 ของรายได้
ความสุขแบบประหยัด จากความยากจนครั้งสุดท้าย
ความสุขแบบประหยัด
ผมเองเชื่อว่าหลายคนเคยต้องจ่ายเงินมากมายในสิ่งที่ตน
เองควรมี และอยากมีเหมือนๆ คนอื่น เช่น บ้านหลังใหญ่
รถหรูราคาแพง หรือ แต่เครื่องประดับราคาแพง สินค้า
แบร์นเนม หลายรายการ ที่เปลืองเงิน มากอยู่
หลายคนต้องผ่อน บางคนต้องกู้เงินมาซื้อ ต่างๆ นานา
เคยไหมครับ ที่ซื้อสิ่งที่คิดว่าอยากได้ แล้วดีใจได้แค่ 3 วัน
วันที่ 4 ก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้มีความสุขอะไรกับมันแล้ว เฉยๆ
บางคนซื้อ รถยนต์คันละ 3 ล้านบาท ขับได้ 3 วัน ก็๋ไม่ดีใจแล้ว
เรียกว่าเสียค่าโง่ วันละ 1 ล้านบาท ก็ว่าได้ ลองคิดดูครับ
หลายคน ไม่เคยถามใจตัวเองเลยว่า จริงๆ แล้วเราชอบอะไร
เรามึความสุขกับอะไร เราอยากได้อะไร อะไรที่เราต้องการ
คุณต้องถามหัวใจของคุณเอง ครับ ต้องเงียบเพื่อฟังเสียงหัวใจ
ของตนเอง เพื่อรู้สึกในสิ่งที่ตนเองต้องการ ว่ามันคืออะไร
ผมเองไม่เคยอยากได้รถราคาเกิน 2 ล้านบาท เพราะผมคิดว่า
ราคารถ จะตกลงเรื่อยๆ ผมไม่รู้สึกปลื้ม หรือ
ชอบอะไรรถแพงๆ Benz BMW Ferrari อะไรแนวๆ นี้
ไม่เคยอยู่ในใจผมเลยสักนิด โชคดีจรืงๆ เลย ชีวิตผมก็ไม่
ต้องลำบากหาเงินทำงานหนัก เหมือนคนอื่น ได้อยู่กับลูก
และภรรยาทุกๆวัน ได้นอนอยู่บ้าน พาลูกเรียนพิเศษ
ได้นอนเล่นกับลูกชายทุกวัน เพราะเราชัดเจนกับตัวเอง
แล้วว่า ความสุขเราคืออะไร ส่วนต่อมาก็คือบ้าน
ผมอยากได้บ้านมีสวนหย่อมสวย มีสระน้ำ สนามหญ้า
มีแปลงดอกไม้ สวนผัก สวนสมุนไพร อยากได้แบบนี้
ต้องจัดเต็มบ้าน และที่ดิน 50 ไร่ ครับ ราคาไม่แพง
เพราะอยู่ในชนบท อากาศดี เซาะกราวไปนิดนึง แต่
ไม่กันดารมาก นี่คือบ้านสวนที่ผมต้องการ ชัดเจน
ในสิ่งที่ตัวเองต้องการและมีความสุขกับมัน
และนี่ คือ ความสุขแบบประหยัด และยังมีอะไรอีกมากครับ
ถามตัวเอง ก่อนใช้เงินเปลือง
อยากได้ ไอโฟน 5 ไหม
**ไม่นะ ซื่อ nokia 310 3090 บาท
อยากได้ ipad mini ไหม
**อยากมาก ซื้อ 11200 บาท
อยากได้รถ Accord ไหม
** ไม่มันแพง อยากได้รถติด CNG
อยากไปทัวร์ยุโรปไหม
** ไม่ อยากไปเกาหลี ตกปลามากกว่า หนาวๆ ชอบๆ
ไปดูหนังที่เมเจอร์ 160 บาท
ไปแฟรี่ 70 บาท ก็สนุกเท่ากันน่ะ
เสื้อผ้าราคาแพง 1500 ขึ้น
เอาแถวคลองถมตัว 120 บาทก็พอ
ไปกินเหล้ากับเพื่อนดีกว่าคืนนี้ 2000 บาท
ไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วยตอนเย็นดีกว่า ค่าน้ำมัน 10 บาท
หากทำแบบนี้ แล้วเราพอใจ ความสุข เท่ากัน
เราเลือกแบบประหยัดสิครับ ลองคิดดู
ชีวิต คุณมีทางเลือกเสมอ จะเลือกแบบไหน
อยู่ที่คุณครับ Up to you
เมื่อเงินไม่ใช่คำตอบของชีวิต
สมัยก่อนผมคิดว่า การมีเงินเยอะๆ ถึงมีความสุข
หากผมเป็นเศรษฐีร้อยล้าน ชีวิตคงมีความสุขมาก
แต่พอผมเรียนจบมา ได้ทำงานในชนบท กันดาร
ได้ไปคลุกคลีกับชาวบ้าน คนรากหญ้า ได้เข้าใจเขา
ได้ช้วยเหลือ ดูแล เยียวยา เป็นเพื่อนกับ พวกเขา
ชีวิตผม กลับมีความสุขอย่างน่าประหลาด
มีความสุขมากกว่าไป ดื่มสุรากับคนรู้ใจเสียอีก
แบบที่เขาเรียกว่า ความสุขที่ได้ทำความดี
เหมือนว่า เป็นงานที่หล่อเลี้ยงชีวิต
ความกระหาย อยากร่ำรวย เลยค่อยๆ
หายไป ทีละน้อย พออายุใกล้ 30 ปี
การอยากมีภรรยา มีครอบครัว
เป็นสิ่งที่ผมต้องการ แทนการ อยากมีเงินเยอะๆ ครับ
ผมเองก็ได้คำตอบแล้วว่า อยากได้อะไรชีวิตนี้
1 ครอบครัวอบอุ่น
2 สุขภาพดี
3 การเงินมั่นคง
4 เปลี่ยนประวัติศาสตร์วงการเภสัชกรรมไทย
(โอเวอร์ไป หรือเปล่านี่ ข้อ 4)
ซึ่งความฝันทั้ง 4 ข้อ ไม่ต้องใช้เงินมากมาย
เมื่อ รู้ สิ่งที่ตนอยากได้ 4 ข้อ แล้ว
ผมก็เริ่มลุยเลยว่า ต้องทำอะไรบ้าง
ทำอย่างไร ความฝันทั้ง 4 ข้อ จะเป็นจริง
ทำให้ผมไม่จมปลักกับเรื่องเงินเลยครับ
ชีวิตง่ายขึ้นในทันทีครับ
สิ่งที่ต้องทำเพื่ิอครอบครัวอบอุ่น
1 อยู่ด้วยกัน บ้านเดียวกัน
2 ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น พาลูกไปว่ายน้ำ
3 นัดเที่ยว จัดเต็มทั้งครอบครัว ทุกปี
4 พยายามตั้งใจฟัง กันและกัน
5 จ้องจับถูก ไม่คอยจับผิด
6 ทำสิ่งดีๆ ให้กัน
7 รู้จักยืดหยุ่นให้แก่กัน ให้อภัย
มีข้อ 2 และ 3 เท่านั้นที่ต้องใช้เงิน และไม่เปลืองด้วย
สุขภาพดี
1 ออกกำลังกายทุกวันที่สันเขื่อน
2 ลดแป้ง งดน้ำตาล
3 เพิ่มผัก เส้นใย และผลไม้
4 ตรวจสุขภาพทุกปี
5 ลดเค็ม ลดสีรา งดเหล่าเข้าพรรษา
6 เล่นกล้าม
7 ใช้ยาตามความจำเป็น
ข้อที่ใช้เงิน มีแค่ ข้อ 3 และ 6 เท่านั้นไม่เปลืองเลย
การเงินมั่นคง
1 มีงานประจำ รับราชการ
2 ออมร้อยละ 15
3 เงินสำรองฉุกเฉิน 6 เท่าของรายจ่าย
4 ประกันชีวิต ตายแล้วได้ สัก 2 ล้านบาท
5 บ้านและที่ดินปลอดหนี้
ผมทำได้แล้ว เหลือหนี้ไม่มากครับ
เปลี่ยนประวัติศาสตร์วงการเภสัชกรรมไทย
อันนี้เป็นเรื่องภายในครับ ....
เทคนิค คิดก่อนซื้อ 3 รอบ และการควบคุมตัวเอง
เคยไหมครับ ที่เราซื้อของแพงๆ มาแล้วพบว่า
มันไม่จำเป็นสักนิดเดียว ผมเองก็เคยเหมือนกันครับ
ที่มีก็ได้แก่ จอ LCD projector ราคาแพง
และคอมพิวเตอร์จอสัมผัส ราคา 30000 up
หลายครั้งเราซื้อของ ตามอารมณ์อยากได้ ไม่มีเหตุผล
ทำให้ชีวิตติดลบ มีหนี้สิน ชีวิตยากจนมากมาย เพราะ
ซื้อตามอา่รมณ์ ไม่คิดหน้า คิดหลังให้ดี ใจร้อนเกินไป
เทคนิค การคิดก่อนซื้อ 3 รอบ ช่วยท่านได้ โดย
จะต้องตั้งกติกากับตัวเอง ว่าหากจะซื้ออะไร อยากได้
ต้องสืบค่นหาข้อมูลเพิ่มก่อน ข้อดี ข้อเสีย ราคา
และดูว่า เราจำเป็นต้องมีมันหรือไม่ คิดรอบแรกสรุปก่อน
ทอดเวลาไว้สัก 3 วัน แล้วคิดอีกรอบว่าจำเป็นไหม
โดยในรอบที่ 2 ให้คิดว่าไม่ซื้อได้ไหม ???
ด้วยการมองหา
ความเป็นไปได้ที่เราจะไม่ซื้อ หากยังจะซื้ออยู่ รออีก 5วัน
แล้วคิดรอบที่ 3 ในประเด็นต่อไปนี้
1 มันจำเป็นไหม
2 ราคาสมเหตุผลหรือไม่
3 ข้อดี ข้อเสียคืออะไร
4 ไม่ซื้อมันจะได้ไหม
หากคิดรอบที่ 3 แล้วยังต้องซื้ออยู่ ก็ตามสบายครับ
แสดงว่าคิดมาดีแล้ว อารมณ์อยากได้ ใน 8 วันน่าจะจางแล้ว
ไม่ใช่ คิด อยากซื้อ ปุ๊บ มีอารมณ์ซื้อ ทันที แบบนี้ยากจนแน่นอน
การควบคุมตัวเองในการใช้จ่าย
1 ใช้วิธีหักเงินฝากตั้งแต่ต้นเดือน ควรออมอย่างน้อย 10% ของรายได้
แต่ผมคิดว่า ออม 15% กำลังดีครับ ยกตัวหากคุณมีเงินเดือน
เดือนละ 20000 บาท ต้องออมเดือนละ 3000 บาท จึงถือว่าผ่าน
2 การจำกัดเงินที่พกใส่กระเป๋า เช่นไม่พกเงินไปเกิน 500 บาท
แต่อาจมี ATM ไปด้วยเป็นต้น
3 การบันทึกรายจ่ายทุกวัน จะช่วยเตือนสติเราได้ดี ต้องทำทุกวัน
การเขียนจะทำให้เราชัดเจนว่าเงินเราไปไหนหมด
4 ไม่เดินไปใก้ลสถานที่ต้องเสียเงิน ผมก็ไม่เดินไปใกล้ผับ หรือ
คาเฟ่ ไม่ไปร้านหนังสือ หรือ เดินตลาด หรือ ห้างสรรพสินค้า โดยไม่
จำเป็นให้ใช้เวลา อยู่ในสถานที่ ที่ไม่เสียเงิน
คลิปที่น่าสนใจเรื่องชีวิตที่ดี
5 หาอะไรดีๆ มาทำ และเป็นกิจกรรมที่ไม่เสียเงิน อาทิเช่น
ล้างรถ วิ่งออกกำลังกาย อ่านหนังสือในบ้าน ฝึกฝนภาษาอังกฤษ
อ่านเอกสารวิชาการในสาขาอาชีพของคุณ เป็นต้น
6 ท่องคาถาประหยัดก่อนนอน 10 รอบทุกคืน
ไม่ซื้อของที่อยากได้
ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น
ประหยัดวันนี้ สบายวันนี้
7 เริ่มลงมือตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงโดยเดือนแรก
อาจจะมีเป้าหมาย ลดรายจ่าย 1000 บาท ทดลอง
ทำมันอย่างจริง และทำให้สนุก
ความยากจน ครั้งสุดท้าย ตอน บัตรเครดิตนรก
บัตรเคดิตร เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก หากใช้ไม่เป็น เพราะ???
ดอกเบี้ยมหาโหด และค่าปรับยิบย่อย น่าเกลียดมาก คือตัวปัญหา
จากบัตรเคริตรที่ทำให้เราจนลง อย่างรวดเร็ว ด้วยสาเหตุคือ
1 ดอกเบี้ยสูง
2 ค่าปรับแพง
3 เสียเงินได้สะดวกรวดเร็ว
4 อาจถูกฉ่อโกงได้
5 ทำให้ใช้จ่ายเกินตัว
6 ค่าธรรมเนียมรายปี
แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีข้อดีของบัตรเครดิตรอยู่
1 การซื้อ ที่สะดวก
2 ความคุ้มครองต่างๆ
3 รางวัล ของแถมต่างๆ
4 มีรายการสรุป
5 เป็นแหล่งเงินฉุกเฉิน
แต่อย่างไรก็ตามบัตรเคดิตรมันเอาเปรียบเราได้ เ่ช่น
ค่าธรรมเนียมรายปีแพง ดอกเบี้ยโหด
ค่าปรับ ค่าทวงถามมีตลอด งง มาก
การมีพวกมาตื๋อขายประกันทางโทรศัพท์บ่อยมาก
จ่ายเงินขาดไป 3 สตางค์ ค่าปรับ 450 บาท
ต้องจ่ายหนี้ก่อนเงินเดือนออก 3 วัน จะเอาเงินมาจากไหน
ทางแก้
1 ปิดบัตรเครดิตรให้หมดเหลือแค่ใบเดียวเท่านั้น
2 กู้เงินสหกรณ์มาปิดหนี้บัตรเครดิตร
3 ขอประนอมหนี้ บัตรเครดิตร หากไม้ไหวจริงๆ
เมื่อก่อนผมเคยมีหนี้บัตรเครดิตร 3 ใบ รวม หนี้ 150000 บาท
ต้องจ่ายหนี้เดือนละ 16000 บาท ตายครับตายสนิท
ผมหารายได้เสริม มาใช้หนี้เพิ่ม และกูสหกรณ์ มาปิดหนี้ทั้งหมดจบครับ
ข้อมูลควรรู้
ดอกเบี้ยบัตรเครดิต ร้อยละ 18 ต่อปี
ดอกเบี้ยสหกรณ์ออมทรัพย์ร้อยละ 7 ต่อปี
หนี้บัตรเครดิตร ต้องผ่อนคืนใน 10 งวด
หนี้สหกรณ์ แบ่งจ่ายได้นานถึง 240 งวด
ทดสอบ ความสนใจ รอคะแนน ครบ 35+ ก่อน เขียนกระทู้ถัดไป
อ่านกระทู้ถัดไป คลิก http://pantip.com/topic/30834867